|

อมตะลุ้นสิ้นปีผุดบิ๊กโปรเจกต์หวังการเมืองนิ่งปรับเป้าปีหน้า
ผู้จัดการรายวัน(6 ตุลาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
“อมตะ คอร์ปอเรชั่น” ลุ้นอีกเฮือก หลังยอดขายที่ดินพลาดเป้าปีนี้สูญเงินกว่า 1 พันล้านบาท หวังทีมเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่เร่งโรดโชว์ ฟื้นเชื่อมั่นกลับมาใหม่ในช่วงสิ้นปี ก่อนกำหนดเป้าหมายดำเนินงานปี 2550 พร้อมกับเตรียมสรุปแผนผุด 2-3 โครงการใหม่สิ้นปีนี้
นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานคณะผู้บริหาร (CEO) บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (AMATA) เปิดเผยว่า การกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานของบริษัทโดยเฉพาะยอดจำหน่ายที่ดินในปี 2550 คงจะต้องรอดูทิศทางเศรษฐกิจในอีกช่วง 1 เดือนจากนี้ก่อน เนื่องจากต้องรอการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจภายใต้การนำของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีว่าจะมีการออกไปโรดโชว์ต่างประเทศเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นจากนักลงทุนได้มากน้อยเพียงใดเพื่อดึงให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาอีกครั้ง
“ต่างชาติเองยังข้องใจในการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีที่มาจากทหาร ดังนั้นรัฐมนตรีที่จะตั้งทุกกระทรวงจะต้องเร่งชี้แจงนักลงทุนเป็นเรื่องเร่งด่วนเพราะตั้งแต่ต้นปี 49 มา นับตั้งแต่มีม็อบต้านรัฐบาลทักษิณและล่าสุดจนถึงการทำรัฐประหารส่งผลให้นักลงทุนที่เตรียมจะซื้อที่ดินกับอมตะต้องชะลอไปหลายราย โดยเฉพาะรายใหญ่จากสหรัฐฯ และเยอรมัน จนทำให้บริษัทต้องปรับเป้าขายที่ดินเหลือเพียง 750 ไร่ ส่งผลให้ปีนี้ทำให้บริษัทสูญรายได้ที่ควรจะได้รับไปกว่า 1,000 ล้านบาท” นายวิกรมกล่าว
สำหรับปี 2550 ยังคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวอีกครั้งหนึ่งหากทีมเศรษฐกิจรัฐบาลชุดใหม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นจากต่างชาติกลับมาได้เร็ว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่านิคมฯ อมตะจะได้รับผลกระทบในไทยแต่ในอมตะเบียนหัวที่เวียดนามกลับพบว่ามีการขยายตัวในทางที่ดีและล่าสุดทางญี่ปุ่นได้มีการทำแบบสำรวจพบว่าเวียดนามมีศักยภาพลงทุนมาก ยกเว้นค่าเช่าสำนักงานที่ยังแพงอยู่เพียงอย่างเดียวประกอบกับเวียดนามอีก 2 ปีจะมีโรงกลั่นขนาดแสนกว่าบาร์เรลต่อวันเกิดขึ้น และมีโครงการผลิตเหล็กขนาดใหญ่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งจะทำให้ระบบโครงสร้างพื้นฐานเวียดนามจะดีขึ้น
นางสมหทัย พานิชชีวะ ผู้อำนวยการสายการพัฒนาธุรกิจ AMATA กล่าวว่า ในสิ้นปีนี้คาดว่าบริษัทฯ จะสามารถเปิดตัวโครงการหรือโปรเจ็กต์ใหม่ๆ 2-3 โครงการได้ ทั้งโครงการสร้างโรงไฟฟ้าในนิคมฯ ที่จะมี 3 โรงงานขนาดกำลังผลิต1,000 เมกะวัตต์ โครงการพัฒนาคอนโดมิเนียมขนาด 1,000 ไร่ ที่จะเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง รวมไปถึงโครงการโลจิสติกส์ พาร์ค ที่ขณะนี้ได้จัดจ้างทีมจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เข้ามาสำรวจถึงความเหมาะสมในการลงทุน ทั้งในด้านพื้นที่และความคุ้มค่าทางการเงินคาดว่าภายใน 2-3 เดือนนี้จะทราบว่าควรจะดำเนินการต่อไปอย่างไร เป็นต้น
สำหรับ นิคมฯ อมตะเบียนหัวที่เวียดนาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการและเร่งวางแผนพัฒนาในเชิงพาณิชย์ที่ครบวงจรให้มากขึ้น เพื่อผลักดันให้นิคมฯ เป็นแหล่งการลงทุนในทุกรูปแบบในระยะยาวเช่น ธนาคาร ลิสชิ่ง รวมไปถึงการพัฒนาอาคารที่อยู่อาศัย
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|