Yum ยุทธศาสตร์เพื่อผู้บริโภค

โดย ฐิติเมธ โภคชัย
นิตยสารผู้จัดการ( กุมภาพันธ์ 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

กิจกรรมผูกมิตรกับผู้นิยมรับประทานอาหารจานด่วนเป็นความพยายามที่บรรดาเจ้าของธุรกิจฟาสต์ฟู้ด เร่งจัดการเพื่อดึงดูดลูกค้าให้จงรักภักดีต่อแบรนด์ของตนเองต่อไป

ช่วงปีที่ผ่านมา ธุรกิจอาหารเป็นกิจกรรมที่มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาดำเนินกิจการมากที่สุดประเภทหนึ่ง แต่ก็ออกไปมากที่สุดเช่นเดียวกัน จากความง่ายและใช้เม็ดเงินลงทุนเพียงเล็กน้อย อาจจะไม่ใหญ่โตระดับเชน เรสเทอรองตส์ อย่างน้อยที่สุดสามารถเปิดบริการบนทำเลที่ดี หรือแนวคิดการทำธุรกิจในตัวเอง

รูปแบบธุรกิจดังกล่าว แม้ไม่ได้เข้ามาสมบูรณ์แบบแต่สามารถช่วงชิงตลาดไปได้พอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจฟาสต์ ฟู้ดแบรนด์ต่างๆ ส่งผลให้พวกเขาต้องหันมาปรับยุทธศาสตร์การดำเนินงานเพื่อรักษาฐานลูกค้าของตนเองเอาไว้

แม้แต่ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) เจ้าของเคเอฟซี และพิซซ่า ฮัท ฟาสต์ฟู้ดอันดับหนึ่งในตลาดเมือง ไทย ยังต้องเผชิญกับแรงกดดันจนหาทางสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเอง

"มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำอะไร บางอย่างให้กับเคเอฟซีเพื่อให้มั่นใจว่าอย่างน้อยแบรนด์ หรือประสบการณ์ที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการภายในร้านมีมุมมองมากขึ้น ไม่เฉพาะที่เห็นเป็นแค่ร้านขายไก่ทอด โดยขณะนี้ได้ปรับเปลี่ยนทั้งการตกแต่งร้าน ความหลากหลายรายการอาหาร วางตำแหน่งร้านใหม่ ส่วนพิซซ่า ฮัท เน้นการบริการ ตลาดและแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดขาย" ปณิธาน เศรษฐบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ประเทศไทยและอินโดจีน แห่งยัม เรสเทอรองตส์ อธิบาย

การดำเนินการของยัมดังกล่าว อาจจะไม่แตกต่างไปจากกลยุทธ์ของคู่แข่งรายอื่นๆ ที่มองหาลู่ทางเสริมสร้างจุดแข็งทุกๆ ปี แต่ดูเหมือนว่าในฐานะผู้นำธุรกิจฟาสต์ฟูดมีความกระตือรือร้นพอสมควร เหตุผลส่วนหนึ่งมาจากการที่บริษัทแม่เทกโอเวอร์แบรนด์ชั้นนำ อย่าง Long John Silver และ A&W ทำให้ความได้เปรียบในการสร้างความหลากหลายเชิงธุรกิจมากขึ้นในลักษณะ Multi Brand

การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของยัมในครั้งนี้ เกิดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยน ไป จากการยืนเข้าแถวจ่ายเงินแล้วรอรับอาหารมาเป็นการเรียกร้องบรรยากาศรอบข้างมากขึ้นเรื่อยๆ "ผู้บริโภคคนไทยอยากได้เพิ่มขึ้นตลอดเวลา ให้เท่าไรก็ไม่เพียงพอ" ศรันย์ สมุทรโคจร ผู้อำนวยการอาวุโสเคเอฟซี แบรนด์ และฝ่ายการเงิน ยัม ประเทศไทย ชี้ "ต้องเข้าใจพวกเขา เมื่อต้องการอะไรก็ต้อง หามาให้ ถ้ายืนกรานว่าเราเป็นเคเอฟซี หรือพิซซ่า ฮัท คงย่ำแย่"

เม็ดเงิน 600 ล้านบาทที่ยัมนำมาลงทุนในปีนี้ เน้นขยายสาขาและปรับปรุงสาขา เดิม โดยเฉพาะปรับภาพลักษณ์ทั้งหมดภายในร้านเคเอฟซี ที่มีแนวคิดจากความต้องการทำให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจากอดีตไม่ว่าจะเป็นสาขาไหน รูปแบบบรรยากาศ ไม่แตกต่างกันเลย เช่นเดียวกับตัวเลือกรายการอาหารมีความหลากหลายมากขึ้น

แม้ว่า การปรับกลยุทธ์ดังกล่าวเพื่อก้าวให้ทันต่อความต้องการและเป็นประโยชน์ สูงสุดต่อผู้บริโภค แต่มีการประเมินกันว่าฟาสต์ฟู้ดในเมืองไทยเริ่มไม่มีจุดยืน ด้วยการขยายธุรกิจออกไปจากเมนูหลักจนบางครั้งไม่สามารถแยกแยะได้ชัดเจน

การดำเนินการดังกล่าวเกิดจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เรียกร้องความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการมองอย่างผสมผสานระหว่างความเป็นแบรนด์และความหลากหลายจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ปีนี้ยังเป็นคำถามสำหรับการเติบโตของธุรกิจฟาสต์ฟู้ด



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.