คาเธ่ย์ฯงัดแผนเชื่อมลงทุน3ชาติปูทางเพิ่มลูกค้า


ผู้จัดการรายวัน(18 ตุลาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

คาเธ่ย์แปซิฟิคปูทางเพิ่มลูกค้านักธุรกิจ จับมือสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง และพันธมิตรอื่นๆ จัดโครงการ “เดอะ วิง อวอร์ดส์ “ มอบรางวัล แก่บริษัทไทย ที่เข้าไปทำธุรกิจที่ฮ่องกง หวังผลระยะยาวตอกย้ำแบรนด์ คาเธ่ย์ และดรากอนแอร์ ที่มีเส้นทางบินสู่ประเทศจีนถึง 33 เดสติเนชั่น ระบุพร้อมดันฮ่องกงขึ้นเป็นเกทเวย์สู่การลงทุนในประเทศจีน กำหนดสเปกที่สนใจใน 4 ธุรกิจหลัก การเงิน ท่องเที่ยว ขนส่ง และ บริการ

นายแพทริค เยือง ผู้จัดการประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิคเปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวโปรแกรม “เดอะ วิง อวอร์ดส์” ครั้งแรกในประเทศไทย และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากโปรแกรมดังกล่าวประสบความสำเร็จมาแล้วจากการเปิดตัวที่ประเทศ เนเธอร์แลนด์ และ อังกฤษ

ทั้งนี้ “เดอะ วิง อวอร์ดส์” คือ รางวัลที่คาเธ่ย์ จะมอบให้แก่ บริษัทของคนไทย ที่ไปดำเนินกิจการอยู่ในประเทศฮ่องกง หรือ ประเทศจีน แล้วประสบความสำเร็จ มีผลตอบแทนการลงทุนที่ดี ซึ่งรางวัลนี้ มีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมให้เกิดการลงทุนระหว่าง 3 ประเทศคือ ไทย ฮ่องกง และจีน

ให้มีการทำธุรกิจร่วมกัน โดยใช้ฮ่องกงเป็นจุดเชื่อมต่อของนักธุรกิจไทยที่ต้องการเข้าไปค้าขาย หรือ ทำธุรกิจในประเทศจีน โดยมีการตั้งออฟฟิศที่ประเทศฮ่องกง สำหรับเป็นประตูสู่การทำธุรกิจในประเทศจีน

โครงการนี้ จะช่วยให้ สายการบิน คาเธ่ย์ ได้ประโยชน์จากลูกค้าใน 2 กลุ่ม คือ ลูกค้าประจำที่เดินทางไปฮ่องกงด้วยสายการบินคาเธ่ย์ และกลุ่มผู้ที่ยังไม่เคยใช้บริการสายการบินคาเธ่ย์ ให้เข้ามาลองใช้บริการ ทั้งนี้เพราะ โครงการนี้ คาเธ่ย์ ได้ร่วมกับพันธมิตร คือสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง สภาพัฒนาการค้าฮ่องกงและอินเดีย หอการค้าไทย-จีน และกลุ่มเดอะเนชั่น ซึ่งบริษัทที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะได้รับข้อมูลการลงทุนในประเทศจีนและฮ่องกง จาก สำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง พร้อมตอบข้อสงสัยในทุกมุมมอง ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับแนวทางการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก

ส่วนในระยะยาว คาเธ่ย์ จะได้ประโยชน์จากการขยายตัวของธุรกิจที่ทำให้มีการเดินทางกันระหว่างนักธุรกิจของทั้งไทยและฮ่องกงเพิ่มขึ้น และยังช่วยตอกย้ำให้ผู้โดยสารได้ทราบว่า คาเธ่ย์ ยังมีสายการบิน ดรากอนแอร์ ที่ให้บริการเส้นทางบินไป 33 เมืองในประเทศจีน

อย่างไรก็ตาม เดอะ วิง อวอร์ดส์ จะมีทั้งสิ้นรวม 3 รางวัล คือ 1.รางวัล พลาตินัม มอบให้แก่ บริษัทไทยที่โดดเด่นด้านความคิดสร้างสรรค์ และมีแผนจะประกอบธุรกิจระยะยาวในฮ่องกงและจีน 2.รางวัลเอมเมอรัลด์ วิง มอบให้กับบริษัทไทยที่ทำคุณประโยชน์ต่อสังคม สิ่งแวดล้อมและชุมชนที่ตนดำเนินธุรกิจ และ3. รางวัลไดมอนด์ วิง มอบให้แก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทยซึ่งมีพนักงานไม่เกิน 250 คน ที่ประสบความสำเร็จในฮ่องกงและจีน โดยผู้สนใจสมัครเข้ารับรางวัล จะต้องมีคุณสมบัติ เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศ”ทย มีพนักงานปฏิบัติงานที่ประเทศฮ่องกง หรือจีน มีผลตอบแทนการลงทุนที่ดี และมีแผนดำเนินงานและลงทุนในสองประเทศดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

ทางด้านนาย เค เค แลม ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง กล่าวว่า ปัจจุบันรายได้ประชาชาติต่อหัวของประชากรฮ่องกง (จีดีพี) กว่า 90% มาจากธุรกิจบริการ ซึ่งในที่นี้จะรวมถึงธุรกิจการบินด้วย ดังนั้นเพื่อสนับสนุนให้ประเทศฮ่องกง เป็นศูนย์กลางการลงทุน

และเป็นประตูสู่การลงทุนในประเทศจีน ดังนั้นฮ่องกงจึงสนับสนุนให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนด้วยการจัดเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ หรืออยู่ที่ประมาณ 17.5% ของรายได้ ขณะที่ประเทศอื่น เช่น สิงคโปร์ จะเก็บภาษีรายได้ที่ 21% ส่วนญี่ปุ่นจัดเก็บที่ 50%

โดยธุรกิจที่ฮ่องกงต้องการส่งเสริมให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน ได้แก่ ธุรกิจบริการท่องเที่ยว การเงิน และ ขนส่ง เป็นต้น ซึ่งเราต้องการให้นักธุรกิจมองเห็นศักยภาพของฮ่องกง

ว่าเป็นโลเกชั่นที่เหมาะแก่การตั้งออฟฟิต สำนักงาน สำหรับติดต่อประสานงานไปยังประเทศอื่นๆ โดยมีการผลิต อยู่ที่ประเทศจีน โดยเฉพาะในแถบพื้นที่ กวางเจา เฉินตู เซียงไฮ และปักกิ่ง ขณะที่ประเทศไทยจะมีพื้นฐานที่ดีเรื่องของทรัพยากร หรือวัตถุดิบ ที่จะส่งไปผลิตที่ประเทศจีน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.