ผู้ถือหุ้นวินโคสท์ฯอนุมัติลงทุนเพิ่มขยายธุรกิจลอจีสติกส์มูลค่า600ล้าน


ผู้จัดการรายวัน(7 สิงหาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ผู้ถือหุ้น "วินโคสท์ฯ" อนุมัติโครงการขยายการลงทุนธุรกิจลอจีสติกส์ผ่านบริษัทย่อย 2 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 600 ล้านบาท พร้อมเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 143,172,550 บาท แบ่งจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม 140,093,736 หุ้น ในอัตราส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ และส่วนที่เหลือจัดสรรไว้รองรับการปรับอัตราการใช้สิทธิของวอร์แรนต์

นายภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ WIN กล่าวว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2549 มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติโครงการขยายการลงทุนในธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางรถไฟเส้นทางนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (ท่าเรือแหลมฉบัง) มูลค่ารวมประมาณ 613.23 ล้านบาท ประกอบด้วยมูลค่าเงินลงทุนของโครงการ 350.06 ล้านบาท และค่าเช่าที่ดินในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดตลอดระยะเวลา 30 ปี จำนวนเงินรวมประมาณ 263.17 ล้านบาท

สำหรับการลงทุนในธุรกิจดังกล่าว บริษัทมอบให้บริษัทย่อยเป็นผู้ดำเนินการ คือ บริษัท วินโคสท์ โลจิสติกส์ จำกัด (WYN Logistics) บริษัทย่อยของบริษัทจะเป็นผู้ให้บริการด้านการตลาด ดำเนินการในการติดต่อประสานงานกับลูกค้า และบริหารลานกองและลานขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์สินค้า

ทั้งนี้ WYN Logistics จะเป็นผู้เช่าพื้นที่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และเป็นผู้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค เพื่อสนับสนุนการให้บริการขนส่งสินค้าทางรถไฟ ได้แก่ ลานขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์สินค้าขึ้นลงจากรถไฟ (Loading Area) ลานกองตู้ (Container Yard) ลานจอดพักรถเพื่อรอการขนถ่ายสินค้า เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในลานสำหรับขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์สินค้าขึ้นลงจากรถไฟ และรถหัวลาก รวมมูลค่าโครงการ 414.43 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าเงินลงทุ 151.26 ล้านบาท และค่าเช่าที่ดินในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดทยอยจ่ายรายปีตลอดระยะเวลา 30 ปี จำนวน 263.17 ล้านบาท

ส่วนบริษัท วินโคสท์ ทรานสปอร์ต จำกัด (WYN Transport? บริษัทย่อยของบริษัทเป็นผู้ลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการให้บริการขนส่งสินค้าทางรถไฟ มูลค่าเงินลงทุนรวม 198.80 ล้านบาท เช่น หัวรถจักร และแม่แคร่ที่ใช้บรรทุกสินค้า การบูรณะระบบรางรถไฟที่ย่านมาบตาพุด รวมทั้งยังมีการลงทุนในหัวลากรถบรรทุกและรถพ่วงหัวลากเพื่อใช้ในการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์สินค้าจากโรงงานผลิตของลูกค้ามายังรถไฟที่จะขนส่งตู้สินค้าดังกล่าวไปยังท่าเรือแหลมฉบัง

นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีกจำนวน 143,172,550 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 367,208,910 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 510,381,460 บาท ด้วยการออกหุ้นสามัญจำนวน 143,172,550 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท แบ่งจัดสรรจำนวน 140,093,736 หุ้น ให้กับผู้ถือเดิมที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันที่ 10 สิงหาคม 2549 ในอัตรา 5 หุ้นเดิม ต่อ 2 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 1 บาท กำหนดวันจองซื้อและชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนตั้งแต่วันที่ 24 -30 สิงหาคม 2549

โดยกรณีที่หุ้นสามัญเพิ่มทุนส่วนที่เหลือมีจำนวนน้อยกว่าจำนวนที่มีผู้ถือหุ้นเดิมจองซื้อเกินสิทธิให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลือให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อเกินสิทธิตามสัดส่วนการจองซื้อหุ้นเกินสิทธิของผู้ถือหุ้นเดิมแต่ละราย หรือ Pro Rate Basis และหากมีหุ้นเหลือเกินกว่าส่วนที่จองซื้อเกินสิทธิ ให้จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามจำนวนที่จองซื้อหุ้นเกินสิทธิ

ส่วนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลือจำนวน 3,078,814 หุ้น จัดสรรไว้เพื่อรองรับการปรับสิทธิในใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทที่ออกและเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน เมื่อวันที่ 10-17 สิงหาคม 2541 หากมีเศษของหุ้นเหลือจากการคำนวณตามการจัดสรรดังกล่าว ให้ปัดเศษหุ้นทิ้ง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.