|
ดิเอราวัณปักธงตลาดท่องเที่ยวพัทยาผุดโรงแรม 1.8 พันล. ดึงไอเอชจีบริหาร
ผู้จัดการรายวัน(1 กันยายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ดิเอราวัณกรุ๊ป เดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ มีโรงแรม 12 แห่ง ในปี 2551 พร้อมวางเป้าหมายพัทยาเป็นทำเลหลักในการขยายเครือข่าย ล่าสุดทุ่มงบ 1,800 ล้านบาท ซื้อที่ดินและก่อสร้างโรงแรม “ฮอลิเดย์ อินน์” ที่พัทยา พร้อมดึงกลุ่มไอเอชจีเข้ามาบริหารงาน
นายกษมา บุณยคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทางเอราวัณได้กำหนดให้พัทยาเป็นที่ตั้งเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ในการขยายเครือข่ายโรงแรม จากศักยภาพของพัทยาซึ่งเป็นที่แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญและเป็นเมืองธุรกิจซึ่งป็นศูนย์กลางระหว่างแหล่งอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก รวมทั้งท่าเรือน้ำลึกที่มาบตาพุดและศรีราชา การเปิดสนามบินสุวรรณภูมิจะทำให้สามารถเดินทางสู่พัทยาเพียง 1 ชั่วโมงเศษ ซึ่งจะเป็นปัจจัยส่งเสริมที่สำคัญที่ทำให้เมืองพัทยามีศักยภาพในการแข่งขันสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับเมืองท่องเที่ยวและสถานที่จัดประชุมสัมมนาที่สำคัญในเอเชียใต้
ดังนั้นล่าสุดนี้บริษัทฯ ได้ลงทุนซื้อที่ดินและสร้างโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ ที่พัทยาด้วยเงินลงทุนประมาณ 1,800 ล้านบาท โรงแรมแห่งใหม่นี้จะมีห้องพัก 367 ห้อง ตั้งบนที่ดินประมาณ 6.5 ไร่ ซึ่งเป็นส่วนหน้าติดถนนเลียบหาดพัทยาจากที่ดินทั้งหมด 20.5 ไร่ ด้านข้างโรงแรมอมารี ออคิด
ทั้งนี้บริษัทฯ ได้แต่งตั้งให้กลุ่มโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล (IHG) เป็นผู้บริหารโรงแรมภายใต้ชื่อ “ฮอลิเดย์ อินน์” โดยมีกำหนดเปิดดำเนินงานปลายปี 2551 การลงทุนสร้างโรงแรมระดับ 4 ดาวที่พัทยานี้ เป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญซึ่งจะทำให้บริษัทฯ บรรลุเป้าหมายการขยายเครือข่ายโรงแรมตามแผนยุทธศาสตร์ที่ได้ประกาศไว้ โดยในปี 2551 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะมีโรงแรมไม่น้อยกว่า 12 แห่งให้บริการครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าตั้งแต่โรงแรมระดับ 6 ดาว ลักษณะ Pool villa ถึงโรงแรมชั้นประหยัด กระจายอยู่ในแหล่งธุรกิจและท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย
โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา ได้รับการพัฒนาให้สามารถรองรับลูกค้าทั้งกลุ่มท่องเที่ยวและกลุ่มลูกค้าที่มาประชุมสัมมนา โดยมีจุดเด่นที่ห้องพักทุกห้องสามารถมองเห็นวิวทะเลของพัทยาได้เป็นอย่างดี มีสระว่ายน้ำแยกสำหรับเด็กและสระว่ายน้ำใหญ่ลักษณะ Infinity edge ซึ่งตั้งอยู่ชั้น 4 ด้านหน้าของโครงการซึ่งผู้มาใช้บริการจะสามารถมองเห็นวิวอ่าวพัทยาในมุมกว้างอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีห้องอาหารจำนวน 4 ห้อง พร้อมทั้งห้องประชุมขนาดใหญ่และห้องประชุมย่อยรวมพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร ซึ่งจะสามารถให้บริการจัดเลี้ยงหรือจัดประชุมสัมมนาขนาด 300-600 คนได้เป็นอย่างดี
“ด้วยความแข็งแกร่งของฮอลิเดย์ อินน์ ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีเครือข่ายจำนวนโรงแรมมากที่สุดในโลกในตลาดโรงแรมระดับ 3-4 ดาว บริษัทมีความมั่นใจว่าโรงแรม Holiday Inn พัทยานี้จะสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าประเภทต่างๆ ที่มายังเมืองพัทยาในอนาคตได้เป็นอย่างดี” นายกษมากล่าว
นายแจน สมิทส์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของกลุ่มโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เอเชียแปซิฟิก หรือ IHG กล่าวเสริมในโอกาสการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ว่า “ทางกลุ่ม Intercontinental Hotel (IHG) มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ จะได้เข้ามีส่วนในการเริ่มต้นยุคใหม่ของเมืองพัทยา ทางกลุ่มได้มองเห็นศักยภาพและโอกาสทางธุรกิจโดยเฉพาะจุดยืนของแบรนด์ฮอลิเดย์ อินน์ ซึ่งตรงกับกลุ่มลูกค้าที่มายังเมืองพัทยา ทางกลุ่มได้เล็งหาพันธมิตรและที่ตั้งที่เหมาะสมมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ทางกลุ่มมีความภูมิใจที่ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ได้เลือกให้ทางกลุ่มเป็นผู้บริหารโรงแรมแห่งนี้ ทางกลุ่ม IHG เชื่อว่าด้วยเครือข่ายโรงแรมที่มีจำนวนห้องพักมากที่สุดในโลก และแบรนด์ฮอลิเดย์ อินน์ ซึ่งมีความชำนาญและเป็นผู้นำในตลาดโรงแรม 3-4 ดาว จะทำให้โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยานี้ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี”
ปัจจุบันกลุ่มโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล (IHG) เป็นกลุ่มธุรกิจโรงแรมที่มีจำนวนห้องพักมากที่สุดถึง 540,000 ห้อง และมีจำนวนโรงแรมในเครือถึง 3,650 แห่งในเกือบ 100 ประเทศ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เป็นโรงแรมภายใต้กลุ่ม IHG ทั้งยังเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับสูงสุดของโลก โดยมีจำนวนโรงแรมมากถึง 1,406 แห่ง และห้องพักกว่า 261,785 ห้องทั่วโลก
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|