ทีทีแอนด์ทีได้อานิสงส์กล้าเสี่ยง 12 ปี คว้าสิทธิ์วางระบบสื่อสารนิคมฯเหมราช


ผู้จัดการรายวัน(10 สิงหาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ทีทีแอนด์ทีกล้าวัดในการวางโครงสร้างโทร.พื้นฐานนิคมฯ เหมราชเมื่อ 12 ปีก่อน ส่งผลให้กินยาวจนถึงอีสเทิร์นซีบอร์ดแห่งใหม่ ด้วยการคว้าสิทธิ์เป็นผู้วางระบบสื่อสารครบวงจร โดยใช้งบ 10 ล้านบาท คาดไม่เกิน 5 ปีคืนทุน

นายวิวัฒน์ จิรัฐติกาลสกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า จากการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด หรือดีทรอยด์ตะวันออกแห่งที่ 2 บริษัทได้เลือกทีทีแอนด์ทีเป็นผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมแบบครบวงจรภายในนิคมฯจังหวัดระยอง เหตุที่เลือกทีทีแอนด์ที เพราะกล้างเสี่ยงที่จะลงทุนในการติดตั้งระบบโทรศัพท์พื้นฐานเมื่อ 12 ปีก่อนในอีสเทิร์นซีบอร์ดเก่า และมีการปรึกษากันมาเป็นเวลากว่า 1 ปีในการวางระบบสื่อสารในนิคมฯ แห่งใหม่นี้

“เมื่อ 12 ปีที่แล้วเราได้มีการติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้วางระบบโทรคมนาคมแต่ไม่มีใครทำ จนกระทั่งทีทีแอนด์ทีกล้าที่จะลงทุนติดตั้งโทรศัพท์พื้นฐานให้เรา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่มีอะไร เขากล้าเสี่ยงกับเรา การลงทุนจึงไม่สูญเปล่า จนทำให้มีสิ่งตอบแทนกลับคืนมา”

สำหรับบริการจากทีทีแอนด์ทีที่ให้บริการภายในนิคมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด ประกอบด้วย โทรศัพท์พื้นฐาน และบริการเสริมต่างๆ รวมถึงโทรศัพท์สาธารณะ ระบบสื่อสารข้อมูล เช่น วงจาเช่า เครือข่ายเสมือนจริงภายในองค์กร ทรั้งกิ้งแอ็คเซ็ส และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือบรอดแบนด์ผ่านเทคโนโลยีเอดีเอสแอล นอกจากนี้ ยังมีบริการเสริมแก่ลูกค้าในนิคมฯ เช่น วอยซ์โอเวอร์ ไอพี บัตรโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต ฟิกซ์ไลน์เอสเอ็มแอล โทรศัพท์เฉพาะกลุ่มราคาประหยัด ระบบแลนไร้สาย และบริการเช่าอุปกรณ์ ระบบเครือข่ายและโครงสร้างพื้นฐาน การให้คำปรึกษา ออกแบบติดตั้ง และการนำไปใช้งานจริงสำหรับลูกค้า

“สามีคนนี้ยังเลือกภรรยาคนเดิมในการสร้างบ้านใหม่ ซึ่งในนิคมอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะมีอาคารและเครื่องจักรมาก การทำระบบซัปพลายเชนต้องมีระบบสื่อสารที่ดี จึงจะสามารถแข่งขันกับต่างชาติได้” นายประจวบ ตันตินนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีทีแอนด์ที กล่าวและว่า อย่างระบบที่ทีทีแอนด์ทีออกแบบไว้ หากมีซอฟต์แวร์ที่ดีบวกกับโครงสร้างพื้นฐานที่ เมื่อมีออเดอร์เข้ามาก็จะสามารถทำงานได้รวดเร็ว รวมถึงกระบวนการที่เกี่ยวข้องด้วย

นอกจากนี้ ในมุมมองของผู้บริหารทีทีแอนด์ทียังเชื่อว่า ลอจิสติกส์จะมีระบบโทรคมนาคมเป็นส่วนประกอบสำคัญ ถ้าไทยมีการพัฒนาในส่วนนี้ได้ จะทำให้ระบบลอจิสติกส์ไปได้ดี

ด้านนายชำนาญ ปราโมทย์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารลูกค้าองค์กร ทีทีแอนด์ที กล่าวว่า ขณะนี้ทีทีแอนด์ทีมีโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง หรือไฟเบอร์ออปติกกว่า 1 หมื่นกม.ทั่วประเทศ และจะเข้าถึงกรุงเทพฯ ในเร็วๆ นี้ โครงข่ายดังกล่าวมีทีมงานที่ได้รับการฝึกฝนอย่างดีทั้งจากในและต่างประเทศที่จะคอยดูแลลูกค้าโดยเฉพาะ ซึ่งเรียกว่า “ม้าเร็ว” และมีการตั้งทีมงานดังกล่าวในนิคมฯเหมราชด้วย

นอกจากโครงข่ายไฟเบอร์ออปติกแล้ว ทีทีแอนด์ทียังมีศูนย์บริการอยู่ทั่วประเทศ 180 แห่ง และจะขยายให้เป็น 300 แห่งภายในปีนี้ มีทีมวิศวกรขณะนี้ 1,600 คน และจะเพิ่มเป็น 2,000 คนภายในปีนี้ด้วย

ส่วนการลงทุนในนิคมฯ เหมราชในที่เดิม กว่า 90% เป็นลูกค้าของทีทีแอนด์ที จนขณะนี้มีผู้ให้บริการโทรศัพท์กว่า 3,000 เลขหมาย จากเดิมมีประมาณ 1,000 เลขหมาย ด้านการลงทุนในนิคมฯ แห่งใหม่ในเรื่องของโครงข่าย จะใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่าทริปเปิล เพลย์ ด้วยเงินลงทุน 10 ล้านบาท ขณะที่เหมราชจะเป็นผู้ลงทุนด้านอุปกรณ์ประมาณ 14 ล้านบาท ในเฟสแรก

จากงบลงทุนดังกล่าวทีทีแอนด์ทีคาดว่าปีแรกจะมีรายได้ประมาณ 1 ล้านบาท เนื่องจากยังลงโครงข่ายไม่เต็มพื้นที่ และเชื่อว่าภายใน 3-5 ปีจะสามารถคืนทุนได้

ผู้บริหารทีทีแอนด์ทีกล่าวว่า การให้บริการทีทีแอนด์ทีไม่ได้กังวลกับการลงทุนมากนัก เพราะเชื่อว่าหากสร้างโครงข่ายที่ดี บริการลูกค้าให้เกิดความพึงพอใจ และมีประสิทธิภาพ จะทำให้นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ มาให้บริการของทีทีแอนด์ที และจะทำให้เกิดรายได้ตามมา


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.