"อมรเทพ ดีโรจนวงศ์ สร้างฝันสหพัฒน์ให้เป็นจริง"


นิตยสารผู้จัดการ( กรกฎาคม 2537)



กลับสู่หน้าหลัก

"เปลี่ยนได้หากเป็นมิสทีน" สโลแกนใหม่ของ "มิสทีน" และพรีเซนเตอร์ใหม่จากเดิมที่เคยใช้สาว ๆ หน้าหวานเคาะประตูหน้าบ้านพร้อมกับสโลแกน "มิสทีนมาแล้วค่ะ" มาเป็นชายหนุ่มวัยดึก นามอมรเทพ ดีโรจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทเบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยท่าทีที่มาดมั่น เน้นให้เห็นถึงการทำจริง

6 ปีมาแล้ว ที่อมรเทพปลุกปั้น "มิสทีน" สินค้าเครื่องสำอางของบริษัทแบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือสหพัฒน์ให้ขึ้นมาอยู่แถวหน้ากลายเป็นบริษัทชั้นนำของธุรกิจเครื่องสำอางขายตรงได้อย่างโดดเด่น ทั้งในแง่ของภาพลักษณ์ และในแง่ของธุรกิจขายตรง ซึ่งเป็นบริษัทในเครือสหพัฒน์เพียงบริษัทเดียวที่นับได้ว่าประสบความสำเร็จตามที่เสี่ยบุญยเกียรติ โชควัฒนา ผู้ที่ดึงอมรเทพให้เข้ามาทำสินค้าเครื่องสำอางขายตรงต้องการ เพราะช่วงนั้นใคร ๆ ก็มองว่าตลาดขายตรงจะเป็นตลาดที่เติบโตมากที่สุดในอนาคต

อมรเทพได้ประกาศตัวเมื่อครั้งแรกของการเข้าสู่วงการ ว่าจะต่อสู้กับบริษัทขายตรงที่เคยเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดขายตรงมาก่อนให้ได้ นั่นอาจเพราะอมรเทพผิดหวังกับเอวอนซึ่งเป็นบริษัทที่เขาสร้างมากับมือ และอาจ เพราะเป็นเป้าหมายที่ท้าทายความสามารถของเขาพอสมควร ทำให้เอวอนเครื่องสำอางขายตรงที่เป็นผู้นำตลาดมานับ 10 ปีในขณะนั้นต้องหันมาพิจารณาตัวเองและเริ่มวางแผนรับมือ

การเอาจริงเอาจังในการบุกตลาดโดยการทำทุกวิถีทาง เพื่อล้มแชมป์อย่างเอวอนให้ได้ในเร็ววันอันเป็นเป้าหมายที่ผู้นำมิสทีนมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่นั้น ต่างเป็นที่วิพากษ์กันในวงการว่าการรุกหนักของมิสทีนด้วยทุกวิถีทางเช่นนี้ความฝันของสหพัฒน์ย่อมอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้เองบทพิสูจน์ของความพยายามอย่างหนักที่อมรเทพได้ทุ่มให้กับมิสทีนก็ได้เผยออกมาให้เห็นอย่างกระจ่างชัดแล้ว ยอดขายของเครื่องสำอางมิสทีนในวันนี้สามารถเคลมได้ว่า เขากำลังเป็นผู้นำตลาดเครื่องสำอางขายตรงอยู่ในขณะนี้ จากตลาดขายตรงทั้งระบบมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท คาดว่ามีอัตราเติบโตสูงขึ้นเฉลี่ยปีละกว่า 30% มิสทีนมีส่วนแบ่งอยู่กว่าครึ่งของตลาดเครื่องสำอางขายตรง หรือ 60% ของตลาดขายตรงทั้งระบบ ซึ่งการกระเถิบตัวเลขยอดขายเข้ามาใกล้เคียงหรือเกือบเท่ากับเอวอน ซึ่งอยู่ในตลาดมานานกว่า 10 ปี และมีรายได้ในปีที่ผ่านมา 1,200 ล้านบาท ย่อมแสดงให้เห็นถึงอัตราการเติบโตของมิสทีนที่ขยายบทบาท แม้จะมีอายุน้อยกว่าแต่ก็สามารถล้มแชมป์ได้ในเวลาอันรวดเร็ว

ว่ากันตามจริงแล้วการเกิดของมิสทีนเครื่องสำอางในระบบขายตรง เมื่อช่วง 6 ปีที่ผ่านมาซึ่งเริ่มจากยอดขายในปีแรกเพียง 20 ล้านบาท ณ วันนี้สามารถขยับฐานยอดในปี 36 จาก 1,200 ล้านบาทเป็น 1,600 ล้านบาทจากมูลค่าตลาดเครื่องสำอางอีกยี่ห้อหนึ่งที่น่าจับตามอง

จากตัวเลขการเติบโตในแต่ละปีคือ ปี 32 มียอดขาย 20 ล้านบาท ปี 33 มียอดขายเพิ่มขึ้นมาเป็น 210 ล้านบาท ปี 34 สามารถทำยอดขายได้ 600 ล้านบาท ในขณะที่ปี 35 มียอดขายสูงถึง 850 ล้านบาทและปี 36 ยอดขายได้ทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ 1,200 ล้านบาท ที่เป็นเช่นนี้ได้เพราะอมรเทพเดินแผนการตลาดแบบรุกคืบตามประกบเอวอนไปตลอด หากเอวอนขยับมิสทีนก็จะรุกทันที ประกอบกับเอวอนในขณะนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนผู้นำ จากคนไทยมาเป็นคนต่างชาติ ทำให้ต้องใช้เวลาในการศึกษาพฤติกรรมคนไทยอีกนาน จึงอาจกล่าวได้ว่าเอวอน ณ เวลานี้กำลังสะดุดขาตนเองอยู่จึงทำให้ต้องหยุดมองตนเองและใช้เวลาในการตั้งท่ารับและตอบโต้แทนที่จะเป็นรุกไป ข้างหน้าอย่างผู้นำ

ปัจจุบันอมรเทพได้รับการยกย่องจากวงการว่าเป็นเจ้าพ่อขายตรง เพราะเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาธุรกิจขายตรงอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ขณะเดียวกันเขายังเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ริเริ่มก่อตั้งสมาคมขายตรง เพื่อยกระดับคุณภาพนักขายตรง และปัจจุบันเขาก็เป็นนักขายตรงคนเดียวที่ได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่งนี้นานที่สุดถึง 3 สมัยด้วยกัน และยังเป็นผู้นำมิสทีนให้ได้ชื่อว่า เป็นผู้นำของตลาดเครื่องสำอางขายตรง ในอีกทางหนึ่ง

ขณะเดียวกันบริษัทเบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือสหพัฒน์ที่ร่วมกันก่อตั้งเมื่อ 6 ปีที่แล้วบัดนี้ ก็สามารถพิสูจน์ตนเองได้ว่าเป็นบริษัทขายตรงบริษัทเดียวที่ทำรายได้ให้กับสหพัฒน์สูงที่สุดในกลุ่มธุรกิจขายตรงด้วยกัน

กลุ่มธุรกิจขายตรงซึ่งเป็นบริษัทในเครือของสหพัฒน์ในเวลานี้ ล้วนจบเกมธุรกิจไปแล้วแทบทั้งสิ้น อาทิ บริษัทซีซีดี หรือ ซีซีไดเร็คมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งมีเปรื่อง มังกรแก้วเป็นกรรมการผู้จัดการ ขายเครื่องสำอางโซเซีย บริษัท วีน ขายชุดชั้นใน เวียนนา และอมรเร่ซึ่งเป็นเครื่องสำอางที่วางตำแหน่งของสินค้าไว้ที่เป็นเครื่องสำอางชุดเครื่องบำรุงผิว ที่ค่อนข้างมีราคาสูง การที่กลุ่มธุรกิจขายตรงของบริษัทในเครือสหพัฒน์ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เป็น เพราะขาดทีมงานที่มีประสิทธิภาพ และประสบการณ์ความชำนาญพิเศษในธุรกิจนี้โดยเฉพาะ "คนที่เข้าในในเรื่องของตลาดขายตรงเท่านั้น จึงจะทำตลาดนี้ได้สำเร็จ" อมรเทพ กล่าวไว้เช่นนั้น

และเพราะสาเหตุนี้กระมังจึงทำให้มิสทีนเป็นบริษัทเดียวในเครือสหพัฒน์ที่สามารถทำรายได้เติบโตทวีได้เช่นในปัจจุบันนี้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.