|
ยูนิฟดึง“ออสการ์ ลู”แม่ทัพใหม่ลุยเครื่องดื่ม-อาหาร ลั่นลงบะหมี่ฯปีนี้แน่
ผู้จัดการรายวัน(24 ตุลาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ยูนิฟเปลี่ยนผู้คุมบังเหียนใหญ่ใหม่ ดึง”ออสการ์ ลู” ขึ้นแท่นกรรมการผู้จัดการคนใหม่ แทนที่ “ทีเซิน หยาง” หลังหมดวาระในไทย ยันแผนลุยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 หมื่นล้านบาท ยังอยู่ในแผน ล่าสุดเคลื่อนทัพตลาดชาเขียว เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาบาร์เลย์ แบล็กที ปักหลักลุยตลาดชาดำเต็มสูบ สิ้นปีตั้งเป้ากวาดรายได้รวม 1.4 พันล้านบาท
แหล่งข่าวจากบริษัท ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มยูนิฟ กรีนที,น้ำผลไม้เดลี่ซี และไอเฟิร์ม เปิดเผยกับ ”ผู้จัดการรายวัน” ว่า ขณะนี้บริษัทฯได้แต่งตั้งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ คือนายออสการ์ ลู ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนที่นายทีเซิน หยาง ที่เพิ่งหมดวาระการบริหารงานในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ซึ่งเป็นปกติตำแหน่งนี้ตามธรรมเนียมประเทศไต้หวัน จะผลัดตำแหน่งให้ผู้บริหารใหม่ เข้ามาดำรงตำแหน่งแทนผู้บริหารที่เข้ามาบริหารในประเทศไทยครบ 5 ปี
สำหรับกรรมการผู้จัดการคนใหม่ เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานี้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ มีรายงานแจ้งว่า ทางบริษัทฯยังไม่มีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่แต่อย่างใด ส่วนแผนการเปิดตัวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรายูนิฟ หนึ่งในสินค้ากลุ่มอาหารจากประเทศไต้หวัน ที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย นำร่องก่อนจะรุกตลาดอาหารอย่างเต็มรูปแบบ ยังอยู่ในแผนเดิมอยู่แม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนกรรมการผู้จัดการคนใหม่ก็ตาม
ทั้งนี้การทำตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท เดิมทียูนิฟจะนำเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังนี้ โดยเลือกบรรจุภัณฑ์โบลว์หรือชามเข้ามาทดลองตลาดก่อน ซึ่งมีแผนจะจำหน่ายผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ทั้งนี้หากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ได้วางแผนที่จะผลิตขึ้นที่ประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้ามาดำรงตำแหน่งใหม่ของนายออสการ์ ลู บังเหียนคนใหม่ของยูนิฟเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะก้าวใหม่ในการรุกกลุ่มอาหาร เพื่อผลักดันให้ผลประกอบการโดยรวมของบริษัทฯมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากโครงสร้างรายได้หลัก 30%ของบริษัทฯมาจากธุรกิจชาเขียวพร้อมดื่มภายใต้ตรายูนิฟ ซึ่งสภาพตลาดชาเขียวพร้อมดื่มในไทยมูลค่า 4,000 –5,000ล้านบาท กำลังอยู่ในช่วงขาลง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายทีเซิน หยาง ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ได้วางนโยบายให้ความสำคัญเป็น 3 ลำดับ ประกอบด้วย ลำดับแรก โฟกัสกลุ่มชาเขียว-น้ำผักและผลไม้ กลุ่มธุรกิจลำดับสอง ต่อไป คือ น้ำผลไม้ และสปอร์ตดริ้งก์ และอันดับสุดท้าย คือ การรุกตลาดชาพร้อมดื่มในเซกเมนต์ใหม่นอกเหนือจากชาเขียว
สำหรับความเคลื่อนไหวของชาเขียวพร้อมดื่มยูนิฟล่าสุดได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ภายใต้การสื่อสารฟังก์ชันนัล ชาเขียวที่ดีต้องมาจากยอดใบชาอ่อน หลังจากก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการต้องการผลักดันให้ตลาดมีอัตราการเติบโต โดยหันมาผลักดันด้านอีโมชันนัลหรือชูจุดขายด้านความสดชื่น เพื่อช่วงชิงกับเครื่องดื่มเซกเมนต์อื่นๆ อาทิ น้ำอัดลม
โดยการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ ยูนิฟเลือกชูผลิตภัณฑ์ชาดำพร้อมดื่ม”บาร์เลย์ แบล็กที”เข้ามาเป็นรสชาติที่จะทำตลาดในเชิงรุก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตลาดชาดำปัจจุบันมีมูลค่า 800 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15 %ของตลาดชาพร้อมดื่ม ซึ่งเป็นตลาดที่เล็กมีคู่แข่งน้อยราย โดยมีเพียงลิปตัน จากค่ายเป๊ปซี่เข้ามาดำเนินการตลาดอย่างจริงจัง จึงทำให้บริษัทเล็งเห็นช่องว่างทางการตลาด
ภาพรวมตลาดชาพร้อมดื่ม 4,000 -5,000 ล้านบาท ปีนี้ในเชิงมูลค่าอาจจะลดลงแต่ในแง่ปริมาณไม่ลดลง โดยตลาดยูเอชทีหรือชนิดกล่องลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสัดส่วนไม่ถึง 10% ของตลาดรวม สำหรับผู้นำตลาดชาเขียวยังเป็นโออิชิ กรีนทีครองส่วนแบ่ง 60% อันดับที่สองคือ ยูนิฟ 20% เซนชะมี 6% เพียวริคุ 3% โมชิ 2%
สำหรับผลประกอบการปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้า 1.4 พันล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็น ยูนิฟ กรีน ที 30% ยูนิฟน้ำผักและผลไม้ 40% กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มให้พลังงาน ยูนิฟ-ไอเฟิร์ม 10% กลุ่มผลิตภัณฑ์กาแฟ A-Ha 10% และผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 10%
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|