กลางเดือนมีนาคม ค่ายสยามกลการประกาศอย่างเป็นทางการแต่งตั้งบริษัทอินทีเกรทเต็ด
แอดเวอร์ไทซิ่งจำกัดหรือ IA ให้เป็นเอเยนซี่โฆษณาเพิ่มขึ้นอีกรายหนึ่ง พร้อมกับบิลลิ่งไม่ต่ำกว่า
55 ล้านบาท ในขั้นแรก หลังจากอยู่ในมือของโอกิลวี่แต่เพียงบริษัทเดียวมานานร่วม
10 ปี
การประกาศของค่ายสยามกลการในครั้งนั้น มีผลทำให้ IA ได้รับการวิพากษ์กันไปต่าง
ๆ นานา บางรายถึงกับรำพึงว่า IA เป็นใคร มาจากไหน และทำได้อย่างไรที่สามารถคว้างานโฆษณา
"นิสสัน" ส่วนหนึ่งมาจากโอกีลวี่ เอเยนซี่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของวงการมาได้โดยการ
PITCH งานแข่งกับดามาสค์และวิคเตอร์เจียมซึ่งล้วนเป็นเอเยนซี่รุ่นพี่ที่สร้างสมชื่อเสียงและประสบการณ์มานานปี
คำถามเหล่านี้กลายเป็นประเด็นปัญหาที่สร้างความสนใจให้กับวงการ บ้างก็คิดไปไกลถึงขนาดว่า
ผู้บริหารของค่ายสยามกลการคงถือหุ้นร่วมอยู่ด้วยงานนี้จึงได้มาอย่างง่าย
ๆ บ้างก็ว่าเพราะค่ายสยามกลการปรับโครงสร้างใหม่จึงต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงใหม่
ๆ เกิดขึ้น
คำถามที่ค้างคาใจของวงการ และสื่อมวลชนทั่วไปยังไม่เป็นที่เปิดเผยอย่างหมดเปลือก
วันนี้ "สุธีร์ รัตนนาคินทร์" ประธานกรรมการ บริษัทอินทีเกรทเต็ด
กรุ๊ปหรือ IG ได้ให้คำตอบกับ "ผู้จัดการ" อย่างตรงไปตรงมาถึงสถานะของ
IA และเหตุแห่งที่มาของข้อวิพากษ์กับการได้งานโฆษณา "นิสสัน" ชิ้นนี้ว่า
ชื่อของ IA แม้ว่าจะใหม่ในวงการแต่คนทำงานของ IA ล้วนเป็นผู้มีประสบการณ์ในการทำงานมาแล้วทั้งทีมไม่น้อยกว่าทศวรรษ
เช่น รัตนานพ จันทรัตน์ และทีมงานของเขามาจากเดนท์สุทั้งทีม ขณะเดียวกันทีมผู้บริหารของ
IG ก็สร้างชื่อเสียงในเรื่องงานประชาสัมพันธ์และการตลาดไว้ไม่น้อย
IG หรือ อินทีเกรทเต็ด กรุ๊ป เป็นโฮลดิ้งคอมปะนี ที่มีบริษัทในเครืออยู่ด้วยกัน
3 บริษัทนับตั้งแต่ บริษัทอนิทีเกราเต็ด พาร์ทเนอร์ จำกัด ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับงานโปรดักส์ชั่นเฮ้าส์
บริษัท อินทีเกรทเต็ด บิสิเนส ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการอบรมพัฒนาทรัพยากรบุคคลและบริษัท
อินทีเกรทเต็ด พับลิเคชั่นส์ จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านสิ่งพิมพ์อาทิ หนังสือ
DISCOVER THAILAND, ADVERTISING BOOK, เชลส์ชวนชิม เป็นต้น
"ผมเชื่อว่า เพราะความเชื่อถือนี้ประกอบเข้าด้วยกันหลาย ๆ ด้านจึงส่งผลมายัง
IA และสามารถได้เป็นส่วนหนึ่งของงานโฆษณานิสสันในครั้งนี้" สุธีร์กล่าว
ในขณะที่ รัตนานพ จันทรัตน์ คนโฆษณาที่มีประสบการณ์ในวงการโฆษณาแล้วไม่ต่ำกว่า
13 ปี ปัจจุบันเขาสวมหมวก 2 ใบ ใบหนึ่งในฐานะเป็นรองกรรมการ ผู้อำนวยการบริษัท
อินทีเกรทเต็ด แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัดและอีกในหนึ่งในฐานะหุ้นส่วนผู้ก่อตั้ง
IA เปิดเผยกับ "ผู้จัดการ" ว่า
"IA เป็นน้องใหม่ของวงการก็จริง แต่ IA ไม่ได้เกิดขึ้นมาจากศูนย์
หรือจากคนโฆษณา มือใหม่ หรือจากบริษัทที่ไม่เคยมีชื่อเสียงมาก่อน เราทุกคนเกิดขึ้นมาจากคนโฆษณาที่มีประสบการณ์
มานานนับทศวรรษ ในขณะที่ IA ก็เป็นบริษัทในเครือ อินทีเกรทเต็ดกรุ๊ป ซึ่งมีชื่อเสียงอยู่แล้วในวงการสิ่งพิมพ์
วงการตลาดและประชาสัมพันธ์ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ IA เป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่"
คนโฆษณาของรัตนานพ ที่ว่านี้หมายถึงทีมงานที่ล้วนต่างมีประสบการณ์ในอดีตมาจากเดนท์สุบริษัทโฆษณาซึ่งติดอันดับ
1 ใน 10 ของวงการเช่นกัน แต่ถึงแม้ว่าทุกคนจะล้วนต่างเคยมีผลงานที่ผ่านมาแล้วในอดีตซึ่งนำมาใช้เป็นเครื่องหมายรับประกันความสามารถของตนเองได้ก็ตาม
"แต่เราก็ไม่เคยแนะนำลูกค้าว่างานโฆษณาชิ้นโน้นหรือชิ้นนี้เราเป็นคนทำ"
รัตนานพกล่าว
ณ วันนี้การตัดสินใจของลูกค้าไม่ว่าจะเป็นค่ายใดก็ตามการพิจารณาถึงขั้นตอนสุดท้าย
เพื่อให้บริษัทโฆษณาผลิตงานโฆษณาซึ่งเป็นหัวใจการตลาดต่อการขายสินค้าของตนเองนั้นเขามีมาตรฐานที่ใช้รองรับการตัดสินใจอยู่
2 ประการด้วยกัน คือ 1. งานที่นำเสนอ ผู้ผลิตงานโฆษณาสามารถพรีเซนต์งานได้อย่างตรงกับใจลูกค้ามากน้อยแค่ไหน
หรือแนวความคิดนั้นแปลกใหม่เป็นที่น่าสนใจหรือให้รายละเอียดแก่ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
2. ประสบการณ์โดยรวมจากบริษัทผู้ผลิตโฆษณานั้น ๆ ซึ่งหมายความว่าบริษัทโฆษณาที่ว่านี้ส่วนหนึ่งจะต้องไม่ใช่มือใหม่ของวงการเสียทีเดียว
ไม่ใช่บริษัทโนเนมที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อนอันหมายถึงผู้บริหารโนเนมสำหรับวงการด้วย
รัตนานพกล่าวว่า "อย่างน้อย ๆ ความเชื่อถือขององค์กรหรือของผู้บริหารก็เป็นส่วนหนึ่งของ
ข้อพิจารณาได้"
นั่นหมายความว่าสายสัมพันธ์ย่อมมีส่วนในการตัดสินใจแม้จะไม่ใช่ซะทีเดียวแต่ก็มีส่วน
ส่วนผู้ถือหุ้นใน IA นั้นรัตนานพเล่าว่าเกิดขึ้นมาจากการรวมทีมงานเก่าซึ่งมีพรรคพวกเพื่อนฝูงของเขาจากเดนท์สุรวมเข้ากับ
IG ของสุธีร์ รัตนนาคินทร์ ประธานบริษัทอินทีเกรทเต็ดกรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในวงการโฆษณา
และประชาสัมพันธ์มาก่อน เขายอมรับว่าเพราะสายสัมพันธ์ของ IG นี้แท้ ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งทำให้
IA เกิดและเติบโตได้
ในขณะที่สุธีร์กล่าวว่าหุ้นส่วนของ IA ในวันนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ ทีมงานของรัตนานพ
และ IG เท่านั้น สัดส่วนผู้ถือหุ้นส่วนหนึ่งมีชื่อของตระกูลว่องวานิชร่วมอยู่ด้วย
หมายความว่าธุรกิจของว่องวานิชไม่ว่าจะเป็น สินค้าภายใต้แบรนด์เนมห้างขายยาอังกฤษตรางู
หรือ NEW BUSINESS ของว่องวานิชที่กำลังจะเกิด หรือ ธุรกิจด้านพัฒนาที่ดินของตระกูลว่องวานิชในอนาคตจะตกมาอยู่ในความดูแลของ
IA เข้าทำนองจ่ายกระเป๋าซ้ายถ่ายเข้ากระเป๋าขวา จะได้ไม่ตกหล่นไปอยู่ที่อื่นทางหนึ่งและในอีกทางหนึ่ง
ก็เป็นหนทางเจริญเติบโตของยอดบิลลิ่งในอนาคตของ IA อีกด้วย
ณ วันนี้ IA มีลูกค้าที่ดูแลรับผิดชอบผลิตงานโฆษณาให้มากมายอาทิ พาราวินเซอร์
ปูนซีเมนต์ บอสนี มิตซูบิชิอีเล็กทริค ว่องวานิชกรุ๊ป และสยามกลการซึ่งเป็นรายล่าสุดที่ได้
ACCOUNT นี้มาเป็นต้น
จาก ACCOUNT เหล่านี้คาดว่าจะทำให้บิลลิ่งของ IA เอเยนซี่น้องใหม่มียอดรวมร่วม
200 ล้านบาทในปี 2537 นี้ นับว่าเป็นบิลลิ่งที่สูงเอาการเลยทีเดียวสำหรับน้องใหม่ที่เพิ่งเกิดได้เพียงไม่ถึงปี
อย่างไรก็ตามรัตนานพก็ตั้งความหวังว่า IA ในอนาคตจะกลายเป็นบริษัทโฆษณาที่ยิ่งใหญ่ติด
1 ใน 10 อันดับต้นของวงการและเมื่อถึงวันนั้น IA ก็คงจะเป็นเอเยนซี่อินเตอร์
โดยอาศัยผู้ร่วมทุนจากต่างประเทศ เข้ามาเฉกเช่นรุ่นพี่ของวงการบ้างเหมือนกันนับว่าเป็นน้องใหม่ของวงการที่น่าจับตามองอยู่มิใช่น้อย