ขวาง "รวมนคร" ฮุบ TLM


ผู้จัดการรายวัน(9 ตุลาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

“จุฑามาศ” เปิดศึกชน “รวมนคร” ขวางทางฮุบทีแอลเอ็ม พร้อมเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นของ ททท.ในทีแอลเอ็มเป็น 45% จากเดิม 30% แจงสี่เบี้ย ททท.จ่ายค่าหุ้นมากถึง 75% ขณะที่รายอื่นจ่ายแค่ 25% เผยที่ต้องลุกขึ้นมาสู้ เพราะต้องการรักษาผลประโยชน์ให้ประเทศ เพราะทีแอลเอ็มกำลังจะมีรายได้จากการขายสมาชิก ประเดิมชาติแรกจากประเทศเกาหลี เปรย ถ้าทีแอลเอ็มต้องการให้เข้าไปช่วยบริหารก็ไม่ปฏิเสธ

นางจุฑามาศ ศิริวรรณ ที่ปรึกษาระดับ 10 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อดีตผู้ว่า ททท. เปิดเผยว่า ล่าสุดได้เจรจากับ พ.ต.อ.รวมนคร ทับทิมธงไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ จำกัด หรือ ทีแอลเอ็ม ในเรื่องของสัดส่วนการถือหุ้นของททท.ที่ถือหุ้นอยู่ในบริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ฯ โดยได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของ ททท.ในบริษัทดังกล่าวเป็น 45% จากเดิมที่ถืออยู่ในสัดส่วน 30%

ทั้งนี้เพราะภายหลังจาก พ.ต.อ.รวมนคร เข้ามาเป็นผู้บริหาร ทีแอลเอ็ม เมื่อไม่นานมานี้ พร้อมประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทเป็น 200 ล้านบาท จากของเดิมที่มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดยไม่ได้เรียกเงินจดทะเบียนจากผู้ถือหุ้นเพิ่มเติม แต่ พ.ต.อ. รวมนคร ได้นำเอาเงินส่วนตัวมาเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 25 ล้านบาท เพื่อใช้ในการบริการจัดการบริษัทไทยจัดการลองสเตย์ฯ ซึ่งเมื่อ 3 ปีก่อนตั้งแต่เริ่มตั้งบริษัท ททท.ได้ชำระค่าหุ้นไปแล้วเป็นเงิน 22.5 ล้านบาท คิดเป็น 75% ของสัดส่วนการถือหุ้น ส่วนผู้ถือหุ้นรายอื่นชำระค่าหุ้นเพียง 25% ของสัดส่วนการถือหุ้นเท่านั้น

ดังนั้นเมื่อ ทีแอลเอ็มเพิ่มทุนจดทะเบียน และผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ไม่ได้ชำระค่าหุ้นเพิ่มเติม ก็เท่ากับว่าสัดส่วนการถือหุ้นของ ททท.ในบริษัททีแอลเอ็ม ก็จะต้องปรับใหม่ ตามวงเงินที่ททท.ได้จ่ายไปแล้ว และควรจะต้องเพิ่มขึ้นจากเดิมด้วย จะมาปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นของ ททท.เหลือเพียง 15% เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะเงิน 100 ล้านบาท ที่ พ.ต.อ.รวมนคร เพิ่มทุนขึ้นมานั้น เขาก็จ่ายเข้ามาเพียง 25 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเท่ากับว่า พ.ต.อ.รวมนคร จะถือหุ้นในทีแอลเอ็มประมาณ 49%

ด้วยเหตุผลทั้งหมดดังกล่าวจึงได้เรียก พ.ต.อ.รวมนคร มาพูดคุย เพื่อให้เข้าใจถูกต้องตรงกัน โดยเร็วๆ นี้ ทีแอลเอ็มเตรียมเซ็นสัญญากับพันธมิตรในประเทศเกาหลี เพื่อส่งสมาชิกให้ทีแอลเอ็มราว 1.5 แสนราย ซึ่งเท่ากับว่า ทีแอลเอ็มเริ่มที่จะมีรายได้สามารถเลี้ยงองค์กรตัวเองได้แล้ว

“แม้ว่าทีแอลเอ็มจะมีรูปแบบการบริหารแบบเอกชน แต่ก็เป็นแนวคิดที่ภาครัฐและ ททท. คิดขึ้นมาเพื่อขยายฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายสูง มีวันพักนาน ททท.จึงร่วมถือหุ้นด้วย และ โครงการนี้ ปัจจุบันก็ได้เริ่มดำเนินการแล้ว และจะมีรายได้เข้ามาในเร็วๆนี้จากการขายสมาชิก หลังจากที่ 3 ปีโครงการไม่มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมมากนัก ดังนั้นเมื่อจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้ ก็ต้องการจะรักษาสิทธิ์ให้กับภาครัฐให้มากที่สุด จึงได้มีการเจรจากันให้เข้าใจตั้งแต่เบื้องต้น”

นางจุฑามาศ กล่าวอีกว่า ยังไม่มีแนวคิดที่จะเข้าไปนั่งเป็นผู้บริหารในบริษัท ทีแอลเอ็ม แต่หาก พ.ต.อ.รวมนคร ต้องการที่จะให้ตนเข้าไปช่วยคิด หรือใช้ความรู้และประสบการณ์การทำงานด้านการท่องเที่ยวที่ผ่านมา ให้เป็นประโยชน์แก่บริษัท ตนก็ไม่ขัดข้อง และยินดีที่จะรับคำเชิญ

อย่างไรก็ตามมองว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มลองสเตย์ ดังนั้นจึงเป็นช่องว่างทางการตลาดที่ผู้ประกอบการควรหันมาให้ความสำคัญ และเตรียมพร้อมที่จะรองรับลูกค้ากลุ่มนี้ เพราะที่ผ่านมา ตัวเลขวันพักเฉลี่ยและค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวทั่วไปต่อคนลดลง หากเราสามารถดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มลองสเตย์เข้ามาพำนักในประเทศไทยได้จำนวนมาก ก็จะเข้ามาช่วยเรื่องค่าเฉลี่ยของวันพักและค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยว ให้มีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นได้

ส่วนบริษัทนำเที่ยวถ้ารู้จักปรับตัว หันมาทำตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มลองสเตย์ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการที่จะเปลี่ยนตัวเองในการทำธุรกิจ ซึ่งน่าจะมีอนาคตที่ดี เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่า นักท่องเที่ยวคนไทยที่เดินทางในประเทศ ไม่ค่อยนิยมใช้บริการบริษัทนำเที่ยว

สำหรับบัตรสมาชิกลองสเตย์ ที่ทีแอลเอ็มได้จัดทำ และเริ่มทำตลาดแล้วในวันนี้ มี 5 แบบ อายุบัตร ประกอบด้วย ซิลเวอร์, โกลด์, แพลตตินั่ม, ไดมอนด์ และบลูไดมอนด์ โดยมีราคาบัตรตั้งแต่ 100, 500, 700, 1,100 และ 1,800 เหรียญสหรัฐ ตามลำดับ ซึ่งสิทธิพิเศษจะแตกต่างกันตามมูลค่าบัตร เริ่มตั้งแต่สิทธิพิเศษฟาสต์แทรกในขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง การขอวีซ่าและอายุการให้วีซ่า การทำประกันภัย และ สิทธิส่วนลด5-50% ในที่พัก ร้านอาหาร โรงพยาบาล สนามกอล์ฟ สปา การถือครองที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์ และอื่นๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับ พ.ต.อ.รวมนคร ทับทิมธงไชย นั้น ในช่วงหลังได้ขยายธุรกิจเข้ามาในแวดวงสื่อและท่องเที่ยวมากขึ้น และดูเหมือนว่าจะทำให้สองธุรกิจนี้มีความเกี่ยวเนื่องกันด้วย ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจโทรทัศน์ซึ่งมีรายการเกี่ยวกับช่องท่องเที่ยวโดยเฉพาะ และก่อนหน้านี้เขาก็ได้เข้าไปซื้อหุ้นกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในกลุ่มบริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ จำกัด (มหาชน) เพื่อที่จะต่อยอดธุรกิจของเขาออกไปอีก และการที่เข้ามาถือหุ้นในทีแอลเอ็มนี้ก็เป็นการตอกย้ำถึงการเคลื่อนทัพสู่ธุรกิจท่องเที่ยวมากขึ้นด้วย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.