EWC ฟ้อง SGF เรียกคืนเงินกู้ 500 ล้าน ตลท.จี้ให้รายงานคืนหนี้ทุกไตรมาส


ผู้จัดการรายวัน(24 สิงหาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

บอร์ดอีสเทิร์นไวร์ เตรียมดำเนินคดีกับสยามเจเนอรัล แฟคตอริ่ง ฐานทำให้ได้รับความเสียหาย ฟ้องต่อศาลเพื่อเรียกคืนเงินกู้ 500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย พร้อมเผยลูกหนี้ในจำนวน 7 ราย มีความสัมพันธ์กัน 2 รายเท่านั้น ได้แก่ เจเจแลนด์ เดเวลลอปเม้นท์ และเน็ตแอคทีฟ แอนด์ เซอร์วิส ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์จี้ไม่หยุดขอให้รายงานการชำระหนี้คืนทุกไตรมาส พร้อมเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย

นายนพ สัตยาศัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อีสเทิร์นไวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ EWC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาแล้วมีความเห็นว่า การกระทำของบริษัท สยามเจเนอรัล แฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SGF ไม่ชอบด้วยกฎหมายทำให้ EWC ได้รับความเสียหาย จึงมีมติมอบหมายให้ฝ่ายจัดการประสานกับทนายความฟ้อง SGF ต่อศาล เพื่อเรียกคืนเงินกู้ จำนวน 500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย

ทั้งนี้การที่ EWC ให้กู้ยืมเงินแก่ SGF นั้นไม่เคยมีข้อตกลงไม่ว่าจะด้วยวาจาหรือลายลักษณ์อักษรว่า SGF ต้องให้เงินกู้แก่ลูกหนี้ทั้ง 7 ราย ธุรกรรมการกู้ยืมเงินระหว่าง SGF กับลูกหนี้ทั้ง 7 รายนั้น EWC ไม่เคยรู้และไม่เคยเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด

นอกจากนี้จากการตรวจสอบลูกหนี้ทั้ง 7 รายนั้น ปรากฏว่ามีเพียง 2 รายเท่านั้น ที่เคยมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับ EWC ประกอบด้วยบริษัท เจเจแลนด์ เดเวลลอปเม้นท์ จำกัด (JJ) ซึ่ง EWC เคยให้กู้ยืมแก่ JJ จำนวน 328.7 ล้านบาท ซึ่ง JJ ได้ชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมครบถ้วนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เมื่อประมาณกลางเดือนกันยายน 2548 และ EWC ได้เช่าพื้นที่สำนักงานบางส่วนของอาคารเอส วี โอ เอ ทาวเวอร์ ชั้น 19 พื้นที่เช่าโดยประมาณ 644.34 ตารางเมตร จาก JJ เพื่อใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานของ EWC กำหนดเวลาเช่า 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2547 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2550

ส่วนอีกบริษัทได้แก่บริษัท เน็ตแอคทีฟ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (NET) โดย EWC และ NET เคยทำธุรกิจร่วมกันโดยเป็นการร่วมทุนทำโครงการต่างๆ รวม 4 สัญญา ประกอบด้วยสัญญาร่วมลงทุนในโครงการของสำนักบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐ, สัญญาร่วมลงทุนในโครงการของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน),สัญญาร่วมลงทุนในโครงการก่อสร้างและวางข่ายสายโทรศัพท์โครงการ 565,000 เลขหมาย ในพื้นที่จังหวัดหนองคายและสัญญาร่วมลงทุนในโครงการ Hotel Wifi Project และข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถือหุ้น และคณะกรรมการของลูกหนี้ทั้ง 7 รายไม่พบว่ามีความเกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์กับ EWC

สำหรับประเด็นที่ตลาดหลักทรัพย์สอบถามว่าคณะกรรมการบริษัท EWC รู้รายชื่อและรายละเอียดของลูกค้า 7 รายที่อาจได้รับโอนสิทธิเรียกร้องจาก SGF หรือไม่นั้น ขอชี้แจงว่าคณะกรรมการบริษัท EWC ทราบรายชื่อและรายละเอียดลูกหนี้เมื่อฝ่ายจัดการของบริษัทได้นำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท EWC ครั้งที่ 11/2549 เมื่อวันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม 2549 อันเป็นระยะเวลาภายหลังจากที่ SGF โดยบริษัทสำนักงานกฎหมายวิชัย ทองแตง จำกัด ได้แจ้งบอกกล่าวการโอนสิทธิเรียกร้อง เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2549

นายธีรภัทร์ โกยสุขโข กรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามเจเนอรัล แฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า SGF คัดเลือกลูกหนี้ที่คืนแก่ EWC โดยเลือกลูกหนี้ที่มีสถานะเป็นลูกหนี้ปกติ และมีจำนวนหนี้รวมกันเท่ากับเงินต้นจำนวน 500 ล้านบาท ตามตั๋วสัญญาใช้เงินลงวันที่ 15 และ 16 ธันวาคม 2548 มีเงื่อนไขให้ SGF สามารถโอนลูกหนี้เพื่อชำระหนี้ให้แก่ EWC ได้ และ SGF ได้ใช้สิทธิเลือกชำระหนี้แก่ EWC โดยการโอนสิทธิที่มีอยู่เหนือลูกหนี้ใด ๆ จำนวนหนึ่งให้แก่ EWC ซึ่งในการโอนสิทธิลูกหนี้นั้น SGF ไม่เคยมีการตกลงใดๆ ทั้งโดยวาจาหรือลายลักษณ์อักษรกับ EWC ว่าจะมีการโอนลูกหนี้กลุ่มใดเพื่อชำระหนี้ให้แก่ EWC

ส่วนลูกหนี้ 7 รายที่ทางตลาดหลักทรัพย์กล่าวถึง เป็นลูกค้าที่มีการติดต่อเข้ามาก่อนที่บริษัทจะได้รับเงินกู้ โดยติดต่อผ่านทางเจ้าหน้าที่สินเชื่อของบริษัท และทางบริษัทก็ได้พิจารณาสินเชื่อไปตามเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อของบริษัท มีการนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหารตามหลักเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อตามปกติ เมื่อบริษัทได้รับวงเงินกู้ดังกล่าว บริษัทจึงพิจารณาคืนเงินกู้ยืมบางส่วน และกระจายปล่อยสินเชื่อในหลายๆ ประเภทธุรกิจ รวมทั้งลูกหนี้กลุ่มดังกล่าว เพื่อลดภาระการแบกรับต้นทุนของเงินเนื่องจากเงินดังกล่าวเป็นเงินจำนวนมาก

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แจ้งว่าตามที่ EWC ได้ให้กู้เงินในรูปของตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) จำนวน 2 ฉบับ รวม 500 ล้านบาท แก่ SGF ซึ่ง P/N จำนวน 2 ฉบับดังกล่าว ครบกำหนดชำระวันที่ 15 และ 16 มิถุนายน 2549 ตามลำดับ โดยเมื่อครบกำหนดชำระ EWC และ SGF ได้เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2549 เพื่อเปลี่ยน P/N ดังกล่าวเป็นสัญญาเงินกู้ระยะเวลาใช้เงินคืนภายใน 1 ปี 6 เดือน โดยให้จ่ายชำระคืนเป็นเงินสดเท่านั้น

ต่อมา EWC และ SGF ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการที่ EWC จะดำเนินคดีต่อ SGF เนื่องจาก SGF มิได้ดำเนินการต่อสัญญาข้างต้น แต่แจ้งขอโอนลูกหนี้เพื่อชำระหนี้ 500 ล้านบาท โดยต่อมา EWC ได้เปิดเผยรายชื่อลูกหนี้จำนวน 7 ราย

ตลาดหลักทรัพย์จึงขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข่าว EWC และ SGF เกี่ยวกับการกู้ยืมเงินและจ่ายคืนเป็นลูกหนี้ 500 ล้านบาท เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ดังกล่าวอย่างระมัดระวังและติดตามผลกระทบจากการดำเนินการทางกฎหมายระหว่าง EWC และ SGF ต่อไป

อนึ่ง กรณีที่ EWC รับโอนลูกหนี้ 7 รายดังกล่าว ตลาดหลักทรัพย์ขอให้ EWC เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม ดังนี้ความเห็นของคณะกรรมการ EWC ในประเด็นดังต่อไปนี้ วันครบกำหนดชำระเงินของลูกหนี้แต่ละราย ความเหมาะสมของรูปแบบ และเงื่อนไขการชำระเงิน กรณีขยายระยะเวลาชำระเงิน, ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ โดยเปิดเผยประเภทธุรกิจ ผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของลูกหนี้ปี 2548 และปัจจุบัน, โอกาสที่จะได้รับชำระหนี้ตามกำหนดและความเสี่ยงที่อาจกระทบต่อฐานะการเงินของ EWC

ทั้งนี้ให้รายงานความคืบหน้าในการชำระเงินของลูกหนี้แต่ละรายอย่างน้อยเป็นประจำทุกไตรมาสพร้อมกับการนำส่งงบการเงินของ EWC ต่อตลาดหลักทรัพย์ ความเห็นของคณะกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบของ EWC ในการพิจารณาว่าลูกหนี้ 7 ราย เข้าข่ายบุคคลที่เกี่ยวโยงกันตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยเรื่องรายการที่เกี่ยวโยงกัน ซึ่งรวมถึงผู้มีอำนาจควบคุมหรือไม่ โดยขอให้พิจารณาและเปิดเผยข้อมูลอย่างน้อย ได้แก่ รายชื่อผู้ถือหุ้น และกรรมการของลูกหนี้ 7 ราย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.