ร่วมหลังคาเดียวกัน

โดย ธีรัส บุญ-หลง
นิตยสารผู้จัดการ( กุมภาพันธ์ 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

ตีสี่ครึ่งของวันอังคารเป็นเวลาที่ผู้คนหลับใหล รวมทั้ง James และ Alex ด้วย ในขณะเดียวกันที่ Peter เพิ่งกลับมาจากปาร์ตี้วันเกิดเพื่อน เขากำลังเมาด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์หลากชนิด เขารู้ว่าเวลาเท่าไร เขารู้แต่เขาไม่คิดเพราะเหล้าทำให้ขาดสติ เขาเดินตรง ไปที่ห้องนั่งเล่นพร้อมเปิดเพลง Roxanne ของ Sting พร้อมกับดื่มไวน์แดงก่อนนอน (เช้า)

เหตุการณ์ต่อไปไม่ต้องบอกก็คงจะทราบกันนะครับว่า James, Alex จะต้องมีปัญหากันแน่นอนตัวอย่างข้างบนนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นประจำของคนอยู่ร่วมหลังคาเดียวกัน หรือที่ในอังกฤษเรียกว่า Flatmate

การที่คนเรามาจากต่างที่ต่างทางการอบรมเลี้ยงดูและทัศนคติต่างกันก็ทำให้เกิดปัญหาในการอยู่ร่วมกันขึ้น การเป็นเพื่อนที่ดีหรือเพื่อนสนิทไม่ได้หมายความว่าจะเป็น Flatmate ที่ดีนะครับ

เด็กปีหนึ่งในมหาวิทยาลัย Edinburgh ส่วนมากจะอยู่ Halls of Residence หอพักเป็นบ้านๆ ไป ส่วนมากจะอยู่ร่วมกันเยอะๆ ไม่ต้อง ทำอาหารเอง ทานที่โรงอาหาร พอมาที่ปีที่สองเริ่มอยากจะใช้ชีวิตอิสระกับเพื่อนๆ จึงไปหาบ้านอยู่กันปัญหานั้นเริ่มมาตั้งแต่ใครจะอยู่กับใครแล้วกัน ทุกคนมีแผนว่าใครจะอยู่กับใครแต่แผนของคนแต่ละคนอาจจะไม่ตรงกัน นาย A อาจจะอยู่กับนาย B แต่นาย B ไม่อยากอยู่กับนาย A กลับไปอยากอยู่กับนาย C และ D แทน นาย D ไม่อยากอยู่กับ B แต่อยากอยู่กับ A พูดง่ายๆ ว่าเป็นปัญหาโลกแตก บางคนก็อยากอยู่กับ 2 หญิง 2 ชาย ทุกคน มีเงื่อนไขด้วยกันทั้งนั้น

จึงไม่แปลกที่เปลี่ยนว่าจะอยู่จะแชร์กับใครกันหลายครั้งก่อนที่จะอยู่ด้วยกันจริง เพื่อนในกลุ่มบางคนถึงกับเศร้ากันเลยก็มีครับที่ไม่มีใครอยากอยู่ด้วย

พอไปดู Flat กันก็เกิดปัญหาเพิ่มขึ้นมาอีกว่าจะอยู่แถวไหน แต่ละคนถูกใจห้องและ Area ที่จะอยู่ไม่ตรงกัน Flat ก็ใช่ว่าจะหากันง่ายๆ นะครับแถมต้องจ่ายค่ามัดจำกันด้วย เรื่องเงินก็เลยเป็นปัญหาเพิ่มมาอีก

พอได้มาอยู่กันจริงแล้วก็มีอะไรที่ต้องปรับตัวกันอีกเยอะ เรื่องที่เป็นปัญหามากคือ ความสะอาด ถ้าผู้ชายโสดด้วยกันความโสมมของสถานที่ก็จะไม่สนใจกันเท่าไรนะครับ นอกจากเวลาจะพาสาวมาทานข้าวที่บ้าน แต่ว่าถ้าแชร์บ้านกับผู้หญิงขึ้นมาเป็นเรื่องเลย จานต้องล้าง เสื้อผ้าต้องซัก ห้องน้ำต้อง เอี่ยม อนามัยมากครับ อย่าคิดว่าผู้ชายที่แชร์บ้านกับผู้หญิงสวยๆ 4 คนจะเป็นคนที่มีความสุขเสมอไปนะครับ ในกรณีเพื่อนผมคนหนึ่งมีปัญหาอย่างมากกับการที่ต้องอยู่กับนางแบบสาวสวยทั้งสี่ คือว่าสาวๆ เหล่านี้อนามัยจัด แล้วจะใช้เพื่อนผมเก็บกวาดซ่อมแซมทุกสิ่งทุกอย่าง

นอกจากนั้นเพื่อนผมโดนบังคับกลายๆ ให้ดูละครต่างๆ ที่พวกเธอชอบดู รวมถึงเวลาเช่าวิดีโอ ก็ต้องเช่า Romantic Comedy หนุ่มๆ ไม่ซ้ำหน้าก็แวะเวียนมาที่บ้านเสมอ ทำให้เขาต้องเป็นโอเปอ เรเตอร์รับโทรศัพท์ไปโดยปริยายรวมถึงสับรางรถไฟให้ด้วยครับ เขาไม่รู้จะปรับทุกข์แบบผู้ชายกับใครจึงต้องทุกข์ระทมอยู่คนเดียว

ในทางกรณี Flatmate เปลี่ยนมาเป็นแฟน ทำให้ตอนเลิกกันมีปัญหาเพราะแทนที่จะเลิกกันแล้วห่างกัน ด้วยต้องมาเจอหน้ากัน

ในบางกรณีก็เอาแฟนอีกคนมาอยู่ด้วย จึงทำให้ Flatmate ที่เหลือไม่พอใจไม่รู้ว่าจะพูดยังไง เช่นจะให้แฟนของ Flatmate ช่วยจ่ายค่ากับข้าวด้วยหรือเปล่า ? บางทีก็มาจู้จี้ถึงห้องครัว ห้องน้ำ จนทุกคนกระอักกระอ่วนที่จะพูดตรงๆ ว่าไม่พอใจ

เรื่องเงินก็เป็นปัญหาสำคัญ ค่าน้ำค่าไฟ แบ่งกันไม่เคยลงตัว จะรู้ได้ไงว่าใครใช้มากใช้น้อย การเก็บเงิน ยืมเงินก็เป็นเรื่องใหญ่ครับ ตัดเพื่อนกันก็มีมาแล้ว

ครับ แต่การที่มี Flatmate ก็ใช่ว่าจะไม่ดีเสมอ ไปนะครับ เวลาที่คุณมีทุกข์ เขาก็เป็นที่ปลอบโยน เป็น ที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ถ้าเรียนเหมือนกันก็ทำการบ้านด้วยกัน ไม่สบายก็เฝ้าไข้ ทำกับข้าวด้วยกัน เป็นที่พึ่งพิงกัน ตัวอย่างเช่น เมื่อไม่นานมานี้เพื่อนผมเป็นหอบเกือบตายก็ได้ Flatmate ช่วยไว้ละครับ ถ้าอยู่คนเดียวป่านนี้ก็คงจะเสียชีวิตโดยไม่มีใครทราบแล้วคนเราอารมณ์เหงาก็มีบ้าง บางทีการมีคนอยู่ใกล้ๆ ก็เป็นการที่ให้สบายใจครึกครื้นขึ้น

สิ่งที่สำคัญคือการปรับตัวเข้าหากันและกัน เข้าใจซึ่งกันและกันยอมรับในข้อดีข้อเสียของคนที่อยู่ร่วมด้วย มีน้ำใจรู้จัก give and take และที่สำคัญมากคือรู้จักอภัย การกระทบกระทั่งกันเป็นสิ่งธรรมดา เป็นแค่เพียงบทพิสูจน์บทหนึ่งของความเป็นเพื่อน (friendship) ทุกคนควรจะเรียนรู้ที่จะเข้าใจอีกฝ่าย หนึ่ง แต่ถ้าฝืนเกินไปก็อย่าอยู่ด้วยกันเลยครับ



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.