|
SALEEฟุ้งรายได้ปี50ก้าวกระโดด บ.ย่อยหนุน-ปรับราคาสินค้าเพิ่ม
ผู้จัดการรายวัน(22 สิงหาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
SALEE ฟุ้งรายได้ปี 50 ก้าวกระโดด เชื่อเอสซี วาโดหนุน ขณะที่สาลี่ พริ้นติ้งก็ทำเงินเข้าสู่บริษัทแม่สูงต่อเนื่อง เผยกรอสมาร์จิ้นปีนี้ลดลงจาก 40%เหลือ 30-35% เตรียมปรับราคาสินค้าเพิ่มอีก 2-3% หลังต้นทุนพุ่ง และพยายามทำยอดขายให้โตตามเพื่อไม่กระทบกำไรของบริษัท ส่วนปีนี้มั่นใจทำได้ตามเป้า 30% ขณะไตรมาสสุดท้ายจะรับรู้รายได้จากเอสซี วาโดประมาณ 40-50 ล้านบาท
นายสุพจน์ สุทรินคะ ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด(มหาชน) (SALEE) เปิดเผยว่าปีนี้รายได้ของบริษัทจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ระดับ 500 ล้านบาท หรือโตจากปีก่อน 30% ซึ่งครึ่งปีแรกปีนี้ บริษัททำรายได้แล้ว 246 ล้านบาท และหลังจากที่บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัท เอสซี วาโด จำกัด ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 75 % คิดเป็นเงินลงทุนประมาณ 84 ล้านบาท จะส่งผลให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นด้วย โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้จาก เอสซี วาโดเข้าสู่ SALEE ปีนี้ประมาณ 40-50 ล้านบาท ดังนั้นตัวเลขรายได้ของ SALEE ในปีนี้คาดว่าน่าจะเกิน 550 ล้านบาท ขณะที่ในปี 50 รายได้ของ SALEE คาดว่าน่าจะก้าวกระโดดจากปีนี้ เนื่องจากรับรู้รายได้จาก เอสซี วาโด ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้เข้าสู่บริษัทแม่ปีละประมาณ 150 ล้านบาทรวมทั้งจากบริษัทลูกอย่าง บริษัท สาลี่พรินติ้ง จำกัดด้วย
อย่างไรก็ตาม บริษัทโดยปกติแล้ว ผลงานของบริษัทในครึ่งปีหลังน่าจะสูงกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากการใช้เครื่องไฟฟ้าจะมีมากขึ้น จากเทศกาลคริสต์มาส ปีใหม่ ลูกค้าของบริษัทจะสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น และบริษัทมีแผนที่จะปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นอีก 2-3 % ตามราคาวัตถุดิบที่ถีบตัวสูงขึ้นจากก่อนหน้าด้วยทั้งราคาน้ำมัน พลาสติกและอื่น ๆ ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ด้วย
"เราปรับราคาเราต้องปรับตามความเป็นจริงของราคาวัตถุดิบ และเป็นโมเดลใหม่ ๆ ที่ออกสู่ตลาด ส่วนล็อตเก่าก็ผ่านไปก่อน เพราะเราต้องพัฒนาสินค้าให้ทันสมัย " นายสุพจน์กล่าว
นายสุพจน์กล่าวถึงกรอสมาร์จิ้นของบริษัทว่าปีนี้อยู่ที่ 30-35% ลดลงจากปีก่อนที่อยู่ระดับ 40% เนื่องจากต้นทุนเพิ่มขึ้น ดังนั้นบริษัทต้องพยายามดันยอดขายให้เติบโตตามเพื่อที่จะไม่ให้กระทบต่อตัวกำไรของบริษัท ขณะที่กรอส มาร์จิ้นของเอสซี วาโด ที่เพิ่งเทกโอเวอร์มานั้นก็มีมาร์จิ้นเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอยู่ 10% เป็น 30% ด้วย ดังนั้น จากการรับรู้รายได้จากเอสซี วาโดเข้ามาด้วย ก็จะทำให้ตัวเลขกำไรของบริษัทเติบโตได้ตามเป้าหมาย
" มาร์จิ้นของเอสซี วาโด ที่ต่ำเพราะเขาใช้กำลังการผลิตไม่เต็มที่ เนื่องจากขาดแคลนวัตถุดิบ เป็นเหตุให้ยอดขายลดลง แต่หลังจากที่เราเข้าไปลงทุนและจัดหาวัตถุดิบเข้ามา ผมเชื่อว่าจะทำให้กำลังการผลิตของเขาใช้ได้เต็มที่เพื่อจะได้ไม่ขาดทุน ส่งผลดีต่อทั้งแม่และลูกด้วย "นายสุพจน์กล่าว
นอกจากนี้ SALEE ยังจะเพิ่มเครื่องจักรเพื่อเพิ่มยอดขาย ซึ่งจะทำให้บริษัทยังรักษามาร์จิ้นได้ โดยจะใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการลงทุนใน เอสซี วาโด และซื้อเครื่องจักรขึ้นรูปพลาสติกสำหรับโรงงานของ SALLE เองประมาณ 10-20 ล้านบาท ซึ่งนอกจากนี้ SALEE ยังมีแผนที่จะเพิ่มรายได้จากการธุรกิจพิมพ์ฉลากสินค้าเพิ่ม เนื่องจากรายได้จากส่วนนี้เพิ่มขึ้นจาก 30% เป็น 40% ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสายธุรกิจที่ทำรายได้โตต่อเนื่อง
นายสุพจน์กล่าวถึงการออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 58 ล้านบาท เพื่อขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมอัตราส่วน 2.5 หุ้นเดิมต่อ 1หุ้นใหม่ ราคาพาร์ 1 บาท โดยเงินที่ได้จำนำไปใช้ในการซื้อหุ้นใน เอสซี วาโด ส่วนหุ้นอีก 37 ล้านหุ้นเพื่อเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไป ขณะนี้ยังไม่กำหนดเพราะรออนุมัติจากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ คาดเสนอขายได้ปลายปีนี้หรือไตรมาสแรกปี 50 เป็นอย่างช้า โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทในอนาคต
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|