คาดหุ้นรูดฝรั่งขายทำกำไร


ผู้จัดการรายวัน(21 กันยายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

จากกรณีที่คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ซึ่งประกอบด้วยผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกาศยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินจากรัฐบาลชุดเดิมและมีคำสั่งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ปิดทำการซื้อขายเป็นเวลา 1 วันในวันที่ 20 กันยายน 2549ที่ผ่านมา

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ภายในวันนี้(21 ก.ย.)ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ(mai) ตลาดตราสารหนี้ และบริษัทตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)หรือ TFEX มีความพร้อมในการเปิดทำการซื้อขาย ซึ่งนักลงทุนจะต้องมีการติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดเพื่อใช้ประกอบในการตัดสินใจในการลงทุน

สำหรับในวันนี้คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ จะมีการชุมซึ่งถือว่าเป็นวาระพิเศษ เพื่อเป็นการรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ให้ทราบและประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงเพื่อรับฟังความคิดเห็นของคณะกรรมการฯ โดยจากการประเมินภาวะตลาดหุ้นในเบื้องจากการสอบถามไปยังสมาคมนักวิเคราะห์ นักลงทุนต่างประเทศผ่านทางบริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศ ที่เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย นั้น

ทั้งนี้ มองว่าการที่ตลาดหลักทรัพย์ได้มีการหยุดซื้อขาย 1 วัน นั้นเป็นเรื่องที่ดีที่จะให้นักลงทุนมีการติดตามข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้นส่งผลทำให้นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศมีความกังวลไม่มากนัก จากสถานการณ์ต่างๆมีความชัดเจนมากขึ้น

นางภัทรียา กล่าวว่า หากดัชนีฯมีการปรับตัวลดลงแรงถึง 10% หรือ ประมาณ 70 จุด จากดัชนีวันจันทร์ที่ปิดทำการอยู่ที่ 702.56 จุด ตลาดหลักทรัพย์ฯก็จะพร้อมที่จะใช้มาตการเซอร์กิตเบรกเกอร์ (Circuit Breaker)คือการพักการซื้อขายเป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้นักลงทุนมีเวลาในการตัดสินใจในการลงทุน

นายอดิพงษ์ ภัทรวิกรม ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ส่วนตัวคาดว่าภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนีจะมีการปรับตัวลดลง 3.75% หรือประมาณ 25 จุด ในช่วงเปิดตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งแรงขายออกมานั้นจะเป็นของนักลงทุนต่างประเทศ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติไม่มีความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ เชื่อว่านักลงทุนภายในประเทศจะเข้ามาซื้อหุ้น จากมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ดีและมีความรู้ความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองยุติลง จากที่มีการยืดเยื้อมานาน

**โบรกฯฝรั่งชี้กระทบความมั่นใจ

นายอาจดนัย สุจริตกุล ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ เจพี มอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศอย่างแน่นอน เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเกิดความไม่มั่นใจในการเข้ามาลงทุน

ทั้งนี้ เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติน่าจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจน โดยคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลดลงมากกว่า 10 จุด

อย่างไรก็ตาม กรณีที่คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ทำการยึดอำนาจในครั้งนี้น่าจะเป็นผลดีในระยะยาว เพราะจะทำให้สถานการณ์การเมืองในประเทศคลี่คลายลงได้

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า ขณะนี้นักลงทุนต้องการความชัดเจน ในเรื่องว่าใครที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในการร่างรัฐธรรมนูญ จะมีการใช้มาตรการม.7 หรือไม่ และจะมีการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ โดยจากเกิดการปฏิรูปทางการเมืองเกิดขึ้นได้มีลูกค้าของบริษัทที่ประเทศอังกฤษได้มีการสอบถามข้อมูลกับเรื่องที่เกิดขึ้นว่าสรุปแล้วจะเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้ยังคงมีความสับสน แต่การที่ไม่มีการนองเลือดก็ถือว่าดีในระดับหนึ่ง

ทั้งนี้ ยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้คงส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยแน่นอน เพียงแต่ความรุนแรงคงไม่มากและไม่น่ากินเวลายาวนานนัก เพราะเรื่องเหล่านี้นักลงทุนก็มีการคาดการณ์ไว้บ้างแล้ว ประกอบกับการตัดสินใจปิดการซื้อขายในตลาดหุ้นชั่วคราววานนี้ (20ก.ย.) ทำให้นักลงทุนได้มีเวลาทบทวนถึงสถานการณ์มากขึ้น

นายอมฤต ศุขะวณิช รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัดเปิดเผยว่าภาวะตลาดหุ้น คาดว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวลดลง จากแรงเทขายของนักลงทุนต่างประเทศที่เกิดความตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่ทหารปฏิวัติล้มรัฐบาลรักษาการ ซึ่งเชื่อว่านักลงทุนต่างประเทศคงจะลดพอร์ตการลงทุนบางส่วน เพื่อรอดูสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไรต่อไป

ทั้งนี้ คาดว่าหุ้นขนาดใหญ่มีโอกาสที่จะถูกเทขายออกมามาก โดยเฉพาะหุ้นสื่อสาร ที่มีข่าวกรณีนอมินีในช่วงที่ผ่านมา และหุ้นบริษัท ปตท.ที่จะถูกมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค ฟ้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน เรื่องเหล่านี้ยังเป็นประเด็นที่ยังค้างอยู่ เมื่อมีเหตุการณ์ปฏิวัติขึ้นมา คงจะต้องจับตาดูต่อไปว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า เมื่อพิจารณาจากอดีตที่ผ่านมา ถ้ามีเหตุการณ์ปฏิวัติตลาดหุ้นก็จะปรับตัวลดลงมาทุกครั้ง เพราะนักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจจึงเทขายหุ้นออกมาก่อน อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจจะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจยังดีอยู่ ทั้งในแง่ของทุนสำรอง ตัวเลขจีดีพี และการส่งออก ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ

**เอกชน มั่นใจไม่กระทบต่อธุรกิจ

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์แนวโน้มของราคาน้ำมันว่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลง เพราะต้องรอดูสถานการณ์ต่างๆ ก่อน

นายประสิทธิ์ อุ่นวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีลอินเตอร์เทค จำกัด (มหาชน) หรือ STEEL กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบได้ เพราะยังเร็วเกินไปที่จะเห็นผลที่ชัดเจน แต่หากมีผลกระทบอาจจะเป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ขณะที่ในส่วนของบริษัทเองคงจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากบริษัทมีลูกค้าที่กระจัดกระจาย ไม่อิงภาครัฐเพียงอย่างเดียว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.