SCT ฟุ้งปีนี้โกยรายได้ 2.7 หมื่นล้าน. ทุ่มเงิน 250 ล้านผุด 3 โปรเจ็กต์ใหม่


ผู้จัดการรายวัน(17 สิงหาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ค้าสากลซิเมนต์ไทย ทุ่มเงิน 250 ล้านบาท ผุด 3 โครงการ ทั้งในและต่างประเทศ "โรงอัดกระดาษ -โครงการe-IDC-โครงการพลังงานถ่านหินสะอาด" เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าป้อนธุรกิจในเครือซิเมนต์ไทย คาดทั้งปีโกยรายได้ 2.7 หมื่นล้านบาท

นายกลินท์ สารสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ค้าสากลซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCT) ซึ่งดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายในเครือซิเมนต์ไทยเปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์โดยยกระดับธุรกิจการนำเข้าและส่งออก สู่ Innovative Trade and Distribution เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ โดยล่าสุดบริษัทฯ จะลงทุน 250 ล้านบาท ใน 3 โครงการ ทั้งในและต่างประเทศ คือ โครงการโรงอัดกระดาษ โครงการe-IDC (Electronic International Distribution Center) และโครงการพัฒนาพลังงานถ่านหินสะอาด โรงอัดกระดาษดังกล่าว เป็นโครงการเพื่อจัดหาเศษกระดาษมารีไซเคิลผลิตกระดาษ เพื่อนำมาป้อนธุรกิจกระดาษในเครือซิเมนต์ไทย ซึ่งปัจจุบันมีความต้องการใช้ 1 ล้านตัน/ปี ซึ่งในอนาคตจะขยายสู่การอัดเศษพลาสติกและอลูมิเนียม โดยต้นปีนี้ได้ตั้งโรงงานอัดกระดาษที่ลาวเป็นแห่งแรก และอยู่ระหว่างการก่อสร้างที่กัมพูชา และฟิลิปปินส์ในสิ้นปีนี้

นอกจากนี้ยังมีแผนจะขยายโรงงานเพิ่มเติมที่เวียดนาม สหรัฐฯ สิงคโปร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 160 ล้านบาท โครงการ e-IDC อยู่ระหว่างการพัฒนาและศึกษาข้อมูล คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 40 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงข้อมูลด้านการนำเข้าและส่งออกกับหน่วยงานต่างๆ ที่อยู่ในระบบซัปพลายเชน เช่น กรมศุลกากร ธนาคาร และบริษัทเดินเรือ ทำให้เกิดความสะดวก และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ส่วนโครงการวิจัยและพัฒนาถ่านหินสะอาดเพื่อทดแทนการใช้น้ำมันเตา จะใช้เงินลงทุน 50 ล้านบาท ซึ่งจะทดลองใช้กับโรงงานกระดาษในเครือฯ ก่อนขยายให้ลูกค้ารายอื่นๆ

โดยผลการดำเนินงานงวด 7 เดือนแรกของปีนี้ SCT มียอดขายรวม 1.7 หมื่นล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5% คาดว่าปีนี้จะมียอดขายรวม 2.7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีสาขาเพิ่มขึ้นจากเดิม 19 แห่งใน 15 ประเทศ ซึ่งปีนี้จะเพิ่มอีก 4 แห่งที่ประเทศจอร์แดน เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย สหรัฐฯ และจีน โครงสร้างรายได้ SCT มาจากสินค้าซีเมนต์ 30% พลังงานและสินค้าอุตสาหกรรม 20% สินค้ารีไซเคิล 20% วัสดุก่อสร้าง 10% ที่เหลือมาจากอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์วิส ในอนาคตโครงสร้างรายได้จะเปลี่ยนไปโดยจะมาจากธุรกิจพลังงานและรีไซเคิลมากขึ้น

นายกลินท์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวลง เนื่องจากบริษัทฯ ทำธุรกิจเทรดดิ้งในต่างประเทศทำให้เห็นโอกาสการทำธุรกิจแบบ Two Way Logistic ซึ่งปัจจุบันประเทศในแถบตะวันออกกลางมีการเติบโตเร็วมาก ทำให้บริษัทส่งออกปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้างไปยังแถบดังกล่าว คาดว่าทั้งปี 2549 SCT จะส่งออกปูนไม่น้อยกว่า 7 ล้านตัน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.