คอมมูนิตี้ เน็ตเวิร์กแพกเกจยุคใหม่มือถือไทย


ผู้จัดการรายสัปดาห์(21 สิงหาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

* สงครามแพกเกจมือถือ ครึ่งปีหลังชะลอตัว โอเปอเรเตอร์พักรบศึก "ราคา"
* ชงแพกเกจจูงใจ โทร.ในเครือข่าย หวังสร้างคอมมูนิตี้ เน็ตเวิร์ก รับมืออินเตอร์คอนเนกชั่นชาร์จ
* เอไอเอส เดินเครื่องปรับแพกเกจโปรโมชั่นครึ่งปีหลัง โฟกัส คุณภาพเครือข่ายพ่วงโปรโมตโทร.ภายในเครือข่าย
* ทรูมูฟไม่ยอมน้อยหน้า อัดแพกเกจ "โทร.ครั้งละ 1 บาท" ในเครือข่ายเข้าสู้
* ดีแทคสงวนท่าที เชื่อค่าโทร.ในเครือข่ายถูกแน่

สงครามโปรโมชั่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ของโอเปอเรเตอร์ไทยกำลังอยู่ในช่วงของการพักตัว หลังจากที่เปิดศึกสงครามราคาอย่างเมามันในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา จนก่อให้เกิดพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แนวใหม่ "โทร.ต่อเนื่อง" ส่งผลกระทบให้กับประสิทธิภาพเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้นำตลาดอย่าง "เอไอเอส" ถึงกับรวน จนผู้ใช้บริการประสบปัญหาโทร.ไม่ได้โทร.ไม่ออกอยู่นานนับเดือน

จนทำให้ "เอไอเอส" ต้องโยนเม็ดเงินลงทุนขยายประสิทธิภาพของเครือข่ายอยู่นับหมื่นล้านบาท รวมกับหมื่นกว่าล้านเดิมที่วางแผนขยายเครือข่ายช่วงต้นปี

นับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา ทางบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ได้ชี้แจงต่อสถานการณ์ปัญหาด้านเครือข่ายที่เคยเป็นปัญหาใหญ่ให้กับผู้ใช้บริการของเอไอเอสว่า เวลานี้สถิติอัตราโทร.สำเร็จภายในเครือข่ายเอไอเอสในช่วงเวลาปกติโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 95% ถ้าเป็นในช่วงเวลาที่มีการใช้งานสูงสุดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 90% ส่วนสถิติอัตราการโทร.สำเร็จระหว่างเครือข่ายในช่วงเวลาปกติโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 90% แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาที่มีการใช้งานสูงสุดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 78%

ผลดังกล่าว วิเชียร เมฆตระการ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานปฏิบัติการซึ่งเป็นตำแหน่งเดิมก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการผู้อำนวยการสายงานปฏิบัติการเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา บอกว่า เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ทุกประการ ทำให้นับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา การใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งภายในเครือข่ายเอไอเอสและระหว่างเครือข่ายเข้าสู่ภาวะที่ดีขึ้นกว่าปกติก่อนที่จะมีการแข่งขันการทำตลาดด้วยแคมเปญโปรโมชั่นค่าโทรราคาถูกในเดือนเมษายน

หลังจากที่เอไอเอสแก้ปัญหาด้านเครือข่ายที่เคยเป็นจุดขายที่แข็งแกร่งของเอไอเอสมาเป็นเวลานาน ทำให้เอไอเอสเริ่มเคลื่อนไหวในการออกแพกเกจโปรโมชั่นใหม่อีกครั้ง ซึ่งแนวคิดในการพัฒนาแพกเกจโปรโมชั่นของเอไอเอสในครึ่งปีหลังนี้ พยายามมุ่งเน้นเรื่องคุณภาพการให้บริการอีกครั้ง รวมถึงจัดแพกเกจที่มุ่งเสริมสร้างให้เกิดพฤติกรรมการโทร.ภายในเครือข่าย ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของเอไอเอสอีกประการหนึ่ง ที่วันนี้เอไอเอสที่มีฐานผู้ใช้บริการทั้งที่เป็นพรีเพดและโพสต์เพดอยู่กว่า 17.5 ล้านเลขหมายนำมาใช้เป็นไม้เด็ดทางการตลาดในการช่วงชิงความคุ้มค่าทางด้านราคาที่เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ ในตลาด

อีกทั้งยังเป็นการชิมลางเพื่อรองรับการนำการคิดค่าใช้จ่ายในการโทร.ข้ามเครือข่ายหรืออินเตอร์คอนเนกชั่นชาร์จมาใช้ในเร็วๆ นี้

ส่งผลให้แนวคิดในการพัฒนาแพกเกจของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่างพุ่งประเด็นไปที่การสร้างคอมมูนิตี้ เน็ตเวิร์กให้เกิดขึ้นภายในเครือข่ายให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ซึ่งใครที่สามารถสร้างพฤติกรรมโทร.หากันภายในเครือข่ายให้มีอัตราการโทร.หากันมากเท่าไรนั้นย่อมหมายถึงลดปัญหาการไหลออกนอกเครือข่ายของผู้ใช้บริการให้น้อยลง ไม่เหมือนกับแพกเกจโปรโมชั่นที่มุ่งเน้นราคาในอดีตที่ผ่านมา เมื่อใดที่หมดแพกเกจผู้ใช้บริการก็จะหันไปหาผู้ให้บริการรายที่เสนอแพกเกจโปรโมชั่นที่ถูกกว่าแทน

ข้อดีอีกประการหนึ่ง อัตราค่าโทร.ภายในเครือข่ายน่าจะมีอัตราที่ดีขึ้น ถึงแม้ว่าในวันนี้จะยังไม่เห็นอัตราค่าโทร.ที่แรงมากๆ อย่าง 25 สตางค์จากค่ายยักษ์ คงจะต้องรอเวลาให้การเก็บค่าอินเตอร์คอนเนกชั่นชาร์จเริ่มใช้จึงจะเห็นความเคลื่อนไหวทางด้านนี้ชัดเจนมากขึ้น

เอไอเอสปรับแพกเกจ

"ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เรากล้ากล่าวได้เต็มปากว่า วันนี้เครือข่ายของเอไอเอสมีคุณภาพใกล้เคียงกับช่วงเดิมก่อนที่จะเกิดปัญหาโทร.ข้ามเครือข่ายยาก เพราะโปรโมชั่นที่รุนแรงหมดลงแล้วและการลงทุนเครือข่ายประมาณ 1 หมื่นล้านบาทแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคมก็เริ่มเห็นผลแล้วเช่นกัน" ฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด เอไอเอส กล่าวอย่างเต็มปากเต็มคำถึงคุณภาพเครือข่ายที่ดีดังเดิม

ฐิติพงศ์ได้บอกถึงแนวทางการทำตลาดครึ่งปีหลังของเอไอเอสว่า ยังคงใช้เรื่องคุณภาพของเครือข่ายเป็นจุดขาย และเอไอเอสมองว่าครึ่งปีหลังจะมีการประกาศใช้เรื่องค่าเชื่อมโครงข่ายหรืออินเตอร์คอนเนกชั่นชาร์จก็จะทำให้โอเปอเรเตอร์หันมาทำโปรแกรมในลักษณะการโทร.ภายในเครือข่ายมากขึ้น เอไอเอสจะมีแคมเปญที่ออกมาให้สิทธิพิเศษกับลูกค้าเก่าเข้มข้นมากขึ้น จากเดิมอาจเป็นแค่การดูหนังฟังเพลง รวมทั้งต้องมีบริการที่หลากหลาย โดยเน้นการแข่งขันทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นคุณภาพบริการ บริการเสริม ด้วยการมุ่งสู่ผู้บริโภคเป็นหลัก

"หากดูจุดขายของคู่แข่งในวันนี้ ทรูชัดเจนว่าเน้นกลยุทธ์ซินเนอยี่ ดีแทคมุ่งไปที่โปรดักส์เซ็นทริก มองพรีเพดกับโพสต์เพดแยกกันไป ส่วนเอไอเอสจะเน้นคัสตอมเมอร์ เซ็นทริกทั้งฐานลูกค้า"

ล่าสุด เอไอเอสได้ส่งแพกเกจโปรโมชั่นใหม่ที่เน้นในเรื่องสิทธิพิเศษสำหรับการโทร.ภายในเครือข่ายด้วยการแยกแพกเกจโปรโมชั่นในลักษณะเซกเมนเตชั่นตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคอย่างเต็มที่

แพกเกจแรกที่เอไอเอสออกมาก็คือ แคมเปญที่มุ่งสร้างความรู้สึกที่ดีกับลูกค้าเก่าในขณะที่ได้ลูกค้าใหม่ในระบบโพสต์เพดเพิ่มมากขึ้น โดยที่เอไอเอสให้สิทธิพิเศษลูกค้าเก่าจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ที่มีอยู่ประมาณ 1.8 ล้านคน สามารถเลือกเพื่อนหรือคนสนิทได้ 2 เลขหมายมาจดทะเบียนในระบบจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ โดยจะได้รับสิทธิพิเศษ ประกอบด้วย หนึ่ง ลูกค้าเดิมที่เป็นคนได้รับสิทธิ์จะสามารถโทร.หาเบอร์คนพิเศษดังกล่าวได้เบอร์ละ 100 นาทีต่อ 1 รอบบิล เป็นระยะเวลา 6 รอบบิล

สอง สำหรับคนพิเศษที่จดทะเบียนใหม่จะได้รับสิทธิ์โทร.หาลูกค้าเดิม 100 นาทีต่อ 1 รอบบิลเป็นเวลา 6 รอบบิลเช่นกัน ด้วยอัตราค่าบริการที่ถือว่าจูงใจมากและเป็นอัตราพิเศษไม่มีในท้องตลาดคือเป็นอัตราเหมาจ่าย 250 บาทต่อเดือน โทร.ไม่จำกัดตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. และตั้งแต่ 17.00-08.00 น. คิดค่าบริการนาทีแรก 3 บาทนาทีต่อๆ ไปนาทีละ 1 บาทในรอบบิลที่ 1-3 สำหรับรอบบิลที่ 4-6 เสียค่าบริการ 2 นาทีแรกนาทีละ 3 บาท นาทีต่อๆ ไปนาทีละ 1 บาท

ฐิติพงศ์ ยังบอกว่า ลูกค้าในระบบจีเอสเอ็ม แอดวานซ์จะได้รับคูปองการรับสิทธิ์ที่ส่งไปพร้อมใบแจ้งค่าบริการ หลังจากนั้นก็สามารถนำไปเปิดเบอร์ใหม่เพื่อรับสิทธิดังกล่าวได้ที่สำนักงานบริการเอไอเอส และร้านเทเลวิซทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 กันยายน

"จุดขายของแคมเปญนี้คือทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีสิทธิพิเศษในการเลือกหรือตัดสินใจว่าจะชักชวนให้ใครมาเป็นคนพิเศษ"

แพกเกจโปรโมชั่นที่สอง ที่ทางเอไอเอสส่งออกมาไล่เลี่ยกันก็คือ แพกเกจในส่วนของระบบโพสต์เพด "จีเอสเอ็ม แอดวานซ์" ในชื่อแพกเกจว่า จีเอสเอ็ม 4 ไลฟ์สไตล์ ทาริฟ ด้วยการแบ่งแพกเกจออกเป็น เอส, เอ็ม, แอลและเอ็กซ์แอล ด้วยการนำพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ทุกแกน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพฤติกรรมการจ่ายเงิน พฤติกรรมการใช้งานโทร.มาก โทร.น้อย พฤติกรรมโทร.ถึงใคร ช่วงเวลาไหน รวมทั้งพฤติกรรมการใช้บริการด้านวอยซ์ และนอนวอยซ์มาพัฒนาเป็นแพกเกจใหม่

"เอไอเอสได้การสำรวจความต้องการของลูกค้าใน 2 แนวทาง หนึ่ง จากทีม วอยซ์ ออฟ คัสตอมเมอร์เพื่อเก็บรวบรวมความคิดเห็นจากลูกค้าจากทุกๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะมาทางคอลเซ็นเตอร์ที่มากกว่า 2 ล้านคอลต่อเดือน หรือทีมการตลาดกว่า 300 คนที่คอยรับเสียงร้องจากลูกค้า สอง จากการศึกษาและทำความรู้จักผู้ใช้บริการทั้งจากระบบดาต้าไมนิ่งที่ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค"

อรุณภรณ์ ลิ่มสกุล ผู้อำนวยการสำนักบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า เอไอเอส อธิบายถึงแพกเกจใหม่นี้ว่า 4 แพกเกจดังกล่าวจะตอบสนองพฤติกรรมความต้องการโทร.ที่แตกต่างกันใน 4 แกนหลัก หนึ่ง จำนวนเบอร์ที่โทร.ติดต่อ ซึ่งเอไอเอสพบว่า คนที่โทร.น้อย จะโทร.หาคนสนิทไม่กี่เบอร์ และคนที่โทร.มาก ก็จะโทร.ไปยังเบอร์ปลายทางมากขึ้น ซึ่งจากฐานลูกค้าเอไอเอสกว่า 17 ล้านรายจะพบว่าจะเป็นการโทร.ภายในเครือข่ายมากกว่าโทร.นอกเครือข่าย

สอง ลูกค้าจีเอสเอ็มจะมีกิจกรรมที่หลากหลาย และมีการเดินทางนอกสถานที่ มีการเดินทางบ่อย มีการเคลื่อนที่สูง รวมทั้งลูกค้ากว่า 70% จะมีธุรกิจส่วนตัว รับราชการหรือเป็นพนักงานในองค์กรขนาดใหญ่ซึ่งลูกค้าเอไอเอสจะมีทุกระดับ ตั้งแต่คนเริ่มทำงานจนถึงผู้ที่ทำธุรกิจประสบความสำเร็จ สาม ผู้ใช้บริการของเอไอเอสมีแนวโน้มในการใช้บริการเสริมมากขึ้นทั้งในเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ และในด้านธุรกิจ สี่ เวลาในการโทร.ซึ่งพบว่า ลูกค้าจีเอสเอ็มมีการโทร.กระจายตัวทั้งวันไม่ว่าจะเป็นกลางวัน กลางคืน และวันหยุด

แพกเกจทั้ง 4 นั้น ประกอบไปด้วย แพกเกจ เอส เหมาะกับคนที่โทร.ไม่มาก มีเลขหมายที่โทร.ประจำ ต้องการโปรโมชั่นเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน แพกเกจ เอ็ม, แอล และเอ็กซ์แอล จะเหมาะสำหรับคนที่ใช้งานปานกลางค่อนข้างสูง โทร.ไปหากลุ่มคนหลายกลุ่ม เป็นการใช้งานมากทั้งกลางวันและกลางคืน มีกิจกรรมนอกสถานที่ และชอบใช้บริการเสริมในชีวิตประจำวัน โดยจะมีระยะเวลาใช้งานได้นาน 12 เดือน สำหรับลูกค้าใหม่หรือลูกค้าเก่าทั้งระบบโพสต์เพดและระบบพรีเพด ที่สมัครใช้ภายใน 30 กันยายนศกนี้

"ปัจจุบันเอไอเอสมีมากกว่า 100 โปรแกรมสำหรับลูกค้าจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ ซึ่งหากลูกค้าคนไหนโปรโมชั่นหมดช่วงนี้ ก็จะถูกเสนอให้เลือก 4 แพกเกจดังกล่าวเกือบทุกราย ยกเว้นลูกค้าบางรายที่อาจมีโปรโมชั่นจูงใจมากเป็นพิเศษ ซึ่งในครึ่งปีหลังจะไม่เห็นอัตราค่าบริการที่จะมีผลกระทบกับคุณภาพเครือข่ายเป็นอันขาด เพราะเอไอเอสยังยึดมั่นจุดขายเรื่องเครือข่าย" ฐิติพงศ์อธิบายถึงแพกเกจจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันให้ฟัง

วัน-ทู-คอล! อัป ทู ยู แพกเกจรักษาฐานลูกค้า

ในส่วนของการให้บริการระบบเติมเงินหรือพรีเพด เอไอเอส วัน-ทู-คอล! ได้มีการออกโปรแกรมใหม่ "อัป ทู ยู" ที่มุ่งตอบสนองความต้องการของฐานลูกค้าเก่ามากกว่าการแสวงหาลูกค้าใหม่ และยังถือเป็นแพกเกจที่ทำให้เห็นว่าเอไอเอสเตรียมความพร้อมสำหรับการให้บริการเมื่อมีการประกาศใช้เรื่องอินเตอร์คอนเนกชั่นชาร์จ โดยลูกค้าในระบบของเอไอเอสจะสามารถโทร.ในเครือข่ายได้ถูกกว่าการโทร.นอกเครือข่าย

"วันนี้ฐานลูกค้าของวัน-ทู-คอล! มีไม่ต่ำกว่า 15 ล้านราย มีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน เราจึงพยายามหาโปรแกรมที่สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ให้เห็นถึงคุณค่าการใช้บริการในเครือข่ายเอไอเอส" ฐิติพงศ์ กล่าว

โปรแกรม อัป ทู ยู จึงเกิดขึ้นหลังจากที่เอไอเอสได้มีการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพเครือข่ายให้กลับสู่สภาพปกติแล้ว ที่สำคัญอัป ทู ยู ถือเป็นการตอบแทนลูกค้าเพิ่มเติม เพียงลูกค้าใช้งานตามปกติก็สามารถเลือกรับรางวัลได้ ไม่ว่าจะเป็น ค่าโทร.วันการใช้งาน หรือการให้งานเอสเอ็มเอส

ทั้งนี้ลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่สามารถเลือกโปรแกรม อัป ทู ยู ได้เพียงกด *777 จากเครื่องวัน-ทู-คอล! โดยมีอัตราค่าใช้บริการ โทร.ในเครือข่ายนาทีแรก 3 บาท นาทีต่อไปจนกว่าจะวางสายนาทีละ 1 บาท และโทร.นอกเครือข่ายนาทีแรก 3 บาท นาทีต่อไปจนกว่าจะวางสายนาทีละ 2 บาท อัตราค่าโทร.ดังกล่าวเป็นอัตราที่ลูกค้าสามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง

"ลูกค้าภายในเครือข่ายเอไอเอสจะได้รับค่าโทร.ที่ถูกกว่า เป็นแคมเปญสำหรับฐานลูกค้าเก่าเพื่อเตรียมตัวรับเรื่องของอินเตอร์คอนเนกชาร์จ"

สำหรับการแลกรับของรางวัลจากการใช้บริการอัป ทู ยู นั้น ระบบจะเริ่มสะสมคะแนนให้ตั้งแต่วันที่ผู้ใช้บริการเริ่มเลือกโปรแกรมนี้ และสามารถตรวจสอบคะแนน เพียงกด *717# ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2549 เป็นต้นไป โดยการโทร.1 บาทจะได้รับคะแนนสะสม 1 คะแนน และเมื่อสะสมครบ 10 คะแนนก็สามารถนำไปแลกของรางวัล ได้แก่ ค่าโทร.1 บาท หรือวันใช้งาน 1 วัน หรือฟรีค่าใช้บริการเสริมเอสเอ็มเอส 1 ครั้ง ได้ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายนเป็นต้นไป

"ในช่วงครึ่งปีหลังนี้เราจะทำแคมเปญบริการอื่นเพิ่มขึ้นอีก เป็นแคมเปญที่ค่อยๆ เปลี่ยนพฤติกรรมลูกค้า"

แพกเกจใหม่จากทรูมูฟ

ด้าน "ทรูมูฟ" โอเปอเรเตอร์ที่มีส่วนแบ่งในตลาดเป็นอันดับสองในตลาดก็ได้ออกแพกเกจใหม่ที่เน้นการโทร.ภายในเครือข่ายของตนออกมาเช่นกัน

สุภกิจ วรรธนะดิษฐ์ ผู้อำนวยการด้านการตลาด กลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแพกเกจใหม่ที่ออกมาว่า ทรูมูฟ ออกแคมเปญใหม่สำหรับลูกค้าแบบเติมเงิน ด้วยการคิดค่าโทร.เป็นครั้ง ด้วยแพกเกจ "โทร.ครั้งละ 1 บาท" สำหรับผู้ที่โทร.ภายในเครือข่าย "ทรูมูฟ" ตั้งแต่ 5 โมงเช้าถึงก่อน 5 โมงเย็น โดยจะคิดอัตราค่าโทร.ครั้งละ 1 บาท แต่ถ้าเป็นการโทร.นอกเครือข่ายคิดค่าโทร.ครั้งละ 3 บาท นอกเวลาคิดค่าโทร. 3 นาทีแรก นาทีละ 2 บาท นาทีต่อไปนาทีละ 1 บาท

นอกจากนี้ ยังจะได้รับสิทธิพิเศษโทร.ฟรีทุกวัน สูงสุดวันละ 15 นาที เมื่อโทร.ในช่วงเวลา 09.00-09.05 น., 12.00-12.05 น. และ 15.00-15.05 น. พร้อมรับโบนัสโทร.ฟรี ทันทีที่เปิดใช้บริการ 50 บาท และต่อเนื่องอีก 11 ครั้ง รวมมูลค่าสูงถึง 600 บาท

แพกเกจนี้ ทางทรูมูฟเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม-5 กันยายนศกนี้ ลูกค้าใหม่สามารถซื้อซิมการ์ดทรูมูฟ ในราคา 99 บาท ส่วนลูกค้าปัจจุบันที่สนใจแพกเกจนี้ สามารถเปลี่ยนมาใช้โปรโมชั่นนี้ได้ โดยโทร.ไปที่หมายเลข 9305 แล้วทำตามขั้นตอนของระบบตอบรับอัตโนมัติ คิดค่าใช้จ่าย 30 บาท

"แพกเกจโทร.ครั้งละ 1 บาท เป็นอีกหนึ่งความคุ้มค่าที่ทรูมูฟมุ่งสรรหาเพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดให้ลูกค้า ทรูมูฟมั่นใจว่าแพกเกจนี้จะตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าที่ชื่นชอบความสะดวกสบายกับอัตราค่าโทร.แบบง่ายๆ ไม่ต้องคิดมาก และหวังว่าจะมีการตอบรับจากลูกค้าใหม่ของเราเป็นอย่างดีแน่นอน"

ดีแทคเชื่อโทร.ในเครือข่ายจะถูก

ขณะที่ทางด้าน "ดีแทค" ผู้ให้บริการโทรศัพท์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับสอง ที่มีกิจกรรมการตลาดแย่งฐานลูกค้าเอไอเอสมาอยู่ในมือโดยตลอด แม้จะยังไม่มีความเคลื่อนไหวในการออกแพกเกจโปรโมชั่นใหม่ออกมาในเวลานี้ แต่จากแพกเกจที่ผ่านมา ดีแทคมองว่า หลังเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา การแข่งขันในตลาดจะชะลอตัวลง แต่เชื่อว่า หลังคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือกทช. ประกาศอัตราค่าเชื่อมโยงโครงข่าย หรืออินเตอร์คอนเนกชั่นชาร์จ สงครามโปรโมชั่นค่าบริการจะกลับมาอีกรอบหนึ่ง เพียงแต่ว่า รูปแบบการแข่งขันจะเปลี่ยนไป โดยจะนำวิธีคิดอัตราค่าบริการอัตราต่ำมาใช้สำหรับโทร.ภายในเครือข่าย

ธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธาน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) เคยให้ทรรศนะต่อโปรโมชั่นที่จะเปลี่ยนไปไว้ว่า จะเห็นค่าโทร.ถูกในเครือข่าย และถ้าโทร.นอกเครือข่ายจะแพง ค่าบริการที่เคยคิดเป็นครั้ง จะเปลี่ยนเป็นแบบนาทีละ 1 บาทหรือต่ำกว่านั้น ส่วนคุณภาพการให้บริการจะดีขึ้น ไม่เหมือนที่เกิดปัญหาโทร.ไม่ติดเหมือนอดีตที่ผ่านมา


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.