SCCไตรมาส4เตรียมรับเงิน6,300ล้านบาทหลังเฉือนSUSและกลุ่มไทยซีอาร์ทีเลิกผลิต


ผู้จัดการรายวัน(17 ตุลาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

SCC เตรียมรับเงินไตรมาส 4 นี้ ถึง 6,300 ล้านบาท หลังลดสัดการถือหุ้นใน สยามยูไนเต็ดสตีล จาก 19.5% เหลือ 5% โดยรับประมาณ 2 พันล้านบาทและกำไรหลังภาษีจากรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำ 1,600 ล้านบาท พร้อมให้กลุ่มไทยซีอาร์ทีหยุดการผลิต หลังขาดทุนต่อเนื่อง ผลจากความต้องการบริโภคหันมาใช้โทรทัศน์าสีแบบจอ LCD เตรียมรับรู้การประเมินด้อยค่าของสินทรัพย์และเงินลงทุนคงเหลือหลังภาษีประมาณ 2,700 ล้านบาท ไตรมาสสุดท้ายปีนี้

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) แจ้งว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงในการลดสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัท สยามยูไนเต็ดสตีล (1995) จำกัด (SUS) จากร้อยละ 19.5 เหลือร้อยละ 5 โดยการขายหุ้นร้อยละ 14.5 ให้กับผู้ร่วมทุนปัจจุบัน การขายหุ้นดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของ SCC ที่จะเน้นการลงทุนในธุรกิจหลัก ในขณะเดียวกันยังเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับความต้องการของผู้ร่วมทุนที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเพื่อพัฒนาธุรกิจของ SUS ต่อไป โดยการลดสัดส่วนการถือหุ้นในครั้งนี้ SCC จะมีรายรับจากการขายประมาณ 2,000 ล้านบาทและจะมีกำไรหลังภาษีจากรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำ (Non-Recurring Profit) ประมาณ 1,600 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2549

สำหรับ SUS เป็นผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดเย็น ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่ตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง โดยมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 1 ล้านตันต่อปี ทั้งนี้ ในปี 2548 SUS มียอดขาย 23,000 ล้านบาท กำไรสุทธิ 890 ล้านบาทและมีสินทรัพย์รวม 21,000 ล้านบาท

พร้อมกันี้ SCC ยังแจ้งมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2549 ของบริษัทไทยซีอาร์ที จำกัด (TCRT) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SCC ซึ่งประกอบธุรกิจหลอดภาพโทรทัศน์สี ได้มีมติอนุมัติให้วางแผนหยุดการผลิตของ TCRT และบริษัทที่ TCRT ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 100 คือ บริษัทซีอาร์ที ดิสเพลย์ เทคโนโลยี จำกัด (CDT) และบริษัทไทยอิเล็กตรอนกัน จำกัด (TEG) ผู้ผลิตหลอดภาพโทรทัศน์สี และ Electron Gun ตามลำดับ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2549 เป็นต้นไป

เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากโทรทัศน์สีที่ใช้หลอดภาพ CRT มาเป็นโทรทัศน์สีแบบจอ LCD ตามพัฒนาการของเทคโนโลยี ทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจหลอดภาพ CRT ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงและส่งผลให้ TCRT มีผลประกอบการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง โดยการหยุดการผลิตดังกล่าวจะส่งผลให้ SCC

ทั้งนี้ ในปี 2548 TCRT CDT และ T EG มียอดขายรวมประมาณ 4,900 ล้านบาท มีผลขาดทุนสุทธิรวม 1,200 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวม 5,900 ล้านบาท และมีหนี้สินรวม 4,700 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.