กระแสความแรงของ "ภราดร ศรีชาพันธุ์" ทำให้กลุ่มทีเอ คว้าตัวไปเป็น "พรีเซ็นเตอร์"
คนแรกของบริษัทโทรคมนาคม อย่างมีนัยสำคัญ
แม้ว่าจะไม่ได้เป็นคีย์แมนหลักในการบริหารงาน แต่ชัชวาล เจียรวนนท์ เป็นบุคคลที่อยู่เบื้องหลังโครงการต่างๆ
ในฐานะของผู้เริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นการบินไปทาบทามบริษัทออเร้นจ์ถึงประเทศอังกฤษ
รวมทั้งล่าสุด คือ การเอาภราดร ศรีชาพันธุ์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกให้กับทีเอ
และบริษัทในเครือ
"ตอนนั้นรัฐมนตรีสุวัจน์ ลิปตพัลลภ โทรศัพท์มาหาผมบอกให้ไปงานเลี้ยงต้อน
รับภราดร" ชัชวาลย้อนอดีต ซึ่งได้เป็นที่มาของการนำไปสู่จุดเริ่มต้นของพรีเซ็น
เตอร์คนแรกของทีเอ
"เรามองไม่เห็นใครที่จะสื่อความรู้สึก ที่จะ present ความเป็นตัวตนของทีเอ
ได้ เท่ากับภราดร" ชัชวาลบอกเหตุผล
ความโด่งดังของภราดรย่อมต้องมีผู้หมายตาเช่นกัน และผู้ร่วมงานในวันนั้นไม่ได้มีแค่ทีเอเท่านั้น
ทั้งเอไอเอสและแทค ต่างก็ได้รับเชิญมาร่วมงานในวันนั้นเช่นกัน แต่ก่อนจะคิดว่าคู่แข่งคิดอย่างไร
ชัชวาลจึงเปิดฉากทาบทามทันที และดูเหมือนว่า เขาจะทำการบ้านมาเป็นอย่างดี
เพราะนอกจากจะอาศัยความเร็วแล้ว เขายังสร้างความมั่นใจยิ่งขึ้นไปอีก แทนที่จะติดต่อกับตัวภราดร
เขาเลือกเจรจากับชนะชัย ศรีชาพันธุ์ พ่อของภราดรโดยตรง
"คนอื่นเขาจะทาบทามกับใครผมไม่รู้ แต่ผมติดต่อผ่านคุณพ่อของภราดร" ชัชวาลเล่า
จากนั้น 1 เดือนเต็ม การเซ็นสัญญา พรีเซ็นเตอร์คนแรกของทีเอก็มีขึ้น ทำเอา
ชั้น 21 อาคารเทเลคอมทาวเวอร์ ฐานบัญชาการของบริษัทสื่อสารแห่งนี้คึกคักขึ้นไปถนัดตา
นอกจากทีมผู้บริหาร และพนักงานที่มานั่งคอย พร้อมกับดอกกุหลาบ สีแดงในมือ
เวลาที่รอคอยก็มาถึง เมื่อศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่สลัด
เสื้อสูท สวมเสื้อแจ็กเกตสีครีม เปิดแถลงข่าว พร้อมกับผู้บริหารของยูบีซี
และทีเอ ออเร้นจ์ เดินนำภราดรที่อยู่ในชุดเสื้อสูท สีดำ มาพร้อมกับพ่อและแม่เข้ามาในห้องแถลงข่าว
"สไตล์การเล่นเทนนิสของภราดรที่มีความครบเครื่องทั้ง back hand fore hand
และลูกเสิร์ฟอันแม่นยำ ที่สามารถเชื่อมโยงเข้ากับจุดเด่นของทีเอ ที่มีความครบเครื่องของบริการสื่อสารที่
integrated ผสมผสานความสามารถของธุรกิจที่หลากหลายมานำเสนอให้กับผู้ใช้บริการ"
ศุภชัยบอกถึงเหตุผลของการตัดสินใจเลือก
ยิ่งไปกว่านั้น ความสดใหม่ของภราดร ยังเข้ากันได้มากๆ กับบริการ broadband
หรือบริการธุรกิจใหม่ อินเทอร์ เน็ตความเร็วสูงที่จะเป็นธงนำของทีเอในปีนี้
ซึ่งทีเอก็กำลังเปิดเกมรุกอย่างหนักในปีหน้า ทั้งการทุ่มลงทุนขยายเครือข่ายบรอดแบนด์
ให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น และการแสวงหา พันธมิตรด้านเนื้อหา ที่เข้ามาเพิ่มอีก
12 ราย
"ตอนนั้นถ้าสมมติว่า ยูบีซี กับทีเอ ออเร้นจ์ ไม่เอาด้วย ผมก็จะให้เป็นพรีเซ็นเตอร์บริการบรอดแบนด์ก่อน"
ชัชวาล บอก "เพราะจุดสำคัญของ broadband อยู่ที่เนื้อหา เว็บไซต์ของภราดร
จะเป็นอีก หนึ่งในเนื้อหาที่จะดึงดูดความสนใจได้ดี"
ที่ลึกลงไปกว่านั้นก็คือ ความเป็นคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จจนโด่งดังไปทั่ว
ยังสอดคล้องกับการเข้าถึงฐานลูกค้า ที่เป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญ
ของออเร้นจ์ รวมทั้งทีเอที่พยายามทำในช่วงปีผ่านมา ทั้งจากโครงสร้างองค์กรที่ดึงเอาคนรุ่นใหม่ๆ
รวมทั้งการเปลี่ยนภาพลักษณ์ขององค์กรให้ดูทันสมัย เป็นอีกความพยายามหนึ่งของศุภชัย
โจทย์ของทีเอก็คือ การใช้ประโยชน์ จากพรีเซ็นเตอร์รายแรก และภายใต้เวลาอันจำกัด
10 กว่าสัปดาห์ที่ว่างเว้นการแข่งขัน
"นี่เป็นครั้งแรกที่เรามีพรีเซ็นเตอร์เป็นตัวเป็นตน เราเองคงต้องมาปรึกษาร่วมกันว่า
จะวางสคริปต์ที่เหมาะสมร่วมกันต่อไป"
สำหรับยูบีซี การได้ภราดรมาเป็นพรีเซ็นเตอร์คงไม่ใช่โจทย์ยาก เพราะกีฬาเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาสำคัญ
ที่ยูบีซีถ่ายทอดการแข่งขันอยู่แล้ว แต่สำหรับ ออเร้นจ์นั้นอาจจะแตกต่างไป
เนื่องจากกติกาของการสร้าง brand ของออเร้นจ์นั้นไม่มีพรีเซ็นเตอร์เป็นสิ่งที่ต้องถือปฏิบัติ
เป็นโจทย์ของทีมผู้บริหารจะต้องไปทำ การบ้านว่า จะนำพรีเซ็นเตอร์ไปประยุกต์ให้เกิดประโยชน์กับภาพลักษณ์ธุรกิจได้อย่างไร
เวลาสุดท้ายของการแถลงข่าวก็มาถึง ท่ามกลางแสงแฟลชที่ทำงานตลอดเวลา กับคิวถ่ายรูป
และลายเซ็นที่ถูกฝากไว้บนลูกเทนนิส และรูปภาพ ภารกิจของพรีเซ็นเตอร์ก็เริ่มขึ้นแล้ว