เสกขยะให้เป็นทอง


นิตยสารผู้จัดการ( กันยายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ภาพยนตร์โฆษณาของเครือซิเมนต์ไทย ที่พยายามบอกว่า มองเห็นอะไรใหม่ๆ ในธุรกิจที่กำลังทำอยู่ โดยเฉพาะปิโตรเคมี วัสดุก่อสร้าง กระดาษ ทำให้เห็นภาพการก้าวไปของเครือซิเมนต์ไทยได้ชัดเจนขึ้นว่า จะทำอะไรใหม่ๆ กับสิ่งที่มีอยู่ในมือ

แต่อีกด้านหนึ่ง บริษัทในเครืออย่างบริษัทค้าสากลซิเมนต์ ไทย กลับมองสิ่งที่หลายๆ คนมองข้ามไป พวกเขากำลังพยายาม เสกขยะให้เป็นทอง โดยไม่ต้องใช้คาถาอาคม แต่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยเหลือจัดการ จนขยะเหลือใช้กลายเป็นของใหม่มีมูลค่าเพิ่มแบบคาดไม่ถึง

"ขยะเหลือใช้ที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลใหม่ได้ เป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงมากในต่างประเทศ ซึ่งหลายๆ แห่งมีการพัฒนานำมาแปรสภาพ หรือทำให้เกิดมูลค่าเพิ่ม และได้รับความสนใจจากลูกค้าต่างๆ มากมาย" กลินท์ สารสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัทค้าสากลซิเมนต์ไทย อธิบายถึงการมองธุรกิจรีไซเคิลขยะเหลือใช้ มาสร้างรายได้ให้กับเครือซิเมนต์ไทย

ขยะที่บริษัทค้าสากลซิเมนต์ไทยทำให้เป็นทองก็คือ การนำเศษกระดาษที่เหลือทิ้งในหลายๆ ประเทศ นำมาอัดเป็นก้อน (Paper Baling Station) เพื่อนำกลับมาใช้ในการผลิตกระดาษอีกครั้งหนึ่ง โดยแหล่งวัตถุดิบเศษกระดาษมาจากหลายประเทศ และนำมาป้อนให้กับโรงงานกระดาษในเครือ ซึ่งมีความต้องการใช้วัตถุดิบประมาณ ปีละ 1 ล้านตัน และโรงงานแห่งแรกได้เปิดดำเนินการแล้วที่ประเทศลาว สิ้นปีนี้จะเปิดอีก 2 แห่ง คือกัมพูชา ฟิลิปปินส์ ส่วนแผนระยะยาว จะเปิดอีก 5 แห่ง ในอนาคตเศษพลาสติก อะลูมิเนียม จะเป็นเป้าหมายต่อไปของบริษัทในการนำกลับมาใช้ใหม่

ในขณะที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงมีแต่จะขยับขึ้น พลังงานทางเลือกก็เป็นอีกแขนขาหนึ่งของบริษัท และสิ่งที่กำลังเริ่มต้นก็คือน้ำมันเตาเทียม หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่าพลังงานถ่านหินสะอาด (Coal Water Mixture) ซึ่งได้มาจากการนำถ่านหินมาผสมกับน้ำและสารเคมี แล้วนำมาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม กลินท์บอกว่า เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทและกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ที่มีแผนการพัฒนาในระยะเวลา 1 ปี เพื่อทดสอบคุณสมบัติก่อนที่จะนำมาใช้จริง และช่วงแรกจะใช้กับโรงงานกระดาษของเครือซิเมนต์ไทยก่อน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการรายอื่น

พลังงานทดแทนชนิดใหม่นี้ เขาบอกว่าจะสามารถลดต้นทุนในการใช้น้ำมันเตาได้ถึง 30% โดยขณะนี้ประเทศไทยมีการนำเข้าน้ำมันเตาปีละ 6 พันล้านลิตร หรือคิดเป็นเงินประมาณ 8 หมื่นล้านบาท

การขยายเข้าสู่ธุรกิจรีไซเคิลแบบนี้ ระบบโลจีสติกเป็นเรื่องสำคัญมาก การลงทุนระบบ e-IDC (Electronic International Distribution Centre) ร่วมกับบริษัทเอคเซนเจอร์ (Accenture) เพื่อเชื่อมข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกัน ทั้งกรมศุลกากร ธนาคาร บริษัทเดินเรือจึงเกิดขึ้น เพราะระบบนี้จะช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขายมั่นใจว่าสินค้าที่สั่งไว้จะไม่มีปัญหาในการขนส่ง สามารถติดตาม ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

นโยบายทั้ง 3 ส่วนนี้คือบทเริ่มต้นในการเสกขยะให้เป็นทองของเครือซิเมนต์ไทย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.