"ไม ชาน สู้ไม่ถอย"


นิตยสารผู้จัดการ( กรกฎาคม 2537)



กลับสู่หน้าหลัก

ไม ชานหัวเราะเบา ๆ เมื่อหวนนึกถึงบทบู๊ของเธอตอนที่ยังเป็นผู้จัดการดูแลอาคารแห่งหนึ่งในย่านที่เสื่อมโทรมที่สุดของนิวยอร์ค สาวไดนาโมสูง 1 เมตรครึ่งคนนี้เคยเผชิญหน้ากับแก๊งค์ขายยาเสพติด และผู้เช่าอาคารในเขตบร็องซ์ที่เธอดูแลอยู่ซึ่งมีพฤติกรรมเลวร้ายมาก

"เรื่องข่มขู่นั้นมีอยู่ แถมยังต้องเสียเวลาขึ้นโรงขึ้นศาลไล่ผู้เช่าเหล่านี้ออกไป ฉันมันเป็นคนหัวดื้อ ไม่เคยยอมแพ้ใคร" ชานพูดถึงประสบการณ์ของตัวเอง

แต่นั่นคืออดีตที่ผ่านพ้นไปแล้ว ปัจจุบันชาน ซึ่งมีอายุ 34 ปีคือเจ้าของ "ไชนีส เรียลเอสเตท แอนด์ บิสซิเนส ไทมส์ หนังสือพิมพ์ธุรกิจเรียลเอสเตทรายสัปดาห์ขนาดแทบลอยด์ฉบับเดียวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ที่เป็นภาษาจีน โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่ถนนลาฟาแยตต์ ใจกลางย่านไชน่าทาวน์ในนิวยิอร์ก

เมื่อ 5 ปีก่อน ชานซึ่งตอนนั้นทำงานเป็นนายหน้าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หาลูกค้านักลงทุนจากฮ่องกง และไต้หวัน ด้วยการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์จีน แต่ต้องผิดหวัง ดังนั้นเธอจึงทุปกระปุกเอาเงินที่เก็บหอมรอมริบจากค่านายหน้ามาได้ 75,000 ดอลลาร์ และไปขอกู้เงินจากซิตี้แบงก์อีก 50,000 ดอลลาร์มาเปิดหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ขนาด 32 หน้าของตัวเองขึ้นในปี 1989 หลังจากนั้นเป็นต้นมา ยอดจำหน่ายจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์ของเธอได้เพิ่มขึ้นจาก 15,000 ฉบับเป็น 35,000 ฉบับ

การทำหนังสือพิมพ์แนวอสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่เรื่อง่าย ในสถานการณ์ที่ตลาดบ้านและที่ดินกำลังซบเซา ทุกวันนี้เนื้อที่โฆษณากินพื้นที่ในหนังสือพิมพ์อยู่ราว 30% ลดลงจาก 40% ในปี 1989 ต้นทุนค่าใช้จ่ายตกประมาณ 350,000-400,000 ดอลลาร์ต่อปี และรายได้จากโฆษณาปีละ 300,000 ดอลลาร์ จำนวนที่เป็นส่วนต่างนั้นชานต้องกู้จากธนาคารมาอุด

"ฉันมักจะตื่นขึ้นมากลางดึก และนั่งคิดดูว่าจะโยนผ้ายอมแพ้ดีไหม" เธอเล่าให้ฟังถึงความกดดัน "แต่คนอย่างฉันเมื่อตัดสินใจทำแล้ว ต้องทำให้ตลอด"

เมื่อ 2 ปีก่อนชานได้ดึงหุ้นส่วนมาร่วมด้วยอีกคนหนึ่ง และตอนนี้ก็เริ่มมองหานักลงทุนรายอื่น ๆ อีก เธอฝันว่าจะขยายกิจการไปให้ถึงฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ นักลงทุนหลายรายขอซื้อหนังสือพิมพ์ของเธอ แต่เธอปฏิเสธ "ในช่วงเริ่มต้นสองสามปีแรก หนังสือพิมพ์แทบทุกแห่งมักจะขาดทุน" เธอพูดหน้าตาเฉยต่อไปว่า "ฉันอยากจะขาดทุนเพิ่มอีกสักหน่อย"

ชานบอกว่า ความเป็นคนแกร่งที่สู้ชีวิตของชาวจีนสาวนใหญ่มีที่มาจากสภาพแวดล้อมในครอบครัวแบบดั้งเดิม พ่อแม่ของเธอย้ายถิ่นฐานจากฮ่องกงมายังสหรัฐฯ เมื่อตอนที่เธอได้ 4 ขวบ พ่อทำงานอยู่ในร้านอาหาร ส่วนแม่ทำงานอยู่ในโรงงานเสื้อผ้า บางครั้งเธอจะไม่ได้รับการส่งเสริมในสิ่งที่เธอเองต้องการ "แม่มักเป็นคนมองอะไรในแง่ร้ายเสมอ" ชานเล่า เธอเป็นลูกสาวคนที่ 2 จาก 4 คน "แม่มักจะทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันไม่มีค่า จริง ๆ แล้วแม่อาจไม่ตั้งใจ แต่ฉันก็รู้สึกอย่างนั้น" นอกจากนี้เธอยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากพ่ออีกด้วย "เราจะไม่คุยกันถึงเรื่องความคิด เขาเป็นคนไม่ค่อยพูดอยู่แล้วด้วย อย่างมากก็ถามว่า "ลูกหิวไหม"

หลังจากได้ปริญญาธุรกิจบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยไมอามี ชานได้ตั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขึ้นมา และภายในไม่กี่ปีก็สามารถทำกำไรได้โดยมียอดค่านายหน้าตกราวปีละ 60,000 ดอลลาร์

ในฐานะคนทำหนังสือพิมพ์ กลยุทธ์ของชานคือ เสนอข้อมูลและคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน บทความบางเรื่องที่ได้รับความนิยมเป็นเรื่องเกี่ยวกับการควบคุมค่าเช่า การซ่อมแซมปรับปรุงบ้าน ความเคลื่อนไหวของผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ ข่าวตลาดหุ้นและฮวงจุ๊ย

ชานมอบงานด้านกองบรรณาธิการให้เดวิด วู หัวหน้ากองบรรณาธิการซึ่งเป็นคนปักกิ่งเป็นผู้ทำ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่สนใจงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ชานจะลงมือเช็ดถู ทาสี และติดตั้งตู้ขายหนังสือพิมพ์แบบหยอดเหรียญทั้ง 25 ตู้ด้วยตัวเอง

"มันน่าเขินอยู่เหมือนกัน เพราะเวลาเราไปไขตู้ จะมีคนมาดูแล้วพูดว่านั่นไง ไม ชาน เจ้าของหนังสือพิมพ์ ทำไมเธอไม่จ้างใครสัก 10 ดอลลาร์มาเอาหนังสือพิมพ์ใส่ตู้ให้นะ" เธอเล่า

การทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ทำให้ชานไม่ค่อยมีเวลาว่างสำหรับงานสังคมนัก เมื่อถามเธอถึงเรื่องการแต่งงาน เธอยิ้ม กระแอมเล็กน้อย "ฉันหมั้นมานานแล้ว" แต่ดูเหมือนว่าเธอจะมีพันธะกับชีวิตการทำงานเสียมากกว่า



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.