|
ทีแอลเอ็มดึงทุนจีนทุ่ม4หมื่นล.สร้างที่พักกลุ่มลองสเตย์อ่าวภูเก็ต
ผู้จัดการรายวัน(18 สิงหาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ทีแอลเอ็มเร่งสร้างหลักประกันความน่าเชื่อถือ ก่อนเปิดขายบัตรสมาชิก ล่าสุดตั้งตัวเป็นโบรกเกอร์ จับมือกลุ่มทุนจากประเทศจีน เตรียมเข้าประมูลสร้างที่พักในโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ซึ่งก่อนหน้านี้เดินสายเซ็นสัญญากับกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจบริการ ในประเทศไทย เปิดศูนย์คอลเซ็นเตอร์ หวังใช้เป็นเครดิตการันตี ดึงลูกค้าสูงอายุเข้าไทย
พ.ต.อ.รวมนคร ทับทิมธงไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ จำกัด (ทีแอลเอ็ม) เปิดเผยว่า ได้ลงนามความร่วมมือกับบริษัท CHAINA NO.17 METALLURGICAL CONSTRUCTION CORPORATION LTD. จากประเทศจีน โดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาที่พักอาศัย สิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่พำนักระยะยาว (ลองสเตย์) ซึ่งพื้นที่ที่สนใจเข้าไปพัฒนา คือที่ สะพานหิน ที่ตั้งอยู่บริเวณอ่าวภูเก็ต วงเงินก้อนแรกที่จะนำเข้ามาลงทุนในโครงการนี้อยู่ที่ราว 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณเกือบ 40,000 ล้านบาท
ทั้งนี้โครงการพัฒนาพื้นที่อ่าวภูเก็ต เป็นโครงการที่กรมโยธาธิการร่วมกับจังหวัดภูเก็ต และสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นผู้ศึกษาและร่างโครงการ โดยมุ่งหวังให้ในพื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ภายในโครงการจะมีทั้งชอปปิ้งเซ็นเตอร์ ท่าจอดเรือยอร์ช (มารีน่า) ศูนย์ประชุม ศูนย์กีฬา และโรงแรมที่พัก มีมูลค่าโครงการรวม 69,000 ล้านบาท ซึ่ง บริษัท CHAINA NO.17 จะเข้าประมูลก่อสร้างเฉพาะในส่วนของที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวลองสเตย์ และศูนย์ประชุมเท่านั้น
“ขณะนี้ ทาง สศช. สำนักโยธาธิการ และจังหวัดภูเก็ต กำลังอยู่ระหว่างการจ้างที่ปรึกษาเพื่อออกแบบและร่างทีโออาร์ ก่อนจะประกาศเปิดประมูลโครงการ คาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จและลงมือก่อสร้างได้ต้นปี 2550 โดยจะเป็นลักษณะ พรบ.ร่วมทุน”
พ.ต.อ.รวมนคร กล่าวว่า บริษัท CHAINA NO.17 ถือหุ้นโดยรัฐบาลจีน เพื่อดำเนินธุรกิจลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ ซึ่งเมื่อเขาเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ก็จะเป็นไปตามกฎหมายสัดส่วนการร่วมลงทุนกับคนไทยที่สนใจ โดยทีแอลเอ็มจะไม่ได้เข้าไปร่วมลงทุนด้วย เพราะหน้าที่หลักของทีแอลเอ็มคือเป็นหน่วยงานผู้ประสาน และอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มลองสเตย์ ที่เป็นสมาชิกของทีแอลเอ็ม
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทีแอลเอ็มยังไม่ได้เริ่มจำหน่ายบัตรสมาชิกไทยจัดการลองสเตย์ แต่จะเริ่มจำหน่ายในวันที่ 15 กันยายน 49 ช้ากว่ากำหนดเดิมเล็กน้อย ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มตั้งตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศแล้ว เช่น สิงคโปร์ สวีเดน และกำลังเตรียมเซ็นสัญญากับบริษัทบัตรวีซ่า ที่ประเทศเกาหลี โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะมียอดสมาชิกประมาณ 40,000 ราย จากประเทศตะวันออกกลาง สิงคโปร์ สวีเดน เกาหลี และญี่ปุ่น ซึ่งสิ่งที่ทีแอลเอ็มเร่งดำเนินการในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาคือ เตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ด้วยการหาพันธมิตรด้านที่พักอาศัย สถานบริการ ร้านค้า ร้านอาหาร ตั้งศูนย์คอลเซ็นเตอร์ โดยทุกอย่างจะพร้อมให้บริการแก่สมาชิกในกลางเดือนกันยายนนี้ ส่วนการเซ็นสัญญากับบริษัท CHAINA NO.17 เพื่อเป็นหลักประกันสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกผู้ถือบัตรว่าจะได้รับบริการที่ดี
“ที่ผ่านมา ปัญหาใหญ่ของนักท่องเที่ยวต่างชาติคือ ไม่สามารถเป็นเจ้าของบ้านพักอาศัยได้ ดังนั้นในอนาคตจะต้องเจรจากับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คนกลุ่มนี้ซึ่งมีกำลังซื้อ สามารถทำเป็นสัญญาเช่าระยะยาว ซึ่งจะทำให้เกิดเงินตราไหลเข้าประเทศ”
ทางด้านนายเดวิด โชว์ (David Chow) กรรมการผู้จัดการบริษัท CHAINA NO.17 กล่าวว่า บริษัทมีความมั่นใจกับโปรเจกของทีแอลเอ็ม จึงต้องการมาลงทุนสร้างที่พักอาศัยเพื่อจับกลุ่มนักท่องเที่ยวลองสเตย์โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นโครงการแรกของบริษัทที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ส่วนก่อนหน้านี้ บริษัทได้ไปลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่หลายประเทศ เช่น กลุ่มตะวันออกกลาง ส่วนการเลือกบริษัททีแอลเอ็มเป็นพันธมิตร เพราะน่าจะเป็นผู้ประสานงานได้ดี ในเรื่องการเข้าไปร่วมประมูลโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|