จัดสรรแนะรัฐปรับโมเดลอสังหาฯบิ๊กเค.ซี.ชี้รื้อบ้านBOI-เอื้ออาทร-ลองสเตย์ใหม่


ผู้จัดการรายวัน(16 ตุลาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

บิ๊กอสังหาฯเสนอรัฐ แก้กฎเกณฑ์ส่งเสริมบ้านบีโอไอเพิ่มเพดานเป็น 1-1.2 ล้านบาท เพื่อจูงใจผู้ประกอบการลงทุน ในภาวะที่คนซื้อบ้านแรงผ่อนน้อยลงจากภาวะเงินเฟ้อ ดอกเบี้ย แนะมอนิเตอร์โครงการบ้านเอื้ออาทร หลังพบยอดส่งมอบงานล่าช้า พร้อมปรับเปลี่ยนโครงการลองสเตย์ให้สอดรับความเป็นจริง ยันโครงการรอบโซนสุวรรณภูมิของบริษัท ผลกระทบจากเสียงเกิดขึ้นน้อย

แจง7โครงการยอดขายไหลลื่น

นายอภิสิทธิ์ งามอัจฉริยะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน)หรือ KC เปิดเผยถึงแนวทางส่งเสริมให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยในระดับราคที่เหมาะสมในช่วงของรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศในช่วงเวลา 1 ปีว่า ตนต้องการให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในเรื่องการสร้างบ้านราคาต่ำตามกฎเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ที่ปัจจุบันกำหนดราคาอยู่ที่ 6 แสนบาท ต่อหน่วย ซึ่งการกำหนดราคาดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบการไม่สามารถสร้างบ้านคุณภาพในทำเลที่เหมาะสมได้ ดังนั้นจึงเห็นบ้านในลักษณะดังกล่าวจะไปกระจุกตัวอยู่ในย่านชานเมืองรอบนอกที่มีการคมนาคมไม่สะดวกมากกว่า โดยตนคิดว่ารัฐฯควรทบทวนการตั้งกฎเกณฑ์ราคาให้สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน ที่ราคาวัสดุก่อสร้างขยับขึ้น อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในแนวโน้มสูงอยู่ ส่งผลให้ความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยลดลง ทั้งนี้มองว่า ราคาที่เหมาะสมกับการสร้างบ้านบีโอไอควรจะอยู่ที่ประมาณ 1-1.2 ล้านบาท

" การสร้างบ้านราคาถูกจะทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกภาระในการสร้างสาธารณูปโภคต่อหน่วยมากขึ้น โดยประสบการณ์การทำธุรกิจอสังหาฯพบว่า หากสร้างโครงการบ้านจัดสรรบนพื้นที่ประมาณ 100ไร่ โดยตั้งราคาขายอยู่ที่ 10 ล้านบาท จะต้องใช้เงินลงทุนในการสร้างสาธารณูปโภคประมาณ 18-20% ของค่าก่อสร้างทั้งหมด ขณะที่บ้านระดับราคา 3-4 ล้านบาทจะต้องลงทุนในการสร้างสาธารณูปโภคประมาณ 23% นี้ยังไม่นับรวมค่าใช้จ่ายในเรื่องสิ่งแวดล้อมอีก "นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลชุดที่ผ่านมาได้ลงทุนมหาศาลไปกับโครงการบ้านเอื้ออาทร แต่ปัจจุบันความคืบหน้าของโครงการนี้ยังไม่ปรากฎชัดเจนเท่าที่ควร ดังจะเห็นได้จากการที่ยังไม่มีการส่งมอบงานมานานแล้ว ขณะที่โครงการอื่น ๆ ของภาคธุรกิจอสังหาฯ เช่น โครงการของบริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ จำกัด(TLM)ซึ่งเป็นโครงการสร้างที่พักอาศัยแบบลองสเตย์ให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เกษียณอายุจากการทำงาน และได้มีการทาบทามให้ เค.ซี.เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างบ้านนั้น ตนมองว่าเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลแล้วอาจมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เนื่องจากการทำโครงการลองสเตย์จับกลุ่มลูกค้าต่างชาติวัยเกษียณอายุการทำงานนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสิ่งสำคัญที่เป็นจุดขายคือการให้บริการที่เป็นเยี่ยม

กรรมการผู้จัดการ กล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการว่า ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมานั้น ยอมรับยอดขายบ้านต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ประมาณ 7-8% เนื่องจากสภาพอากาศที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทก็ยังสามารถรักษาสัดส่วนของกำไรสุทธิได้ประมาณ 15% ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เพราะมีความได้เปรียบในแง่ของต้นทุนที่มีที่ดินอยู่ในมือเป็นจำนวนมากและยังมีธุรกิจที่เกื้อกูลกับ ภาคอสังหาฯอีกด้วย

ส่วนแนวโน้มของตลาดอสังหาฯในปีนี้มองว่า หากราคาน้ำมันมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ธุรกิจฟื้นตัวได้ดี ประกอบกับลูกค้า นักลงทุนต่างชาติ จะมีความมั่นใจในสถานการณ์การเมืองก็จะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจโดยรวม ที่คาดว่าทิศทางของเศรษฐกิจจะเริ่มส่งสัญญาณที่ดีในช่วงต้นปี 50

ส่วนกรณีที่บ้านจัดสรรในแถบสนามบินสุวรรณภูมิได้รับผลกระทบจากเสียงรบกวนนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า บริษัทมีโครงการบ้านเดี่ยว จำนวน 4 โครงการ ที่อยู่ห่างจากบริเวณดังกล่าวประมาณ 15 กม. คือ เค.ซี. เนเชอรัล วิลล์ ร่มเกล้า ,เค.ซี.เนเชอรัล วิลล์ บางนา-เทพารักษ์ ,เค.ซีเนเชอรัล วิลล์ รามคำแหง และเค.ซี. พาร์ควิลล์ บางนา- เทพารักษ์ ซึ่งได้มีการทดสอบเสียงรบกวนในเบื้องต้นแล้วพบว่า มีโครงการ เค.ซี. เนเจอรัล วิลล์ ร่มเกล้า ที่อยู่ห่างจากสนามบินประมาณ 9 กม. จะได้ยินเสียงรบกวนเพียงเล็กน้อย แต่ไม่ได้ส่งความรำคาญให้กับลูกบ้าน เพราะไม่ได้อยู่ใกล้แนวขึ้น-ลงของเครื่องบิน

"ในปีนี้ประมาณการบ้านใหม่ที่จดทะเบียน น่าจะมีจำนวนที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา คือ 7หมื่นยูนิต แต่คาดว่ามูลค่าของตลาดจะลดลง เนื่องจากที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมได้เข้ามาเพิ่มส่วนแบ่งตลาด ซึ่งระดับราคาไม่สูง โดยพบว่ามีจำนวนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นถึง 30% ขณะที่บ้านเดี่ยวยอดจดทะเบียนลดลงมาก"นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ปัจจุบันโครงการที่เปิดขายอยู่ในขณะนี้มีทั้งสิ้น 7 โครงการ คือ เค.ซี.เนเชอรัล วิลล์ เทพารักษ์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 40 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยว จำนวน 400 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 3.5 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 15% , เค.ซี.เนเชอรัล วิลล์ รามคำแหง ตั้งอยู่บนพื้นที่ 18 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยว จำนวน 126 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 4.5 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 567 ล้านบาท ยอดขายแล้ว 35% ,เค.ซี.พาร์ควิลล์ เทพารักษ์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 100 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยว จำนวน 480 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 2.9 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท ยอดขาย25 % ,เค.ซี.เนเชอรัล วิลล์ ร่มเกล้า โซนA เป็นบ้านเดี่ยว จำนวน 90 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 3.5 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท มียอดขาย 55% ,เค.ซี.คลัสเตอร์ วงแหวน เป็นทาวน์เฮาส์ จำนวน 340 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 1.1 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท ยอดขาย45% ,เค.ซี.คลัสเตอร์ รามอินทรา ตั้งอยู่บนพื้นที่ 35 ไร่ เป็นทาวน์เฮาส์ จำนวน 450 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 900 แสนบาท รวมมูลค่าโครงการ 420 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 30% และเค.ซี. คลัสเตอร์ นิมิตรใหม่ เป็นทาวน์เฮาส์ จำนวน 450 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 9 แสนบาท รวมมูลค่าโครงการ 420 ล้านบาท มียอดขาย10%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.