ตีสี่ครึ่งของวันอังคารเป็นเวลาที่ผู้คนหลับใหล รวมทั้ง James และ Alex
ด้วย ในขณะเดียวกันที่ Peter เพิ่งกลับมาจากปาร์ตี้วันเกิดเพื่อน เขากำลังเมาด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์หลากชนิด
เขารู้ว่าเวลาเท่าไร เขารู้แต่เขาไม่คิดเพราะเหล้าทำให้ขาดสติ เขาเดินตรง
ไปที่ห้องนั่งเล่นพร้อมเปิดเพลง Roxanne ของ Sting พร้อมกับดื่มไวน์แดงก่อนนอน
(เช้า)
เหตุการณ์ต่อไปไม่ต้องบอกก็คงจะทราบกันนะครับว่า James, Alex จะต้องมีปัญหากันแน่นอนตัวอย่างข้างบนนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นประจำของคนอยู่ร่วมหลังคาเดียวกัน
หรือที่ในอังกฤษเรียกว่า Flatmate
การที่คนเรามาจากต่างที่ต่างทางการอบรมเลี้ยงดูและทัศนคติต่างกันก็ทำให้เกิดปัญหาในการอยู่ร่วมกันขึ้น
การเป็นเพื่อนที่ดีหรือเพื่อนสนิทไม่ได้หมายความว่าจะเป็น Flatmate ที่ดีนะครับ
เด็กปีหนึ่งในมหาวิทยาลัย Edinburgh ส่วนมากจะอยู่ Halls of Residence
หอพักเป็นบ้านๆ ไป ส่วนมากจะอยู่ร่วมกันเยอะๆ ไม่ต้อง ทำอาหารเอง ทานที่โรงอาหาร
พอมาที่ปีที่สองเริ่มอยากจะใช้ชีวิตอิสระกับเพื่อนๆ จึงไปหาบ้านอยู่กันปัญหานั้นเริ่มมาตั้งแต่ใครจะอยู่กับใครแล้วกัน
ทุกคนมีแผนว่าใครจะอยู่กับใครแต่แผนของคนแต่ละคนอาจจะไม่ตรงกัน นาย A อาจจะอยู่กับนาย
B แต่นาย B ไม่อยากอยู่กับนาย A กลับไปอยากอยู่กับนาย C และ D แทน นาย D
ไม่อยากอยู่กับ B แต่อยากอยู่กับ A พูดง่ายๆ ว่าเป็นปัญหาโลกแตก บางคนก็อยากอยู่กับ
2 หญิง 2 ชาย ทุกคน มีเงื่อนไขด้วยกันทั้งนั้น
จึงไม่แปลกที่เปลี่ยนว่าจะอยู่จะแชร์กับใครกันหลายครั้งก่อนที่จะอยู่ด้วยกันจริง
เพื่อนในกลุ่มบางคนถึงกับเศร้ากันเลยก็มีครับที่ไม่มีใครอยากอยู่ด้วย
พอไปดู Flat กันก็เกิดปัญหาเพิ่มขึ้นมาอีกว่าจะอยู่แถวไหน แต่ละคนถูกใจห้องและ
Area ที่จะอยู่ไม่ตรงกัน Flat ก็ใช่ว่าจะหากันง่ายๆ นะครับแถมต้องจ่ายค่ามัดจำกันด้วย
เรื่องเงินก็เลยเป็นปัญหาเพิ่มมาอีก
พอได้มาอยู่กันจริงแล้วก็มีอะไรที่ต้องปรับตัวกันอีกเยอะ เรื่องที่เป็นปัญหามากคือ
ความสะอาด ถ้าผู้ชายโสดด้วยกันความโสมมของสถานที่ก็จะไม่สนใจกันเท่าไรนะครับ
นอกจากเวลาจะพาสาวมาทานข้าวที่บ้าน แต่ว่าถ้าแชร์บ้านกับผู้หญิงขึ้นมาเป็นเรื่องเลย
จานต้องล้าง เสื้อผ้าต้องซัก ห้องน้ำต้อง เอี่ยม อนามัยมากครับ อย่าคิดว่าผู้ชายที่แชร์บ้านกับผู้หญิงสวยๆ
4 คนจะเป็นคนที่มีความสุขเสมอไปนะครับ ในกรณีเพื่อนผมคนหนึ่งมีปัญหาอย่างมากกับการที่ต้องอยู่กับนางแบบสาวสวยทั้งสี่
คือว่าสาวๆ เหล่านี้อนามัยจัด แล้วจะใช้เพื่อนผมเก็บกวาดซ่อมแซมทุกสิ่งทุกอย่าง
นอกจากนั้นเพื่อนผมโดนบังคับกลายๆ ให้ดูละครต่างๆ ที่พวกเธอชอบดู รวมถึงเวลาเช่าวิดีโอ
ก็ต้องเช่า Romantic Comedy หนุ่มๆ ไม่ซ้ำหน้าก็แวะเวียนมาที่บ้านเสมอ ทำให้เขาต้องเป็นโอเปอ
เรเตอร์รับโทรศัพท์ไปโดยปริยายรวมถึงสับรางรถไฟให้ด้วยครับ เขาไม่รู้จะปรับทุกข์แบบผู้ชายกับใครจึงต้องทุกข์ระทมอยู่คนเดียว
ในทางกรณี Flatmate เปลี่ยนมาเป็นแฟน ทำให้ตอนเลิกกันมีปัญหาเพราะแทนที่จะเลิกกันแล้วห่างกัน
ด้วยต้องมาเจอหน้ากัน
ในบางกรณีก็เอาแฟนอีกคนมาอยู่ด้วย จึงทำให้ Flatmate ที่เหลือไม่พอใจไม่รู้ว่าจะพูดยังไง
เช่นจะให้แฟนของ Flatmate ช่วยจ่ายค่ากับข้าวด้วยหรือเปล่า ? บางทีก็มาจู้จี้ถึงห้องครัว
ห้องน้ำ จนทุกคนกระอักกระอ่วนที่จะพูดตรงๆ ว่าไม่พอใจ
เรื่องเงินก็เป็นปัญหาสำคัญ ค่าน้ำค่าไฟ แบ่งกันไม่เคยลงตัว จะรู้ได้ไงว่าใครใช้มากใช้น้อย
การเก็บเงิน ยืมเงินก็เป็นเรื่องใหญ่ครับ ตัดเพื่อนกันก็มีมาแล้ว
ครับ แต่การที่มี Flatmate ก็ใช่ว่าจะไม่ดีเสมอ ไปนะครับ เวลาที่คุณมีทุกข์
เขาก็เป็นที่ปลอบโยน เป็น ที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ถ้าเรียนเหมือนกันก็ทำการบ้านด้วยกัน
ไม่สบายก็เฝ้าไข้ ทำกับข้าวด้วยกัน เป็นที่พึ่งพิงกัน ตัวอย่างเช่น เมื่อไม่นานมานี้เพื่อนผมเป็นหอบเกือบตายก็ได้
Flatmate ช่วยไว้ละครับ ถ้าอยู่คนเดียวป่านนี้ก็คงจะเสียชีวิตโดยไม่มีใครทราบแล้วคนเราอารมณ์เหงาก็มีบ้าง
บางทีการมีคนอยู่ใกล้ๆ ก็เป็นการที่ให้สบายใจครึกครื้นขึ้น
สิ่งที่สำคัญคือการปรับตัวเข้าหากันและกัน เข้าใจซึ่งกันและกันยอมรับในข้อดีข้อเสียของคนที่อยู่ร่วมด้วย
มีน้ำใจรู้จัก give and take และที่สำคัญมากคือรู้จักอภัย การกระทบกระทั่งกันเป็นสิ่งธรรมดา
เป็นแค่เพียงบทพิสูจน์บทหนึ่งของความเป็นเพื่อน (friendship) ทุกคนควรจะเรียนรู้ที่จะเข้าใจอีกฝ่าย
หนึ่ง แต่ถ้าฝืนเกินไปก็อย่าอยู่ด้วยกันเลยครับ