|
KTCพลิกวิกฤติต้นทุนดอกเบี้ยพุ่งเร่งขยายบัตร-เพิ่มยอดใช้จ่าย
ผู้จัดการรายวัน(16 สิงหาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
พลิกวิกฤติต้นทุนดอกเบี้ยพุ่งกว่า 100% เร่งเพิ่มสมาชิกบัตร ออกแคมเปญการตลาดกระตุ้นยอดใช้จ่าย เล็งโอกาสเศรษฐกิจชะลอ ลูกค้าต้องการสินเชื่อเพิ่ม มั่นใจกำไรสุทธิโตต่อเนื่อง คาดสมาชิกบัตรทั้งปีเพิ่มเป็น 2 เท่าจากปีก่อน
นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกปี 2549 เคทีซี มีกำไรสุทธิ 216 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 328 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย จากช่วงปีที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยอาร์พี 14 วันอยู่ที่ 3% และปรับขึ้นต่อเนื่องจนปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 5% โดยเฉลี่ยต้นทุนอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเกือบ 100% หรือมีต้นทุนการเงินเพิ่มขึ้น 4.41% นอกจากนี้ยังมีจ้นทุนในด้านอื่นๆอีกจำนวนหนึ่ง
อย่างไรก็ตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยในระยะต่อไปจนถึงปี 2550 คาดว่าอัตราดอกเบี้ยน่าจะทรงตัว ส่งผลให้ต้นทุนอัตราดอกเบี้ยของเคทีซีจะคงที่ รวมทั้งเคทีซีได้มีแคมเปญหรือกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นยอดใช้จ่ายผ่านบัตร เพิ่มสมาชิก รวมทั้งทำแคมเปญรวมกับพันธมิตร น่าที่จะมีผลดีกับผลประกอบการของเคทีซีในระยะยาว
โดยในครึ่งปีแรก เคทีซี มีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น 335,772 บัญชี คิดเป็นอัตราการเติบโต 137% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เชื่อว่าหลังจากนี้ยอดสมาชิกใหม่จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว โดยทั้งปีน่าจะเติบโต 2 เท่าตัวจากปีก่อน ส่วนสมาชิกใหม่ของบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 212,476 บัตร และเคทีซี แคช 122,251 บัญชี ส่งผลให้จำนวนบัตรเครดิตรวม ณ 30 มิถุนายน 2549 เท่ากับ 1,341,670 บัตร และเคทีซี แคช 215,165 บัญชี ในขณะที่พอร์ตลูกหนี้รวมเพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อน โดยมียอดลูกหนี้ในไตรมาสที่ 2 จำนวน 33,609 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 31% ซึ่งการเพิ่มขึ้นของพอร์ตลูกหนี้รวมจากการขยายฐานสมาชิกใหม่นี้ จะส่งผลไปถึงการขยายตัวของรายได้ที่จะได้รับอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
สำหรับรายได้รวมครึ่งปีแรก มีจำนวน 3,666 ล้านบาท เติบโต 37% เป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน และรายได้ค่าธรรมเนียมที่มีสัดส่วนคิดเป็น 67% และ 29% ของรายได้รวม คิดเป็นอัตราการเติบโตของรายได้ 17% จากไตรมาสที่ผ่านมา และ 33% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยรับจากธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลเคทีซี แคช เป็นหลัก
ด้านฐานะการเงิน เคทีซี มีสินทรัพย์รวม 35,225 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากสิ้นปีก่อน 2548 ลูกหนี้การค้ารวมสุทธิ 33,609 ล้านบาท และสินเชื่อเจ้าของกิจการสุทธิ 3,948 ล้านบาท มีเอ็นพีแอลครึ่งปีแรกประมาณ 654 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1-2% ของสินเชื่อรวม ถือว่าต่ำกว่าระบบ สำหรับแผนการระดมเงินในช่วงครึ่งปีหลัง เคทีซียังไม่มีความจำเป็น โดยปัจจุบันมีแหล่งเงินทุนหลัก 2 แหล่ง คือ จาการออกตราสารหนี้คิดเป็นสัดส่วน 50% และอีก 50% เป็นแหล่งเงินกู้ทั่วไปในตลาด ซึ่งหุ้นกู้ของเคทีซีที่ออกไปขณะนี้ประมาณ 13,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนหนี้สินต่อทุน 5.5%
“จากภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่สูงขึ้น ทำให้มีความต้องการสินเชื่อมากขึ้น เพื่อยืดระยะเวลาของการถือเงินสด เคทีซีได้เห็นโอกาสในการสร้างฐานสมาชิกให้เพิ่มขึ้น จึงขยายฐานสมาชิกบัตรและสินเชื่อพร้อมใช้ เคทีซี แคช รีโวลฟ เป็นหลัก เพราะเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้ต่อเนื่อง พร้อมสรรหาสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้า จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรให้เกิดประสิทธิผลและเป็นประโยชน์กับสมาชิกบัตรมากที่สุด โดยใช้กลยุทธ์จับมือกับพันธมิตรธุรกิจชั้นนำในลักษณะของ Partnership Marketing นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบประมวลผลข้อมูลที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|