กบข.รับช่วงต้นปีขายหุ้นทำกำไรเผย4เดือนหลังมีสิทธิ์ปรับพอร์ต


ผู้จัดการรายวัน(9 สิงหาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

เปิดพอร์ตกบข.ครึ่งปีแรกปรับพอร์ตลงทุนในตลาดหุ้นเหลือแค่ 11% จากสิ้นปีที่ผ่านมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยกว่า 14% ของพอร์ต “วิสิฐ”รับในช่วงต้นปีหลังดัชนีตลาดหุ้นทะยานทยอยขายหุ้นทำกำไร แถมยังโยกเงินลงทุนตราสารหนี้เพิ่มจาก 67.85% เมื่อสิ้นปีก่อนเป็น 72.07% ในครึ่งปีแรก ส่วนแนวโน้มการลงทุนใน 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ เชื่อตลาดหุ้นยังแกว่งตัว ยืนยันยังถือเงินสดเตรียมเพิ่มน้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้นได้อีก แต่ถ้าสถานการณ์ไม่เอื้อก็พร้อมลดน้ำหนักลงทุนบวก-ลบ 1% ของพอร์ตลงทุนหุ้น ขณะที่ความคืบหน้าการจัดตั้งบลจ. คาดภายในสิ้นปีได้เห็นการเข้าถือหุ้นในบลจ.ของกบข.เพื่อเป็นพันธมิตรการทำธุรกิจ มุ่งสู่การเป็นสถาบันการออมเพื่อวัยเกษียณ

นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานของกบข.ในครึ่งปีแรกต้องยอมรับว่าในช่วงต้นปีได้มีการปรับพอร์ตการลงทุน โดยให้น้ำหนักกับการลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น โดยในส่วนของการลงทุนในตลาดหุ้นได้มีการขายหุ้นออกบางส่วนเพื่อทำกำไร ซึ่งถือเป็นนโยบายการลงทุนปกติที่ต้องปรับสัดส่วนลงทุนในหุ้นบางตัวที่ราคาสูง และย้ายไปลงทุนในหุ้นตัวอื่น โดยในครึ่งปีแรกสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นลดลงเหลือประมาณ 11% ของพอร์ตเมื่อเทียบกับในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาที่มีการลงทุนในตลาดหุ้นราว 14%

สำหรับนโยบายลงทุนของกบข.ในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ นายวิสิฐ ให้ความเห็นว่า การลงทุนในตลาดหุ้นอาจจะปรับลดน้ำหนัก หรือเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นได้อีก 1% ของพอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้นในปัจจุบันที่เหลือประมาณ 11% ของพอร์ต เนื่องจากได้มีการกันเม็ดเงินบางส่วนเพื่อลงทุนในตลาดหุ้น แม้การเมืองจะมีความชัดเจนมากกว่าในช่วงปลายปีทีผ่านมา แต่ก็ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นายวิสิฐกล่าวว่า การลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนกบข.ยังคงให้น้ำหนักกับหุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากกลุ่มพลังงานได้รับปัจจัยบวกโดยตรงจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่ม ขณะที่หลักทรัพย์บางกลุ่มแนวโน้มผลการดำเนินงานปรับตัวลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาน้ำมัน และดอกเบี้ยที่ปรับตัวเพิ่ม

สำหรับนโยบายการลงทุนของกบข.ในช่วงครึ่งปีแรกได้มีการเพิ่มน้ำหนักลงทุนในตราสารหนี้เพิ่ม ขณะเดียวกันยังเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยปัจจุบันกบข.ลงทุนในต่างประเทศประมาณ 650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นลงทุนเองประมาณ 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และลงทุนผ่านผู้จัดการกองทุนในประเทศ ประมาณ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้และตลาดหุ้นแบ่งเป็น 50 ต่อ 50

ทั้งนี้ พอร์ตการลงทุนของกบข. ล่าสุด ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2549 มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิจำนวนทั้งสิ้น 305,766 ล้านบาท แบ่งเป็นลงทุนในตราสารหนี้ประมาณ 72.07% ตราสารทุน 10.53% อสังหาริมทรัพย์ 2.96% การลงทุนทางเลือก 4.99% การลงทุนต่างประเทศ 9.45%

ขณะที่ในช่วงสิ้นปี 2548 กบข.ลงทุนในตราสารหนี้ 67.85% ตราสารทุน 13.68% อสังหาริมทรัพย์ 3.09% การลงทุนทางเลือก 5.93% และลงทุนในต่างประเทศ 9.45%

นายวิสิฐ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในการขยายเพดานการลงทุนในตลาดหุ้นในประเทศ และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในต่างประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลัง เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยกบข.ขอขยายเพดานการลงทุนในตลาดหุ้นจาก 20% เป็น 30% ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศ ขอขยายเพดานการลงทุนจาก 10% เป็น 20% ซึ่งหากได้รับการอนุมัติจะทำให้การลงทุนของกบข.ในอนาคตมีความคล่องตัวมากขึ้น สอดคล้องกับนโยบายการลงทุนในระยะยาว

ส่วนความคืบหน้าการจัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นายวิสิฐ กล่าววา รูปแบบในเบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ โดยแนวทางจะเป็นการเข้าไปร่วมทุนกับบลจ.ที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยแผนการดำเนินงานของบลจ.ที่ร่วมทุนจะให้น้ำหนักกับการเป็นสถาบันการออมแห่งชาติ เพื่อรองรับการออมในวัยเกษียณในอนาคต

นอกจากนี้ ในส่วนของการลงทุนในต่างประเทศ หลังจากที่กบข.ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สามารถนำเงินไปลงทุนต่างประเทศได้ จากที่ก่อนหน้ามีเงินลงทุนต่างประเทศบางส่วนที่กบข.ต้องลงทุนผ่าน กองทุนรวมลงทุนต่างประเทศ (FIF) ซึ่งคิดเป็นวงเงินราว 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะนี้กบข.ได้ยกเลิกสัญญาเรียบร้อยแล้ว และนำเงินดังกล่าวมาบริหารเอง ซึ่งทำให้การบริหารมีความคล่องตัวมากขึ้น

ทั้งนี้ คาดว่าการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 5-6% ต่อปี

นอกจากนี้ กบข.ยังมีนโยบายเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากให้ผลตอบแทนสูงเฉลี่ยประมาณ 8-10% ต่อปี ซึ่งผู้จัดการกองทุนที่ดูแลอยู่ระหว่างคัดเลือกประเภทสินทรัพย์ลงทุน และยังสามารถขยายการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้อีก


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.