เพาเวอร์บายตะลุยผุด10สาขาปีหน้ากลุ่มเอวีแรง-รูดบัตรเครดิตเติบโตสูง


ผู้จัดการรายวัน(19 ตุลาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

เพาเวอร์บาย เดินหน้าไม่ยั้ง ทุ่มเม็ดเงินอีกอย่างน้อย 18 ล้านบาท เตรียมเปิดอีก 10 สาขา ทั่วประเทศปีหน้า เผยกำลังซื้อกำลังฟื้นตัว การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมาแรงไล่บี้บัตรสินค้าเงินผ่อน ล่าสุดเผยโฉมเพาเวอร์บาย แฟลกชิพสโตร์ บนพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร มั่นใจยอดขายกระฉูดเดือนละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เสริมทัพดันยอดรายได้รวมปีนี้แตะ 11,000 ล้านบาท

นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด ในเครือซีอาร์ซีเปิดเผยว่า บริษัทฯได้วางทิศทางการดำเนินธุรกิจปีหน้าไว้แล้วในขณะนี้ แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ โดยเบื้องต้นนั้น บริษัทฯวางแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มอีกอย่างน้อย 10 สาขา ทั่วประเทศ และเป็น เพาเวอร์บาย ไอที ประมาณ 5 สาขา โดยคาดว่าจะใช้เม็ดเงินในการลงทุนประมาณ 18 ล้านบาท และคาดว่าในปีหน้าบริษัทฯจะมีรายได้เติบโตขึ้นอีก 20%

ขณะที่เป้ารายได้ในปีนี้บริษัทฯวางไว้ที่ 11,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10% จาก 10,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา แต่ต้องยอมรับว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับผลกระทบหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นช่วงบอลโลกที่ส่งผลให้รายได้ช่วงเวลาดังกล่าวสูงขึ้น หรือช่วงการปฎิวัติที่ผ่านมาที่ทำให้ตลาดชะลอตัวลงไปบ้างประมาณ 2-3 อาทิตย์ แต่ขณะนี้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกำลังกลับมาอีกครั้ง จึงคาดว่าถึงสิ้นปีบริษัทฯจะมีรายได้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ หรืออาจบวกลบที่ 1-2% เท่านั้น

อีกทั้งตัวสินค้าเองที่มีอัตราการเติบโตสูง โดยเฉพาะสินค้าในหมวดเอวี อย่าง แอลซีดีทีวี และหมวดไอที ที่ปัจจุบันเริ่มมีรุ่นให้เลือกมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญราคาต่ำลง ผู้บริโภคมีกำลังพอที่จะซื้อนั้นเอง สังเกตได้จากช่วงกลางปีเป็นต้นมา ยอดขายที่มาจากกลุ่มเงินผ่อนกำลังเป็นที่นิยมสูง โดยเฉพาะการผ่อนสินค้าผ่านบัตรเครดิตช่วงนี้ กลับมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นสูงมาก แต่ยังไม่เท่ากับการผ่อนสินค้าผ่านบัตรสินเชื่อต่างๆ ขณะที่ปัจจุบัน เพาเวอร์บาย มีฐานจำนวนสมาชิกบัตรเพาเวอร์บายอยู่ที่ 3 แสนราย เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 5% โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมในการซื้อผ่านวิธีการผ่อนนั้น จะเป็นสินค้าชิ้นใหญ่ อาทิ โทรทัศน์ ตู้เย็น และ คอมพิวเตอร์

ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัวสาขาใหม่ขึ้น ภายใต้ชื่อ เพาเวอร์บาย แฟลกชิพสโตร์ บนพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร ถูกจัดออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ คือ Hi-Tech World, Home Appliance World, Audio Visual Worldและ Music Instrument World มีสินค้าให้เลือกซื้อกว่า 25,000 รายการ ที่ เซ็นทรัลเวิลด์ กับงบประมาณในการลงทุนกว่า 140 ล้านบาท แบ่งเป็นการก่อสร้าง 50 ล้านบาท สต๊อกสินค้า 50 ล้านบาท และด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ 40 ล้านบาท โดยเริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายในแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท หรือช่วยเพิ่มยอดขายให้บริษัทฯอีกอย่างน้อย 500 ล้านบาท ในสิ้นปีนี้

นายสุทธิสาร กล่าวต่อว่า เพาเวอร์บาย แฟลกชิพสโตร์ จะเน้นจำหน่ายสินค้าเป็นกลุ่มแมส เจาะกลุ่มผู้บริโภคทุกระดับ รวมไปถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่คาดว่าจะให้ความสนใจเข้ามาซื้อสินค้าในกลุ่มไอที มากขึ้น คิดเป็นสัดส่วนถึง 20% จากจำนวนกลุ่มลูกค้าทั้งหมด ซึ่งจะมีความแตกต่างจาก เพาเวอร์บาย ที่สาขา เซ็นทรัล ชิดลม ที่จะเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มนีช ในระดับบนขึ้นไป

สำหรับ เพาเวอร์บาย แฟลกชิพสโตร์ นั้น ถือเป็นอีก 1 สาขา ที่ทางบริษัทฯได้วางเป้าหมายที่จะเปิดในปีนี้รวม 10-15 สาขา ซึ่งหลังจากนี้ไปจนถึงปลายปี คาดว่าจะมีการเปิดสาขาเพิ่มอีก 2-3 สาขา อาทิ เพาเวอร์บาย ที่ จังหวัด ระยอง และ เพาวเวอร์บาย ไอที ที่เซ็นทรัล พระรามสอง

**แย้มเตรียมลุยตลาดต่างประเทศ**

อย่างไรก็ตาม สำหรับการลงทุนในต่างประเทศนั้น เพาเวอร์บาย นายสุทธิสาร ได้กล่าวว่า ขณะที่ทางเครือบริษัทฯเซ็นทรัลเอง ได้มีการยื่นข้อเสนอให้กับผู้ให้เช่าพื้นที่ใน 3 ประเทศหลักๆไปแล้ว คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และ เวียดนาม ซึ่งการที่จะไปลงทุนดำเนินธุรกิจในต่างประเทศนั้น ส่วนตัวมองว่า ทางเครือบริษัทฯจะเข้าไปลงทุนเองทั้งหมด ไม่มีการจับมือกับหรือทำการจอยน์เวนเจอร์กันแต่ประการใด ซึ่งความพร้อมที่จะลงทุนนั้น ถือได้ว่าเตรียมพร้อมไว้เป็นที่ยแล้ว ขึ้นอยู่กับทางเช่าพื้นที่ของทั้ง 3 ประเทศมากกว่าว่า จะตอบกลับมาเป็น ซึ่งหากผู้เช่าในประเทศใดตอบรับกลับมา ทางเครือบริษัทฯก็สามารถดำเนินการได้ทันที


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.