|
คนบินไทยประท้วง - ดีดีรับสายพานเดี้ยง
ผู้จัดการรายวัน(18 สิงหาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
สหภาพการบินไทยค้านเปิดบิน 15 ก.ย. ยันสนามบินสุวรรณภูมิยังไม่พร้อมสำหรับการใช้ผู้โดยสารเป็นหนูทดลอง เตือนไม่ควรสนองความต้องการของนักการเมือง ดีดีการบินไทยไม่สนเสียงค้านแม้จะมีเที่ยวบินเดียว แต่กลับยอมรับระบบสายพานลำเลียงอาจไม่พร้อม
วานนี้ (17 ส.ค.) นายสมศักดิ์ ศรีนวล รักษาการประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พร้อมด้วยพนักงานเกือบ 100 คน ได้รวมตัวชุมนุมที่บริเวณใต้ต้นจามจุรี หน้าอาคาร 9 สำนักงานใหญ่บริษัทการบินไทย เพื่อเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารทบทวนการเปิดเที่ยวบินผู้โดยสารภายในประเทศในวันที่ 15 ก.ย.นี้ โดยอ้างเป็นการสนองความต้องการของนักการเมือง ทั้งๆ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังไม่มีความพร้อม ทำให้การเปิดเที่ยวบินที่มีผู้โดยสารจึงเปรียบเป็นหนูทดลอง หากเกิดปัญหาจะสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของการบินไทย รวมทั้งยังได้สร้างความสับสนให้แก่พนักงานด้วย
"การเตรียมความพร้อมให้กับพนักงานที่ต้องย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังไม่มีระบบขนส่งให้บริการรองรับอย่างเพียงพอ โดยหยิบยกผลกระทบจากสัญญาค่าเช่าต่างๆ ที่การบินไทยต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ส่วนพนักงานมีภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่มขึ้น จึงเสนอให้มีการเพิ่มค่าทำงานล่วงเวลาในช่วงกลางคืน และปรับสภาพการจ้างงาน" นายสมศักดิ์กล่าว
ขณะเดียวกัน ตัวแทนสหภาพการบินไทย ได้กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงโจมตีการทำงานของฝ่ายบริหารว่านโยบายการยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับสายการบินต้นทุนต่ำ ซึ่งได้ส่งผลให้มีการปิดสถานีบริการในต่างจังหวัด รวมทั้งมีการจัดซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่ที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการในการใช้งานและการซ่อมบำรุง และการใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายของกรรมการบอร์ดที่ชื่อนายถิรชัย วุฒิธรรม ว่ามีการใช้บริการในโควต้าบาเตอร์เทรดกับโรงแรมมิราเคิลแกรนด์ วงเงินครั้งละ 80,000 -120,000 ต่อสัปดาห์ รวมระยะเวลา 2 เดือน คิดเป็นมูลค่ากว่าล้านบาท
ดีดีเมินเสียงค้านสหภาพฯ
เรืออากาศโทอภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย ได้ขึ้นเวทีชี้แจงต่อกลุ่มพนักงานที่ร่วมชุมนุมว่า จะไม่มีการยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศ ที่จะเปิดทำการบินในวันที่ 15 ก.ย.นี้ อย่างแน่นอน เนื่องจากได้มีการเปิดขายตั๋วไปแล้ว และเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากผู้โดยสาร และเป็นการดีที่การบินไทยจะเริ่มทยอยทำการบินก่อน ซึ่งจะช่วยทำให้ทราบถึงปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นและสามารถแก้ไขได้ทันก่อนการเปิดให้บริการในวันที่ 28 ก.ย. นี้
การเปิดเที่ยวบินในวันที่ 1 ก.ย. และ 15 ก.ย.เป็นต้นไปนั้น ทางการบินไทยได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาประเมินผลที่เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าความพร้อมทางด้านการบินและความปลอดภัยนั้นไม่มีปัญหา แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือด้านการบริการและระบบกระเป๋าสายพานลำเลียง ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับทุกสนามบินที่เปิดใหม่ โดยเฉพาะสนามบินเลคแลปกกของฮ่องกง ใช้เวลา 2 เดือน ในการปรับแก้ไขได้ ซึ่งในส่วนนี้ ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและการบินไทยได้เตรียมแผนรองรับ หากเกิดปัญหาจะมีการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่เข้าไปทำงานได้ทันที
เรืออากาศโทอภินันทน์ กล่าวว่า ในส่วนของระบบการให้บริการของการบินไทย มีการทำระบบสำรองหากระบบไอทีของสนามบินขัดข้อง จะสามารถสวิชกลับมาใช้ระบบสำรองผ่านคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและเชื่อมกลับมายังท่าอากาศยานกรุงเทพ เพื่อให้ระบบบริการสามารถทำงานได้ทันที รวมทั้งการเปิดให้บริการเที่ยวบินต่างประเทศในวันที่ 1 ก.ย. นี้ ได้มีการจัดทำตารางบินเพื่อให้ผู้โดยสารจากฮ่องกง และสิงคโปร์ เข้ามาใช้บริการในคราวเดียวกันประมาณ 700 คน เพื่อทดสอบระบบการทำงานทั้งหมดด้วย
"การเปิดทำการบินก่อน จำเป็นต้องมีเพื่อเรียนรู้การทำงาน ไม่ว่าจะย้ายสนามบินช้าหรือเร็วกว่านี้ ปัญหานี้ก็จะต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว ส่วนที่เปิดให้บริการและมีปัญหา ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ประกาศให้ใช้สนามบินก็จะต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น"
ส่วนที่มีเพียงสายการบินเดียวที่เปิดทำการบินในวันที่ 15 ก.ย.นั้น เรืออากาศโทอภินันทน์กล่าวว่า อาจเกิดจากการบินไทยเป็นสายการบินใหญ่ มีจำนวนฝูงบินมาก การจัดเครื่องบินหนึ่งลำไปทำการบินที่สนามบินสุวรรณภูมิจึงไม่ส่งผลกระทบมากนัก ในขณะที่สายการบินอื่นอาจมีปัญหา จึงจำเป็นต้องรอให้มีการโอนย้ายในคราวเดียว
เรืออากาศโทอภินันทน์ ยังได้ปฏิเสธที่สหภาพการบินไทยระบุว่า มีการยกเลิกเที่ยวบินเพื่อเอื้อสายการบินไทยต้นทุนต่ำว่า เรื่องนี้มีคณะทำงานพิจารณาศึกษาในการยกเลิกเที่ยวบินที่ประสบปัญหาการขาดทุนเป็นหลัก ส่วนเรื่องสวัสดิการของพนักงานที่จะต้องย้ายไปปฏิบัติหน้าที่นั้น ได้สั่งการให้มีการจัดรถให้บริการจนกว่าพนักงานจะหมดความต้องการ โดยจะคำนึงถึงพนักงานที่ทำงานเป็นกะเวลาด้วย อีกทั้งในระยะแรกจะต้องจัดหาอาหารเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพนักงานด้วยเช่นกัน ส่วนข้อเสนอขอให้มีการปรับสภาพการจ้างงานและเพิ่มค่าทำงานล่วงเวลาในช่วงกลางคืนรับที่จะไปพิจารณาเพื่อนำเสนอคณะกรรมการบริษัทต่อไป
สำหรับกรณีที่มีการระบุว่ามีการจัดซื้อเครื่องบินไม่สอดคล้องกับความต้องการนั้น ยืนยันว่าในสมัยที่ตนเป็นฝ่ายบริหารจะไม่มีการพิจารณาซื้อเครื่องบินก่อนที่จะกำหนดเส้นทางบิน ส่วนการจัดซื้อแอร์บัส เอ 380 นั้นเป็นไปตามแผนเดิมที่มีการเลื่อนระยะเวลาการส่งมอบออกไปจากกลางปี 2008 เป็น 2009 ส่วนกรณีการใช้จ่ายของกรรมการบอร์ดคือนายถิรชัยนั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงที่มีหลักฐาน แต่ในส่วนของภาระที่การบินไทยอนุมัตินั้นยังคงเป็นไปตามกรอบของกรรมการ คือ ครั้งละไม่เกิน 30,000 บาทเท่านั้น ส่วนต่างนายถิรชัยเป็นผู้รับผิดชอบเอง
เริ่มขนย้ายอุปกรณ์แล้ว
นายกอบชัย ศรีวิลาศ ที่ปรึกษาอาวุโสโครงการโยกย้ายฐานปฏิบัติการ บริษัทการบินไทย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการย้ายฐานปฏิบัติการของการบินไทย โดยเริ่มมีการขนย้ายอุปกรณ์เป็นวันแรก ซึ่งเป็นอุปกรณ์ฝ่ายช่างที่ไม่ได้มีการใช้งานประจำทุกวันและสามารถโยกย้ายเพื่อรอให้มีการเปิดให้บริการในเชิงพาณิชย์ ประกอบด้วยอุปกรณ์แม่แรงยกเครื่องบินเพื่อซ่อมบำรุงจำนวน 40 รายการ โดยเตรียมรถเทรลเลอร์ขนาดใหญ่จำนวน 5 คัน เพื่อทำการขนย้ายตลอดทั้งวัน และจะมีการขนย้ายอุปกรณ์อย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือน ต.ค.นี้
นายบรรลุ วรศะริน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร การโยกย้ายสนามบิน บริษัทการบินไทย กล่าวว่าการเตรียมแผนโยกย้ายอุปกรณ์ฝ่ายช่างนั้นมีการจัดเตรียมเส้นทางสำคัญ โดยใช้รถเทรลเลอร์ที่จะขนอุปกรณ์ออกจากท่าอากาศยานกรุงเทพตั้งแต่เวลา 12.00 น. ผ่านถนนวิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าสู่ถนนรามอินทรา บรรจบถนนวงแหวนตะวันออกเลี้ยวเข้าถนนมอเตอร์เวย์ตรงเข้าสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1.45-2 ชั่วโมงในการเดินทางแต่ละเที่ยว ทั้งนี้ได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานด้านจราจร เพื่อหลีกเลี่ยงการขนย้ายอุปกรณ์ในชั่วโมงเร่งด่วนที่อาจจะทำให้เกิดปัญหาจราจรติดขัดได้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|