"แพทริค วอง ซินแสฮวงจุ้ยแห่งลอนดอน"


นิตยสารผู้จัดการ( มกราคม 2537)



กลับสู่หน้าหลัก

ก่อนที่ไมเคิล วูและโลแกน เชาจะเปิดภัตตาคารในย่านไชน่าทาวน์ของเมืองกลาสโกว์ พวกเขาเชื้อเชิญผู้เชี่ยวชาญด้าน "ฮวงจุ้ย" ท่านหนึ่งจากลอนดอนให้มาดูทำเลที่ตั้งร้าน เมื่อซินแสมาถึงก็ชี้ไปที่สิงโตหินคู่ที่ตั้งอยู่หน้าประตูร้านว่า อยู่ในที่ต่ำเกินไป ผู้คนจะดูถูกทั้งตัวสิงโตและเจ้าของสถานที่ด้วย พนักงานของร้านจึงได้ขนย้ายสิงโตขึ้นไปไว้ที่สูงตามคำแนะนำ

เมื่อโครงการก่อสร้างอาคารที่อยู่ใกล้ ๆ ประสบปัญหาการขออนุมัติแบบแปลนก่อสร้าง ซินแสฮวงจุ้ยท่านนี้ก็ได้ให้การชี้แนะอีกครั้งหนึ่ง "เขาแนะนำว่าเราควรเคลื่อนย้ายทางเข้าออกไปด้านข้างสัก 2-3 นิ้ว และเปลี่ยนแปลงสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกบางอย่าง ปัญหาต่าง ๆ ก็จะหมดไป เราก็ทำตามอย่างไม่สู้จะเต็มใจนัก แต่แล้วทุกอย่างก็ลุล่วงไปได้สำเร็จ จนขณะนี้ผมยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลย" เดวิด อัลลิสัน ผู้บริหารฝ่ายจัดซื้อของโครงการบอกกับนักข่าวซันเดย์ไทม์

ซินแสฮวงจุ้ยผู้นี้คือ แพทริค วอง เป็นหนึ่งในที่ปรึกษาด้านฮวงจุ้ยชั้นนำของอังกฤษ นักธุรกิจชาวฮ่องกงวัย 50 ผู้นี้ได้เรียนรู้ศาสตร์ที่มีมาแต่โบราณกาลของจีน และสามารถนำมาใช้เป็นอาชีพจนเป็นที่รู้จักกันทั่วยุโรป "ผมชอบที่จะช่วยเหลือผู้คนให้หาทางออกจากความยากลำบาก ซึ่งลูกค้าทุกคนของผมก็ไม่เคยผิดหวังแม้แต่คนเดียว" ซินแสวอง กล่าว

ฮวงจุ้ยซึ่งมีความหมายตามตัวอักษรว่า "ลมและน้ำ" คือ ศาสตร์ที่ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงแก้ไขสภาพแวดล้อมล้อมรอบตัวมนุษย์ เพื่อขจัดปัดเป่าความชั่วร้ายและนำมาซึ่งโชคดี อย่างเช่นการแขวนกังสดาลไว้ในที่ที่เหมาะสม จะช่วยป้องกันโชคร้ายได้ ฮวงจุ้ยเชื่อว่า ความเป็นไปของมนุษย์แต่ละคนถูกกำหนดไว้ด้วยวันและเวลาเกิดของคน ๆ นั้น และวัน-เวลาเกิดเป็นสิ่งเชื่อมโยงโชควาสนาของมนุษย์กับจักรวาลเข้าด้วยกัน

วองใช้เวลาว่างศึกษาเรื่องฮวงจุ้ยกับเจ้าอาวาสวัดพุทธแห่งหนึ่งในฮ่องกงเป็นเวลานานถึง 22 ปี จากนั้นก็ลองวิชา ทดสอบฝีมืออยู่ที่ฮ่องกง ก่อนหน้าจะมาอยู่ที่ลอนดอนเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เฮเลน ฉวงซึ่งเป็นภรรยาของเขาก็มาเป็นที่ปรึกษาด้านฮวงจุ้ยด้วยเช่นกัน

ในอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งที่เมืองเชลซี วองวางแจกันที่ใส่หน่อไม้ไว้ใต้นาฬิกาและนำเจดีย์ขนาดเล็ก ๆ ที่ทำด้วยเซรามิคไปไว้ในครัว "นาฬิกาเป็นสิ่งจำเป็น เพราะถ้าคนเราไม่เริ่มวันใหม่ให้ตรงเวลาทุกสิ่งทุกอย่างก็จะผิดไปหมด" วองกล่าว

น้ำก็เป็นปัจจัยที่สำคัญอีกตัวหนึ่ง ในความเห็นของวอง เมืองลอนดอนอยู่ในชัยภูมิที่ดีเพราะมีแม่น้ำเทมส์ไหลผ่าน และเชื่อกันว่า แม่น้ำลำคลองของลอนดอนมีบทบาทสำคัญต่อความเป็นไปของประเทศอังกฤษ "โชคร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นกับราชวงศ์อังกฤษในช่วงที่ผ่านมา เป็นเพราะว่าน้ำในแม่น้ำเทมส์สกปรกมาก" วองกล่าว

สถานที่สำคัญในกรุงลอนดอนน้อยแห่งมากที่หลุดรอดจากสายตาพินิจพิเคราะห์ของวอง อย่างเช่นที่ทำการรัฐสภา วองก็มองว่ามีรูปทางสัณฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมซึ่งมั่นคงแข็งแรง อยู่ใกล้แม่น้ำกับกระทรวงกลาโหม ดังนั้นหมายถึงว่ารัฐสภาจะไม่มีวันล่มอย่างแน่นอน

สำหรับห้างสรรพสินค้าแฮร์รอดซึ่งมีชื่อเสียงของลอนดอน วองก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการที่ทุกช่วงคริสต์มาส จะใช้วิธีประดับประดาอาคารด้วยไฟเป็นสาย ๆ วองแนะนำพี่น้องแอล เฟย์เจ้าของห้างแฮร์รอดให้ตกแต่งเป็นรูปรูกลวงระหว่างม่านสายไฟ แต่คำแนะนำนี้ไม่ได้รับความสนใจ วองเตือนว่าไฟก็คือกรงขัง "เงินจะต้องไหลเข้าออกได้คล่อง ๆ ผมคิดว่าแฮร์รอดจะอยู่ในฐานะลำบาก" คำทำนายของเขาเป็นความจริง เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้ พี่น้องแอล เฟย์ประกาศขายห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเครือเพราะประสบปัญหาทางการเงิน

อย่างไรก็ตาม วองก็ไม่เคยโอ้อวดเกี่ยวกับธุรกิจของเขา "หลักการของลัทธิเต๋าห้ามการโฆษณาตัวเองมากเกินไป" เขากล่าว วองปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายได้ของเขา แต่สมาชิกในชุมชนชาวจีนคาดการณ์ว่า เขาคงมีรายได้ประมาณปีละ 110,000-150,000 เหรียญ

วองเชื่อว่าผลสำเร็จในวันนี้ของเขาเกิดมาจากความยืดหยุ่นตามสถานการณ์ และสำนึกทางด้านธุรกิจที่กระตือรือร้น "เมื่อผมมาถึงลอนดอนใหม่ ๆ นั้น พอดีอยู่ในช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังกระเตื้องขึ้น และมีธุรกิจใหม่ ๆ เปิดขึ้นมากมาย งานหลักของผมคือ ตรวจสอบฮวงจุ้ยของอาคารเพื่อที่เจ้าของจะได้นำไปแสดงต่อลูกค้า เป็นการสร้างความเชื่อมั่นได้ทางหนึ่ง" แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ เขาก็ต้องปรับบทบาทหันไปหากลุ่มธุรกิจที่กำลังประสบปัญหา "มีผู้คนมากมายที่มีความวิตกกังวลและต้องการคำชี้นำ" วองกล่าว

ในภาวะเศรษฐกิจปกติ เขาจะคิดว่าค่าดูฮวงจุ้ยครั้งละ 150 เหรียญ แต่เมื่อเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจตกต่ำ เขาจำต้องยอมรับค่าวิชาตามแต่ลูกค้าจะสามารถจ่ายให้ได้ ขณะเดียวกัน ก็ต้องลดค่าใช้จ่ายธุรกิจของบริษัทคิงดอม ฟอร์จูน เทลเลอร์ของเขาซึ่งใช้ชั้นบนของห้องอาหารแห่งหนึ่ง ในใจกลางไชน่าทาวน์เป็นที่ตั้ง แม้ว่าสำนักงานจะคับแคบ แต่วองก็ไม่คิดจะขยับขยายให้กว้างขวางขึ้น ส่วนการโฆษณากิจการก็ใช้บอกกันไปแบบปากต่อปาก สำหรับเครื่องมือหากินก็มีเพียงเข็มทิศฮวงจุ้ยและปฏิทินจันทรคติ-สุริยคติเท่านั้น

วองมีลูกค้าที่ไม่ใช่ชาวจีนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งรวมทั้งเจ้าของภัตตาคารชาวอินเดียและชาวกรีก เขายังเห็นถึงความสนใจในหมู่ของวัยรุ่นอังกฤษเกี่ยวกับการแสวงหาทางจิตวิญญาณแบบตะวันออก และต้องการสอนหลักพุทธศาสนาให้กับคนเหล่านี้

"มีบ่อยครั้งที่ผมสามารถช่วยให้แต่ละบุคคลสามารถค้นหาแนวทางทำธุรกิจของตัวเองได้ ให้ขึ้นไปเป็นผู้จัดการหรือเจ้านายก็ยังได้ ผู้จัดการนั้นเป็นบุคคลที่ต้องฉลาด ในขณะที่การเป็นเจ้านายนั้นต้องมีอำนาจ"

วองไม่ได้คัดเลือกลูกค้า ดังนั้นเขาจึงต้องประสบกับความยุ่งยากในบางครั้ง ตัวอย่างเช่นเขารับงานของ LONDON INVESTMENT PROPERTY SERVICE หรือ LIPS ซึ่งปัจจุบันปิดกิจการไปแล้ว และถูกกล่าวหาว่าหลอกต้มผู้ต้องการขายอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษว่า สามารถจะหาผู้ซื้อในฮ่องกงมาซื้อได้ แต่แท้ที่จริงแล้วน่าจะเป็นกิจการที่หลอกขายโฆษณาราคาแพง ๆ จากผู้ขายมากกว่าที่จะตั้งใจหาคนซื้อจากฮ่องกงจริง ๆ วองได้รับการว่าจ้างให้เป็นผู้ให้บริการดูฮวงจุ้ยกับลูกค้าของบริษัท จุงพลอยตกเป็นเป้าความไม่พอใจของลูกค้าหลาย ๆ รายไปด้วย เขาปฏิเสธที่จะพูดคุยในเรื่องนี้

คำแนะนำของวองเป็นความลี้ลับที่ยากจะหาคำอธิบายได้ เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาบอกนักธุรกิจชาวลอนดอนรายหนึ่งว่าเขาจะสูญเสียลูกค้าไป เพราะมีภูติผีหรือวิญญาณจากโบสถ์ซึ่งตั้งอยู่ข้าง ๆ มายึดครองที่นั่งในภัตตาคารเสียหมด จะต้องแก้ไขด้วยเจดีย์อันเล็กและอ่างน้ำ ผลก็คือ ภัตตาคารนั้นมีลูกค้าคึกคักมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมด้วยกำไรที่มากขึ้น

มีบางคนมองว่าฮวงจุ้ยเป็นสิ่งที่เชื่อไม่ได้ แต่สำหรับวองเองแล้ว กำไรจากธุรกิจนี้เป็นสิ่งที่ตอบคำถามในตัวมันเองได้อยู่แล้วเขาให้คำแนะนำว่า "จงเปิดใจให้กว้าง และกำหนดจุดหมายปลายทางของตัวเอง ไม่มีสิ่งใดเกี่ยวกับความสำเร็จทางธุรกิจ ที่จะเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ"



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.