เผยผลสำรวจสถิติการออมผู้บริโภคไทยสูงสุดในโลก


ผู้จัดการรายสัปดาห์(25 กันยายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

เอซีนีลเส็น เผยผลสำรวจพบผู้บริโภคไทยติดอันดับหนึ่งในเรื่องของการออมเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายสิ่งของที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคไทยที่ลดลงจากระดับ 96 เป็น 95 จุด เมื่อเทียบกับหกเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับเดิมจากปี 2548 แต่ทั้งนี้ผู้บริโภคไทยยังเชื่อมั่นว่าสถานะทางการเงินของตนเองจะดีขึ้นในปีหน้า โดยสินค้าที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคจำนวนมากคือการท่องเที่ยว เทคโนโลยี และเสื้อผ้า

"สาเหตุที่ผู้บริโภคมีความต้องการที่จะออมเงินมากในภาวะนี้ อาจจะอธิบายได้จากความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับโอกาสในด้านการงาน และความลังเลในการตัดสินใจซื้อสินค้าที่ตนเองต้องการภายในอีก 12 เดือนข้างหน้า" จันทิรา ลือสกุล กรรมการผู้จัดการ เอซีนีลเส็น (ประเทศไทย) กล่าว

การสำรวจความเชื่อมั่นและความคิดเห็นออนไลน์ของผู้บริโภคทั่วโลกของเอซีนีลเส็น ที่จัดทำขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายนในปี 2549 เพื่อสำรวจระดับความเชื่อมั่น, พฤติกรรมและแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคทั่วโลก จากผู้ใช้อินเตอร์เน็ตประมาณ 21,780 คน ใน 40 ประเทศ จากทวีปยุโรป เอเชียแปซิฟิค อเมริกาเหนือ

ผู้บริโภคชาวอินเดียครองแชมป์ระดับความเชื่อมั่นสูงสุด

ประเทศอินเดียยังคงติดอันดับแรกของโลก ด้วยคะแนนสูงสุดที่ 131 เป็นปีที่สามติดต่อกันตั้งแต่มีการจัดทำการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเมื่อต้นปี 2548 ตามมาด้วยกลุ่มชาวสแกนดิเนเวียน โดยชาวนอร์เวย์ที่มีความเชื่อมั่นเป็นอันดับสองของโลกโดยมีคะแนนอยู่ที่ระดับ 130 และชาวเดนมาร์กเป็นอันดับที่สามโดยมีคะแนนอยู่ที่ระดับ 127 ตามลำดับ

ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับโอกาสในการได้งานทำมีสูงขึ้นทั้งผู้บริโภคไทยและทั่วโลก โดยอัตราความกังวลเพิ่มมากขึ้น จากการสำรวจในเดือนพฤศจิกายน ปี 2548 ที่ผู้บริโภคคิดว่า "ไม่ค่อยดี" จาก 55% เพิ่มเป็น 62% แต่กว่าครึ่งของผู้บริโภคชาวไทยเชื่อมั่นในสถานภาพทางด้านการเงิน ส่วนผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิคจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความระมัดระวังทางด้านการเงินมากที่สุดในโลก ซึ่งจะเห็นได้จากจำนวนกว่าครึ่งของผู้บริโภค 52% ที่มีความสบายใจในด้านสถานะทางการเงินของตนน้อยที่สุดในปีหน้า ลดลงถึง 9%จากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามผู้บริโภคชาวไทยกว่าครึ่งหรือคิดเป็น 57% มีความมั่นใจกับสถานะทางการเงินของพวกเขาในอีก 12 เดือนข้างหน้า

ชาวไทยตื่นตัวในการออมมากที่สุดในโลก

ประเทศไทยจัดอยู่ในลำดับแรกของโลกที่มีจำนวนนักออมมากที่สุดถึง 70% โดยเพิ่มขึ้นถึง 15% จากการสำรวจครั้งก่อนในเดือนพฤศจิกายน ปี 2548 ส่วนผู้บริโภคในฟิลิปปินส์มีสถิติการออม 63% สิงคโปร์ และไต้หวัน 60% ซึ่งถือเป็นนักออมลำดับต้นๆของโลก ทั้งนี้หากมองภาพรวมในระดับภูมิภาคแล้วจะพบว่าเอเชียแปซิฟิคมีผู้บริโภคมากถึง 54% ที่เก็บเงินออมในส่วนที่เหลือจากการใช้จ่ายที่จำเป็น เมื่อเทียบกับทวีปอเมริกาเหนือมีเพียง 37% ส่วนยุโรปมีแค่ 29% เท่านั้น

"ปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองยังคงเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการออมของผู้บริโภคชาวไทยในระดับที่สูงกว่าประเทศอื่นในโลก และด้วยความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจและความไม่มั่นคงทางการเมือง การเก็บเงินที่เหลือหลังจากใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็นน่าจะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้บริโภคในภาวะเช่นนี้" จันทิรา กล่าว

ผู้บริโภคมากกว่าครึ่งจากทั่วโลก รวมทั้งผู้บริโภคไทยที่เชื่อว่าในช่วง 12 เดือนนับจากนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการซื้อสินค้าที่ตนต้องการ มีเพียงชาวยุโรป 40% และผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิค 34% ที่คิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมในการซื้อ ขณะที่ทวีปอเมริกาเหนือ 48% คิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะกับการจับจ่าย ทั้งที่มีความกังวลเกี่ยวกับหนี้สินส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันที่แพงขึ้น นอกจากนี้ผู้บริโภคจำนวนมากยอมรับว่าไม่มีเงินเหลือเก็บเมื่อเทียบกับการสำรวจรอบที่แล้ว

ทั้งนี้ผู้บริโภคจาก เดนมาร์ก 74% นอร์เวย์ 65% และอินเดีย 61% ยังเป็นผู้ที่สนุกสนานกับการจับจ่ายใช้สอยในอีก 12 เดือนข้างหน้ามา สำหรับเอเชียแปซิฟิค ผู้บริโภคมากกว่าครึ่งใน ฮ่องกง 54% ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ 52% ต่างก็คิดว่าเป็นเวลาดีที่จะสนองความต้องการของตนเองในการจับจ่ายใช้สอยเพื่อความเพลิดเพลิน

ท่องเที่ยว รายจ่ายยอดฮิตของผู้บริโภคไทย

ผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิคมีการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจ 37% และถือเป็นทางเลือกลำดับต้นๆที่ผู้บริโภคนิยมมาโดยตลอด ทั้งนี้ประเทศไทยได้รับการจัดให้อยู่ในลำดับสูงสุดของทวีปเอเชียแปซิฟิค และอันดับสองของโลกที่นิยมใช้จ่ายในด้านการท่องเที่ยวโดยมีผู้บริโภคไทยมากถึง 58% ที่ใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว ส่วนทางเลือกอื่นพบว่าผู้บริโภคกว่า 30% นิยมใช้จ่ายไปกับความบันเทิงนอกบ้าน และ 28% ใช้จ่ายเพื่อซื้อเสื้อผ้าใหม่ ส่วนสินค้าเทคโนโลยีมีผู้บริโภคให้ความสนใจ 24%

คนเอเชีย สนใจลงทุนธุรกิจการเงิน

การสำรวจทั่วโลกยังพบอีกว่าประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิคสนใจการลงทุนในธุรกิจการเงินมากกว่าประเทศในภูมิภาคอื่น โดยเห็นได้จากผู้บริโภคหนึ่งในสี่คนเลือกที่จะลงทุนในหลักทรัพย์ และกองทุนรวม โดยประเทศในกลุ่มเอเชียแปซิฟิค 7 ประเทศได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในสิบอันดับแรกของโลกที่สนใจการลงทุนด้านการเงิน นำโดยประเทศไตหวัน 42% ฮ่องกงและอินเดีย 40%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.