อย่างที่รู้ว่าตลาดซอฟต์แวร์เกมนั้นมีมูลค่ามหาศาลเพียงใด เรียกว่าแทบไม่มีพีซีเครื่องใดไม่มีซอฟต์แวร์เกมบรรจุอยู่ข้างใน โดยเฉพาะตลาดโฮมยูส หรือ ตลาดบ้าน ที่ซอฟต์แวร์เกมนั้นครองส่วนแบ่งตลาดอยู่มากกว่าครึ่ง เรียกว่าหากจะขายลูกค้าบ้านไม่มีซอฟต์แวร์เกมขายก็เลิกล้มความคิดไปได้เลย

ที่สำคัญคือ ตลาดซอฟต์แวร์เกมนั้นล้วนแล้วแต่เป็นซอฟต์แวร์ก๊อบปี้เกือบทั้งสิ้น จะมีซอฟต์แวร์ถูกกฎหมายก็น้อยมากแทบจะไม่มีอยู่เลยก็ว่าได้

การชักธงรบของแวเลียน จึงเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาไม่น้อยกว่าจะรับมือกับซอฟต์แวร์เถื่อน ที่ทำตลาดกันอย่างเป็นล่ำเป็นสันได้อย่างไร

ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้น คือ หนึ่งในพันธมิตรที่ลงขันในกลุ่มแวเลียน ก็คือ ไมโครซอฟต์ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตซอฟต์แวร์เพราะการเข้ามาของแวเลียน เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ไมโครซอฟต์ ประเทศไทย ประกาศแผนบุกตลาดซอฟต์แวร์เกมอย่างจริงจังตั้งแต่ปลายปีนี้ไปจนถึงต้นปีหน้า

แม้ว่าในเวลานี้ไมโครซอฟต์จะมีรายได้ที่เกิดจากซอฟต์แวร์เกมอยู่เพียง 5% ของรายได้ทั้งหมด แต่เป้าหมาของไมโครซอฟต์ไม่ได้อยู่เพียงแค่นี้ สิ่งที่ไมโครซอฟต์คาดหวัง คือ การขยายส่วนแบ่งตลาดให้เพิ่มขึ้นเป็น 10% ในปี 2540 นั่นหมายถึง 2 เท่าของส่วนแบ่งตลาดที่ทำได้อยู่ในปีนี้ นับเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยทีเดียว

แน่นอนว่า การอาศัยมาตรการทางการตลาดอย่างเดียวย่อมไม่ได้ผล โดยเฉพาะราคาขายของซอฟต์แวร์ของแท้ย่อมไม่มีทางสู้ซอฟต์แวร์เถื่อนได้เลย หากไม่มีมาตรการทางกฎหมายบังคับใช้ควบคู่กันไปด้วยว่า

การเข้ามาของกลุ่มแวเลียน ก็อาจไม่แตกต่างไปจากการเข้ามาของกลุ่มบีเอสเอในการมาปราบปรามซอฟต์แวร์เถื่อนในช่วง 2-3 ปีมาแล้วเท่าใดนัก และผู้ที่ได้รับอานิสงส์จากการไล่กวดจับของบีเอสเออย่างเห็นได้ชัด คือ ไมโครซอฟท์เนื่องจากเป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในตลาดซอฟต์แวร์ในเวลานี้ ซึ่งไมโครซอฟต์ก็ออกมาพิทักษ์สิทธิ์อย่างเห็นได้ชัดเจนมากที่สุด

ในขณะที่โลตัส ดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดอยู่เพียง 10% หรือ แม้กระทั่งซอฟต์แวร์ชื่อดังอย่างโนเวลล์ กลับไม่ตระหนกตกใจกับปัญหาเหล่านี้เท่าใดนัก

"ส่วนแบ่งตลาดเรามีอยู่เพียง 10% ปัญหาการก๊อบปี้ไม่ไดกระทบกับเรานัก และในความเห็นของเราก็คิดว่ากฎหมายลิขสิทธิ์ ส่งผลให้ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ลดน้อยลงไปดีอยู่แล้ว"

แต่ไม่ใช่สำหรับไมโคซอฟท์

ไม่เพียงแค่มาตรการทางกฎหมายกวาดล้างซอฟต์แวร์เถื่อน ผ่านกลุ่มบีเอสเอ ที่ไมโครซอฟท์ลงขันร่วมกับซอฟต์แวร์ชื่อดังอื่น ๆ แล้ว ไมโครซอฟต์ยังลงทุนส่งเจ้าหน้าที่กฎหมายมากวาดล้างซอฟต์แวร์เถื่อนเอง รวมทั้งความพยายามในการสร้างจิตสำนึกให้กับผู้ใช้ในระดับที่เป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ให้หันมาเห็นความสำคัญในการใช้ซอฟต์แวร์ถูกกฎหมาย ภายใต้ชื่อโครงการ "ไซเบอร์คลีน โซไซตี้" ที่เริ่มมาตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยมีการจัดกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการจัดแคมป์ให้กับนักเรียน การให้ความรู้ผ่านสื่อวิทยุ

การมาของแวเลียนในครั้งนี้ จึงเป็นการท้าทายอย่างยิ่งนักสำหรับแวเลียนเอง แ ละไมโครซอฟท์ ที่จะต้องลงมือไล่กวดจับซอฟต์แวร์เกมเถื่อนที่มีวางขายอยู่เกลื่อนเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเป้าหมายไม่ใช่บรรดาผู้ค้าที่มีอยู่ดาษดื่นทั้งในพันธุ์ทิพย์พลาซ่า คลองถม หรือตลาดคลองเตย และผู้ใช้ที่เป็นสำนักงานขนาดใหญ่น้อยทั้งหลายเท่านั้น แต่เป็นกลุ่มลูกค้าตามบ้านที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งยังไม่เคยมีใครลงมือไล่กวดผู้ใช้กลุ่มนี้มาก่อน

แน่นอนว่า ตราบใดที่ซอฟต์แวร์ก๊อบปี้ยังมีอยู่ ไมโครซอฟต์ยังต้องเดินต่อไป