| |
บอร์ด TRAF ไฟเขียวขายธุรกิจสิ่งพิมพ์ "สุรพงษ์" เข้าซื้อตั้งเป้าปิดดีล 30 ก.ย.
ผู้จัดการรายวัน(18 สิงหาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
บอร์ดทราฟฟิกคอร์นเนอร์โฮลดิ้งส์อนุมัติขายธุรกิจสิ่งพิมพ์ให้ “สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย” โดยแต่งตั้งบริษัท โกลเบล็ก แอ๊ดไวเซอรี่ เป็นที่ปรึกษาประเมินราคา ตั้งเป้าดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 30 ก.ย.นี้ เชื่อจะทำให้ลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจได้ และในไตรมาส 4 จะเริ่มเห็นกำไร
พ.ต.อ.รวมนคร ทับทิมธงไชย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TRAF เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้นำเสนอแผนการดำเนินธุรกิจให้กับคณะกรรมการรับทราบ ซึ่งในแผนนั้นจะพยายามลดต้นทุนการดำเนินงานให้ลดลง เพื่อหวังให้ไตรมาส 4 มีผลประกอบการเป็นกำไร ซึ่งแนวทางหนึ่งก็ได้ตัดสินใจขายธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ ที่ดำเนินการโดยบริษัท ดรีม มีเดีย จำกัด และ บริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ พับลิชชิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เพราะเห็นว่าธุรกิจดังกล่าวนั้นไม่มีความชำนาญ ดังนั้นจึงไม่ต้องการที่จะทำต่อ และบริษัทจะหันไปเน้นในธุรกิจด้านวิทยุและสื่อโทรทัศน์ ที่มีความชำนาญ
ทั้งนี้บริษัทจะขายบริษัทย่อยทั้ง 2 แห่งให้กับนายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย อดีตผู้บริหารบริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ โดยได้แต่งตั้งให้บริษัทโกลเบล็ก แอ็ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเข้ามาประเมินมูลค่าสินทรัพย์ว่าจะขายในราคาใด ซึ่งคณะกรรมการบริษัทก็ได้ให้ความเห็นชอบเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการขายได้เสร็จสิ้นไม่เกินวันที่ 30 กันยายนนี้
"ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ เราไม่มีความถนัดที่จะทำ เราจึงไม่อยากที่จะทำให้ เพราะถ้าทำเราก็จะต้องไปแข่งกับคนอื่นอีก ซึ่งเราต้องการเป็นพันธมิตรกับสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ มากกว่าจะเป็นคู่แข่ง เพราะเชื่อว่าต่อไปในอนาคตเราสามารถทำงานร่วมกับพันธมิตรกับสื่อสิ่งพิมพ์ได้เช่นกัน" พ.ต.อ.รวมนครกล่าว
อนึ่งก่อนหน้านี้นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย อดีตผู้บริหาร บริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์จำกัด (มหาชน) เคยให้สัมภาษณ์ว่าสาเหตุที่สนใจที่จะเข้าไปซื้อธุรกิจสิ่งพิมพ์เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต ถึงแม้จะไม่ให้ผลตอบแทนที่รวดเร็วก็ตาม เพราะมีต้นทุนที่สูง แต่เมื่อธุรกิจดังกล่าวเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปก็ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไป
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด(มหาชน) ในงวดไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2549 ปรากฏว่าขาดทุนสุทธิ 7.68 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.02 บาท ขาดทุนลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 45.33 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.18 บาท
ส่วนในงวด 6 เดือนแรกของปี 2549 บริษัทขาดทุนสุทธิ 19.68 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.06 บาท ขาดทุนลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 96.39 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.38 บาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|