|
ภาครัฐ-เอกชนเร่งออกบอนด์คาดปี50มูลค่ารวมเพิ่ม 20%
ผู้จัดการรายวัน(18 ตุลาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ThaiBMA ฟุ้งปี 50 ปีทองตลาดตราสารหนี้ คาดมูลค่าออกบอนด์เพิ่มขึ้น 20% จากปีนี้คาดว่าทั้งปีอยู่ที่ 2.2 ล้านล้านบาท หลังปัจจัยการเมืองชัดเจนกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม ดอกเบี้ยลดลง หนุนการเทรดคึกคักกว่า 2.5หมื่นล้านบาทต่อวัน จากปีนี้อยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท พร้อมเสนอให้แก้กฎหมายออกออกบอนด์ของภาครัฐหวังเพิ่มสภาพคล่อง
นายณัฐพล ชวลิตชีวิน กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า คาดว่าปริมาณการออกตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและเอกชนในปี2550 จะเพิ่มขึ้น 20% จากปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 2.2 ล้านบาทบาท เนื่องจากปัจจัยการเมืองมีความชัดเจนขึ้น ทำให้มีการใช้จ่ายภาครัฐดีขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศคาดเติบโตในระดับ 5-5.5% จากปีนี้ที่ 4.2-4.5% จึงต้องมีการระดมทุนเพื่อนำเงินไปลงทุนซึ่งวิธีการระดมทุนทุนส่วนหนึ่งก็จะเป็นการออกตราสารหนี้
นอกจากนี้ การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันทำให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง ประชาชนเหลือเงินมากขึ้นก็สามารถเข้ามาซื้อขายตราสารหนี้มากขึ้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในปีหน้านั้นจะส่งผลให้นักลงทุนนำตราสารหนี้ออกมาซื้อขายมากขึ้น โดยคากว่าปริมาณการซื้อขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 25,000 ล้านบาทต่อวัน จากปีนี้ที่มีปริมาณการซื้อขาย 22,000 ล้านบาทต่อวัน
“ปีหน้าถือว่าเป็นปีทองของตลาดตราสารหนี้จากการเมืองมีความชัดเจนทำให้การใช้จ่ายของภาครัฐดีขึ้นและส่งผลให้เศรษฐกิจรวมมีการเติบโตมากขึ้น โดยปัจจัยเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่น่าจะปรับตัวลดลงทำให้นักลงทุนนำตราสารหนี้ออกมาขายมากขึ้น โดยผู้ที่ออกตราสารมากคือภาครัฐที่คาดว่าจะออกอีก 1-1.5ล้านล้านบาทจากที่ตราสารหนี้ที่ออกในปีนี้จะครบอายุ”นายณัฐพลกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้คณะกรรมการตลาดตราสารหนี้ จะมีการประชุมเพื่อเสนอให้ทางบอร์ดมีการพิจารณาในเรื่องการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการซื้อขายตั๋วเงินระยะสั้น (B/E) เป็นรายปีจากผู้ประกอบการที่ออกตราสารหนี้เพื่อลดภาระการดำเนินงานของทางตลาดตราสารหนี้ โดยผู้ออกB/Eจะต้องมีการแจ้งให้ทางตลาดตราสารหนี้ทราบล่วงหน้าว่าทั้งปีจะมีการออกเท่าไร
นายณัฐพล กล่าวอีกว่า การประชุมครั้งนี้จะมีการหารือว่าจะทำอย่างไรให้ทางบริษัทหลักทรัพย์ หันมาเพิ่มปริมาณการทำธุรกรรมตราสารหนี้มากขึ้น จากขณะนี้ที่มีการทำธุรกรรมดังกล่าวน้อยมาก เพราะบริษัทหลักทรัพย์ยังไม่มีความจำเป็นในการทำธุรกรรมดังกล่าวเพื่อเพิ่มรายได้ ประกอบกับสภาพคล่องในตลาดสารหนี้มีน้อยทำให้ได้รับผลตอบแทนที่น้อย
นอกจากนี้จะมีการหารือในเรื่องการเสนอให้มีการแก้กฎหมายในเรื่องการออกตราสารหนี้ของภาครัฐให้สามารถออกตราสารหนี้ได้ในช่วงที่ดุลบัญชีเดินสะพันเกินดุล จากที่ขณะนี้กฎหมายระบุว่าภาครัฐจะสามารถออกตราสารหนี้ได้ในช่วงที่มีการขาดดุลเดินสะพัดเท่านั้น ซึ่งหากมีการแก้กฎหมายดังกล่าวก็จะช่วยทำให้สภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้มากขึ้นและเป็นการแก้ปัญหาตรงจุด และการที่จะผลักดันทำให้ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้คิดเป็น 80% ของGDP นั้นจะต้องมีกาแก้กฎหมายดังกล่าว
“การที่จะผลักดันให้ตลาดตราสารหนี้มีการซื้อขายคิดเป็น 80% ของGDP ดังนั้นในแต่ละปีจะต้องมีการเติบโตของการออกตราสารหนี้ปีละ 15% ซึ่งการที่จะทำได้นั้นจะต้องมีการแก้กฎหมายให้ภาครัฐสามารถออกบอนด์ได้แม้จะยังคงเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ”นายณัฐพลกล่าว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|