เอกชนอ่วมเจอกระดาษนำเข้าทะลัก ส.อ.ท.จี้รัฐลดภาษีอะไหล่เครื่องจักร


ผู้จัดการรายวัน(11 กันยายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ส.อ.ท.ร้องรัฐทบทวนลดภาษีนำเข้ากระดาษสิ่งพิมพ์ใหม่ หลังเปิดอ้าซ่าจนยอดนำเข้ากระดาษพุ่ง ผู้ผลิตในประเทศอ่วมเจอต้นทุนค่าน้ำมันขึ้นแต่รัฐไม่เอื้อภาษีอะไหล่เครื่องจักร แถมกระดาษบางประเภทเจอลดภาษีนำเข้าด้วย จวกนโยบายรัฐแก้ไม่ถูกจุด ชี้ลดภาษีกระดาษไม่ทำให้ราคาหนังสือไม่ถูกลง

นายเชาวลิต เอกบุตร ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) และกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท เยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน)ในเครือ บมจ.ซิเมนต์ไทย เปิดเผยว่า ทางกลุ่มอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษเตรียมยื่นหนังสือขอให้รัฐทบทวนการประกาศลดภาษีนำเข้ากระดาษใช้ในสิ่งพิมพ์เหลือ 0%ใหม่ และปรับลดอัตราภาษีนำเข้าอะไหล่เครื่องจักรจากปัจจุบันที่เก็บภาษีอยู่ 5-20% เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถผลิตสินค้าแข่งขันกับกระดาษนำเข้าได้ หลังจากรัฐได้มีการปรับลดภาษีนำเข้ากระดาษสิ่งพิมพ์เหลือ 0%เมื่อต้นปี2549

โดยก่อนที่รัฐจะประกาศปรับลดภาษีนำเข้ากระดาษใช้ในสิ่งพิมพ์นั้น ทางส.อ.ท.เคยเรียกร้องให้รัฐดูแลไม่ให้ผู้ประกอบการไทยเสียเปรียบประเทศอื่นๆ รวมทั้งควรลดภาษีเฉพาะกระดาษที่ไม่มีผลิตในประเทศ แต่การปรับลดภาษีนำเข้าดังกล่าว ปรากฎว่ามีกระดาษบางประเภทที่ไม่ควรอยู่ในข่าย อาทิ กระดาษที่มีคาร์บอนในตัว และกระดาษแข็งที่ใช้บรรจุภัณฑ์ถูกลดภาษีนำเข้าเหลือ 0%ไปด้วย ทำห้ผู้ประกอบการเดือดร้อน ซึ่งรัฐควรพิจารณาปรับขึ้นภาษีไปอยู่ที่ระดับเดิม ซึ่งที่ผ่านมา ทางมาเลเซียก็เคยช่วยเหลือผู้ผลิตกระดาษในประเทศโดยปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้ากระดาษพิมพ์เขียน 5%จากที่ลดเหลือ0%ในปี2548

ปัจจุบัน โรงงานกระดาษก็ประสบปัญหาต้นทุนพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ไม่สามารถปรับราคาขายได้ เนื่องจากกระดาษถือเป็นสินค้าควบคุม และมีการแข่งขันรุนแรงทั้งกระดาษภายในประเทศและนำเข้า รวมทั้งรัฐเก็บภาษีนำเข้าอะไหล่เครื่องจักร ทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องแบกรับภาระค่อนข้างสูงกว่าคู่แข่งอย่างญี่ปุ่นและอียู

" จุดประสงค์การปรับลดภาษีนำเข้ากระดาษเพื่อส่งเสริมให้สิ่งพิมพ์มีราคาถูกลง แต่เท่าที่ทราบไม่เห็นว่าอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์จะโตขึ้น และราคาหนังสือถูกลง ก่อนหน้านี้เคยชี้แจงต่อรัฐแล้วว่าต้นทุนกระดาษไม่ใช่ต้นทุนใหญ่ของสิ่งพิมพ์ แต่ต้นทุนที่แท้จริง คือการจัดจำหน่ายและค่าขนส่ง ขณะที่ตัวเลขการนำเข้ากระดาษมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นจากมาตรการลดภาษีดังกล่าว ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้ ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด"

ส่วนกรณีที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ได้ปรับลดภาษีนำเข้ากระดาษและสิ่งพิมพ์ให้กับไทยภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรี (FTA)เหลือ 0% นายเชาวลิต กล่าวว่า กลุ่มอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษคงไม่ได้ประโยชน์มากนัก เนื่องจากปัจจุบันไทยมีการส่งออกกระดาษไปออสเตรเลียน้อยมาก แต่เชื่อว่าระยะยาวไทยอาจจะส่งออกกระดาษเกรดพิเศษไปออสเตรเลียมากขึ้น

เนื่องจากออสเตรเลียก็มีโรงงานกระดาษภายในประเทศอยู่แล้ว ทั้งนี้ เครือซิเมนต์เคยส่งออกกระดาษไปออสเตรเลียไม่มากในช่วง 1-2 ปี แต่ปีนี้ไม่มีการส่งออกไปประเทศดังกล่าว

นายเชาวลิต กล่าวถึงผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นว่า บริษัทฯได้มีการเตรียมการในเรื่องนี้มาเป็นเวลา 2ปีแล้วโดยโรงงานกระดาษคราฟท์ในฟิลิปปินส์ และโรงงานของไทยเคนเปเปอร์ ในเครือเครือซิเมนต์ไทยได้มีการปรับปรุงบอยเลอร์จากเดิมใช้น้ำมันเตาเป็นถ่านหินแทนแล้วเสร็จในปีนี้ ทำให้ประหยัดค่าเชื้อเพลิงประมาณ 600 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.