|
"แฟชั่นโฟน"ร้อนประชันโฉมปลุกนิวเทรนด์ไลฟ์สไตล์คอนซูเมอร์
ผู้จัดการรายสัปดาห์(17 กันยายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
เทรนด์ "แฟชั่นโฟน" สิ่งที่จะต้องจับตากับการเปลี่ยนแปลงทุกปี แนวโน้มที่กำลังร้อนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มคอนซูเมอร์ที่ต้องการสร้างสีสันและเอกลักษณ์ส่วนตัวในสไตล์ที่สามารถบ่งบอกความเป็นตัวของตนเองได้
ตลาดโทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะอย่าง "แฟชั่นโฟน" กำลังเป็นตลาดที่เติบโตขึ้นตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคทั่วโลก ที่ต้องการโทรศัพท์มือถือที่สามารถบ่งบอกความเป็นตัวของตัวเองได้อย่างมีสไตล์ ส่งผลให้ค่ายผู้ผลิตโทรศัพท์ต้องศึกษาเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของแฟชั่นไม่เฉพาะในวงการโทรศัพท์มือถือ แต่ต้องดูอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของแฟชั่นด้วย
ล่าสุดจากการเปิดตัวลามูร์คอลเล็คใหม่ของโนเกีย 3 รุ่นใหม่ เพื่อเป้าหมายอย่างเดียวคือการสนองความต้องการของคนรักแฟชั่นทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"เราต้องดูเทรนด์แฟชั่นจะไปในทิศทางไหน และพยายามมองหาสิ่งใหม่ๆ ให้กับแฟชั่นของโนเกีย" Alex Lambeek Vice President,APAC Mobile Phone,Sale and Market Operations โนเกีย กล่าว
ผู้บริหารโนเกียมองว่าการที่จะเปิดตัวคอลเล็คชั่นใหม่ๆ ให้กับแฟชั่นโฟนนั้น เปรียบเสมือนการเปลี่ยนแปลงของวงการแฟชั่นที่จะเกิดขึ้นในทุกๆ ปี เมื่อมีสิ่งใหม่เข้ามาในวงการก็จะต้องมีสิ่งเก่าออกไป ที่ผ่านมาโนเกียลามูร์คอลเล็คชั่นที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมา ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี และเป็นการตอกย้ำภาพโนเกียกับแฟชั่นให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
"เรามีความกระหายที่จะตามแฟชั่น เรามองเห็นเทรนด์ที่จะมา และรู้ว่าคอนซูเมอร์ต้องการอะไร"
โนเกียมีทีมงานดีไซน์เนอร์ที่ไม่เฉพาะแต่ดีไซน์เนอร์มือถือเท่านั้น แต่ยังรวมถึงดีไซน์เนอร์ในอุตสาหกรรมอื่นๆ อาทิ ดีไซน์เนอร์เสื้อผ้า ดีไซน์เนอร์ของใช้ และอื่นๆ เข้ามาอยู่ในทีมดีไซน์เนอร์ของโนเกีย ซึ่งโนเกียมองการพัฒนาแฟชั่นโฟนเป็นปีต่อปี จึงต้องพยายามทำความเข้าใจในเทรนด์ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา
และในการเปิดตัวลามูร์คอลเล็คชั่นใหม่ทั้ง 3 รุ่น นอกจากโนเกียจะพัฒนาเรื่องของแฟชั่นโฟน ที่ขายเรื่องดีไซน์เมื่ออย่างเช่นที่ผ่านมาแล้ว ในครั้งนี้โนเกียยังได้ใส่ฟีเจอร์ฟังก์ชั่นเพิ่มให้กับลามูร์คอลเล็คชั่นใหม่นี้ด้วย อย่างโนเกีย 7390 เป็นแฟชั่นรุ่นแรกในคอลเล็คชั่นลามูร์ที่รองรับเทคโนโลยี 3G
"โนเกียต้องการขยายตลาดแฟชั่นโฟนไปในทุกลุ่มผู้ใช้ จึงมีการเพิ่มเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาในโทรศัพท์แฟชั่นรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ด้วย"
ในลามูร์คอลเล็คใหม่เป็นโทรศัพท์ที่ผสมผสานศิลปะแบบชนเผ่าและความงามสไตล์พื้นเมืองที่ให้อารมณ์แบบ "นูโวเอทนิค" เพื่อเอาใจผู้ใช้ที่รักแฟชั่น โดยแต่ละรุ่นจะมีสไตล์และเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป ทำให้ผู้ใช้มีทางเลือกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น
สำหรับลามูร์คอลเล็คชั่นใหม่ทั้ง 3 รุ่น ประกอบด้วย โนเกีย 7390 ถือเป็นโทรศัพท์แบบพับรุ่นแรกในตระกูลนี้ และเป็นมือถือแนวแฟชั่นรุ่นแรกในลามูร์คอลเล็คชั่นที่รองรับเทคโนโลยี 3G มีกล้องดิจิตอลความละเอียด 3 ล้านพิกเซล และการเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี WCDMA ส่วนวัสดุใช้ผิวเรียบของเซรามิค และฝาปิดที่เป็นหนังมีให้เลือก 2 โทนสี คือดำบรอนซ์และชมพูมุก
โนเกีย 7373 จะมีคุณสมบัติเด่นกล้องดิจิตอลความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เครื่องเล่นเพลงและวิดีโอ พร้อมลำโพงสเตอริโอคู่ และอุปกรณ์เฮดเซ็ทสไตล์แฟชั่น ซองใส่โทรศัพท์และอุปกรณ์ตกแต่ง เป็นโทรศัพท์ดีไซน์หมุนได้ ให้ความแปลกใหม่หรูหรายิ่งขึ้น มี สีดำบรอนซ์ ชมพูมุก และโครเมี่ยมรมดำ รวมทั้งลวดลายกราฟิกหลากหลายแนว
และโนเกีย 7360 เน้นจุดขายสไตล์หรูเรียบ ที่ตกแต่งด้วยโลหะ หนังและพื้นผิวที่โปร่งแสง การใช้วัสดุที่แตกต่างทำให้โนเกียรุ่นนี้เป็นมือถือแนวแฟชั่นที่มีบุคลิกพิเศษ ทันสมัยในสไตล์คลาสสิก ตัวเครื่องหุ้มด้วยหนังประดับแทคไทล์ในตัว มี 2 เฉดสี ได้แก่ สีโคมเมียมและดำ และโรสสีชมพูมุก
ทั้งนี้โทรศัพท์เคลื่อนที่แต่ละรุ่นในลามูร์คอลเล็คชั่นใหม่จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้ สำหรับประเทศไทยนั้นจะมีการเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนนี้ พร้อมๆ กับงานบางกอกแฟชั่นวีค ที่ร่วมจัดกันมาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากการเปิดตัวลามูร์คอลเล็คชั่นใหม่ โนเกียยังได้มีการเปิดตัวโนเกีย 8800 ซิร็อคโค โทรศัพท์มือถือในกลุ่มพรีเมี่ยมโฟนด้วย การเปิดตัวพร้อมกันในครั้งนี้ ผู้บริหารของโนเกียบอกว่าเป็นการเปิดตัวในสองสิ่งที่มีความเหมือนและแตกต่างกัน เพราะทั้งพรีเมี่ยมโฟนและแฟชั่นโฟนจะมีจุดขายเรื่องของดีไซน์และสไตล์เป็นหลักเหมือนกัน
โนเกีย 8800 ซิร็อคโค เป็นโทรศัพท์ที่รับการออกแบบจากแรงบันดาลใจตามชื่อลมที่เกิดขึ้นในทะเลทรายซาฮารา โดยสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของรูปร่างที่เหมาะกับการใช้งาน เน้นความแตกต่างด้วยผิวเรียบลื่นของสเตนเลสสตีลขัดมัน รวมทั้งหน้าจอที่ทำจากกระจกแซฟไฟร์แกร่งต้านแรงขูดขีด สามารถรองรับการแสดงสีได้ถึง 262,000 สี ระบบสไลด์สำหรับเลื่อนฝาขึ้นลง มีกล้องดิจิตอลความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานนานขึ้น
โนเกีย 8800 ซิร็อคโค มีวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทยในราคา 36,500 บาท และมีวางจำหน่ายแล้วในบางประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิก ยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา
ในการทำตลาดแฟชั่นคอลเล็คชั่นโฟนรุ่นใหม่ของโนเกีย Alex Lambeek กล่าวว่าจะยังคงกลยุทธ์การทำตลาดของลามูร์คอลเล็คชั่นในปีที่ผ่านอยู่ เนื่องจากเป็นกลยุทธ์การตลาดที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แต่ก็จะมีการพิจารณาการทำตลาดเพิ่มขึ้นให้มีความเข้มข้นไม่ว่าจะเป็นช่องทางการจัดจำหน่าย การขาย การสาธิตผลิตภัณฑ์ การเลือกใช้สื่อต่างๆ และการทำกิจกรรมต่างๆ
อย่างไรก็ตามการทำตลาดแฟชั่นโฟนในขณะนี้ถือได้ว่าโนเกียเป็นเจ้าแรกที่ทำตลาดนี้อย่างจริงจัง และมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นคอลเล็คชั่นออกอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ค่ายผู้ผลิตมือถืออื่นๆ จะมีการจับมือกับค่ายผลิตภัณฑ์แฟชั่นอื่นๆ ออกโทรศัพท์รุ่นพิเศษขึ้นและวางจำหน่ายช่วงเวลาเดียวก็หายไป
"ที่ผ่านมาแม้จะมีคนทำแฟชั่นโฟนแต่เป็นเรื่องการตลาดร่วมกันระหว่างค่ายมือถือกับวงการแฟชั่นอื่นๆมากกว่า ต่างจากสิ่งโนเกียทำตลาดแฟชั่นโฟน"
มือถือขายดีไซน์
แม้ว่าโนเกียจะทำตลาดแฟชั่นโฟนด้วยการมีคอลเล็คชั่นแฟชั่นโฟน แต่ผู้ผลิตมือถือรายอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างโมโตโรล่าบอกว่าแฟชั่นโฟนในสไตล์ของโมโตโรล่าคือการขายดีไซน์ของโทรศัพท์มือถือ ซึ่งที่ผ่านมาหลังจากที่โมโตโรล่าทำตลาดโทรศัพท์มือถือโมโตโรล่า V3 ได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี ด้วยการดีไซน์โทรศัพท์ที่บางเฉียบ ใช้วัสดุที่ดีเป็นจุดขาย จนมีการออกรุ่นใหม่สีต่างๆ และมีการเพิ่มฟีเจอร์ให้กับโมโตโรล่า V3 อย่างต่อเนื่อง
"เราจะเน้นดีไซน์เป็นจุดขายของโทรศัพท์มือถือโมโตโรล่า เพราะหลังจากที่ออก V3 มาเราขายโทรศัพท์รุ่นนี้กว่า 10 ล้านเครื่องทั่วโลกแล้ว" จงรักษ์ สกุลภักดี ผู้จัดการ ประจำประเทศไทย บริษัท โมโตโรล่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวและว่า
"V3 ถือเป็นมือถือขายดีไซน์ที่ทำให้ค่ายมือถือรายอื่นๆ กระโดดเข้ามาเลียนแบบตาม อย่างซัมซุงที่ออกรุ่นบางเฉียบมาวางขายหลายรุ่นในตลาดขณะนี้"
จงรักษ์ มองว่าการทำโทรศัพท์ที่ขายดีไซน์จะต้องรสนิยมเหมาะกับกลุ่มผู้ใช้ด้วย โมโตโรล่าถือเป็นอีกหนึ่งเซกเมนต์ที่ให้ความสำคัญกับการทำตลาดอย่างมาก ทำให้จุดขายของโทรศัพท์มือถือในกลุ่มนี้จะขายความบาง ส่วนฟังก์ชั่นในเครื่องจะเป็นจุดขายที่ตามมามากกว่า
ในเรื่องจุดขายโทรศัพท์มือถือที่เน้นความบางนั้น Alex Lambeek กล่าวว่าโนเกียได้จับตาดูโทรศัพท์มือถือในกลุ่มนี้เช่นกัน และอาจจะมีการผลิตโทรศัพท์ที่มีดีไซน์บางมาวางขายในอนาคต อย่างไรก็ตามโนเกียมองว่าเรื่องของความบางไม่ใช่เรื่องเดียวที่จะเป็นจุดขาย แต่จุดขายมือถือของโนเกียจะต้องเป็นสิ่งผสมผสานกันระหว่างดีไซน์ รูปแบบ รูปทรง การใช้งานที่จะต้องสร้างความคุ้มค่าให้กับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือที่สุดมากกว่า
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|