LPNเล็งแตกบ.ลูกเพิ่ม'ธุรกิจค้าปลีก'


ผู้จัดการรายวัน(5 กันยายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

แอล.พี.เอ็น.จ้องแตกบริษัทลูกรุกธุรกิจค้าปลีก หากโครงการลุมพินี พลาซ่า อโศกประสบความสำเร็จ พร้อมเดินหน้าเปิดโครงการลุมพินี เพลส ปิ่นเกล้าเฟส 2 เปรยโครงการคอนโดมิเนียมยูนิตละ 5แสนบาท เกิดแน่ต้นปี 50 เล็งหาวิธีสร้างหลักประกันให้แบงก์ปล่อยกู้ลูกค้า

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ผลักดันนโยบายที่จะขยายธุรกิจไปยังธุรกิจรีเทล ด้วยการนำร่องพัฒนา “ลุมพินี พลาซ่า อโศก” พลาซ่าขนาดใหญ่หนึ่งเดียวบนถนนอโศกมนตรี ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการจับจ่ายใช้สอยของหนุ่มสาวในสำนักงานเกือบ 30 อาคาร บนถนนดังกล่าว รวมถึงผู้พักอาศัยในโครงการแกรนด์ พาร์ควิว อโศก และบริเวณใกล้เคียง

“ เป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงตามสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังเป็นการเสริมประสบการณ์ทางด้านธุรกิจรีเทลให้มากขึ้น ปัจจัยที่ทำให้บริษัทฯ สนใจธุรกิจดังกล่าว เนื่องจากLPNเป็นแกนนำในการพัฒนาและบริหารจัดการอาคารชุด โครงการ แกรนด์ พาร์ควิว อโศก จึงเล็งเห็นศักยภาพของโครงการและโอกาสของธุรกิจดังกล่าว ด้วยทำเล ที่ตั้งกลางถนนอโศก แวดล้อมด้วยกำลังซื้อมหาศาลของหนุ่มสาววัยทำงานจำนวนมาก จึงได้ซื้อพื้นที่ในส่วนของพลาซ่าต่อจากบริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด บริษัทในเครือ พัฒนาขึ้นภายใต้ชื่อ ลุมพินี พลาซ่า อโศก ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 250 ล้านบาท เพื่อดำเนินงานธุรกิจทางด้านรีเทล ซึ่งประกอบไปด้วย ฟู้ดพาราไดซ์ หรือศูนย์อาหารนานาชาติ แหล่งชอปปิ้งทันสมัย Center Point ของคนทำงานบนถนนอโศกมนตรี ซึ่งได้เปิดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา ”

ทั้งนี้ นโยบายการพัฒนาธุรกิจรีเทล ลุมพินี พลาซ่า อโศก ถือเป็นโครงการนำร่องเพื่อการศึกษาธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ โดยมุ่งเน้นการสร้างฐานของธุรกิจในการขยายแผน รองรับการพัฒนาชุมชน และรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะ โดยหากโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จ ทางผู้บริหารได้เตรียมแผนที่จะจัดตั้งบริษัทลูกค้า ในการเข้าสู่ธุรกิจรีเทลอย่างจริงจัง โดยรูปแบบการพัฒนาอาจจะเป็นการซื้อที่ดินที่ติดกับโครงการของบริษัท มาพัฒนาเป็นแหล่งชอปปิ้งให้แก่ลูกค้าโครงการและชุมชนรอบข้าง ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในยุคที่น้ำมันแพง

นายโอภาส กล่าวว่าในช่วงกลางเดือนก.ย.นี้ ทางบริษัทจะเริ่มเปิดขายโครงการลุมพินี เพลส ปิ่นเกล้า เฟส 2 คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลาม เนื่องจากโครงการก่อนหน้านี้ที่ปิ่นเกล้า สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว โดมูลค่าขายโครงการเฟส 2 ประมาณ 1,200 ล้านบาท จำนวน 650 ยูนิต ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1.85 ล้านบาทต่อยูนิต

สำหรับความคืบหน้าการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ยูนิตละ 5 แสนบาทนั้น กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ขณะนี้การจัดทำแผนต่างๆลงตัวหมดแล้ว ทั้งเรื่องของการออกแบบ(ดีไซน์)แต่ละห้อง ที่ดินที่คิดว่าจะเหมาะสมต่อการพัฒนาน่าจะอยู่ในชุมชนและใกล้โครงการข่ายรถไฟฟ้า เช่น ที่ดินบริเวณอ่อนนุช ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช ขนาดเนื้อที่รองรับการพัฒนาน่าจะประมาณ 10 ไร่ อยู่ในซอยลึกเข้าไปหน่อย ซึ่งจะทำให้ราคาที่ดินเพื่อใช้พัฒนาไม่สูง โดยต้นทุนของที่ดินที่เหมาะสมกับการทำโครงการประมาณ 30,000 บาทต้นๆต่อตร.วา แบ่งการพัฒนาเป็นเฟส รูปแบบโลว์ไรท์

" ถ้าจะพูดว่าโครงการนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ ยืนยันว่าต้องทำ เพราะทางบริษัทมองเห็นโอกาสที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย คาดว่าภายในต้นปี 2550 จะเริ่มดำเนินการได้ ซึ่งถ้ามองในเชิงการตลาดแล้วโครงการนี้ประสบความสำเร็จไปกว่า 99% ติดอยู่เรื่องเดียว สถาบันการเงินที่ไปเจรจาหลายที ยังกังวลเรื่องความเสี่ยงของลูกค้าระดับดังกล่าว และหากจะปล่อยกู้ 100% ก็ยิ่งหวั่นกลัวว่าจะเกิดหนี้เสียได้ แต่ในมุมมองของบริษัทแล้วคิดว่าไม่เกิดหนี้เสีย อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา เราได้มีการดีไซน์โครงการไว้หลายรูปแบบ การคุยกับแบงก์ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่ง หรือแม้แต่การพัฒนาโครงการแล้วขายให้แก่พร็อพเพอร์ตี้ ฟันด์ ก็คิด แต่บังเอิญไม่ตรงเท่าไหร่ เอาเป็นว่าทางบริษัทคงต้องหาวิธีเพิ่มเครดิตให้แก่ลูกค้าในโครงการดังกล่าว "นายโอภาสกล่าว

อนึ่ง ลูกค้ากลุ่มที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมระดับราคา 5 แสนบาท อาจจะเป็นผู้มีรายได้น้อย ที่บางรายอาจจะไม่มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินเหมือนกลุ่มลูกค้าระดับอื่น หรือกระแสเงินในบัญชีอาจจะไม่สะท้อนถึงความสามารถได้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.