|
“โอเชี่ยน”ฉีกตลาดหนีคู่แข่งหันทำฮิบคอนโดฯกลางเมือง
ผู้จัดการรายสัปดาห์(7 สิงหาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
“โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้”ยึดสมรภูมิกลางซอยนายเลิศ ชิงยอดขายคอนโดมิเนียมเขตซีบีดี ประกาศลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมหรู สไตล์ฮิป มูลค่า 400 ล้านบาท
ต้องยอมรับว่าการลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมในช่วงนี้ ไม่ง่ายเหมือนกับในช่วง 1-2 ปีก่อน เพราะกำลังซื้อถูกดูดซับไปจากตลาดค่อนข้างมาก จากการที่ในช่วงก่อนหน้านี้ตลาดดังกล่าว เติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมหรูหราราคาแพง ที่ผู้ประกอบการพาเหรดเข้ามาลงทุน และกอบโกยยอดขายและกำไรไปอย่างมหาศาล ส่วนทางตลาดอื่นๆ ที่แม้ว่าจะมียอดขายดี แต่ผลกำไรกลับไม่งดงามเท่ากับตลาดหรูหราราคาแพง
อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการจะตัดสินใจเข้ามาลงทุนโครงการในช่วงนี้ จะต้องทำงานอย่างหนัก คิดให้มากกว่าเก่าหลายเท่าตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในประเด็นว่า จะสร้างคอนโดมิเนียมรูปแบบใด ขายใคร ทำเลไหนที่เป็นที่ต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องโฟกัสกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เพื่อทำสินค้าให้ตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ที่สำคัญ สินค้าควรจะแตกต่างจากคู่แข่งที่มีอยู่ในท้องตลาดอย่างชัดเจน ไม่เช่นนั้น ยอดขายอาจจะไม่เป็นไปตามที่คาดหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงนี้ ตลาดเป็นของผู้บริโภค ไม่ใช่ของผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ เนื่องจากมีสินค้าให้เลือกจำนวนมาก และหลากหลาย นอกจากนี้ ยังไม่จำเป็นต้องรีบร้อนซื้อ เพราะหากภาวะเศรษฐกิจมีอันต้องพบกับภาวะวิกฤตเหมือนในอดีต ราคาสินค้าอาจจะลดลงด้วยซ้ำ ซึ่งการลดราคาอาจจะไม่ได้ลดเป็นตัวเงินอย่างชัดเจน แต่อาจจะได้สิทธิพิเศษมากขึ้น อาทิ อาจจะได้เงื่อนไขพิเศษ ประเภท อัตราดอกเบี้ย หรือของแถม เพราะผู้ประกอบการต้องการเร่งปิดยอดขาย เพื่อนำเงินไปชำระคืนหนี้กับสถาบันการเงิน เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ยในช่วงขาขึ้น
บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด โดยนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานกรรมการ บอกว่า บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในย่านศูนย์กลางทางธุรกิจ(ซีบีดี) บริเวณซอยนายเลิศ เป็นคอนโดมิเนียมหรูโลว์ไรท์ สไตล์ฮิป ชื่อ"โอทู ฮิป คอนโดมิเนียม ซอยนายเลิศ " สูง 7 ชั้น บนพื้นที่ 289 ตารางวา เป็นห้องชุดดีไซน์หรูร่วมสมัยขนาด 1-2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 52-105 ตารางเมตร ราคาตารางเมตรละ 80,000 บาท หรือราคา 4-10 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 48 ยูนิต ชั้นละ 8 ยูนิต มูลค่า 400 ล้านบาท โดยสัดส่วนห้องชุดขนาดเล็กและใหญ่แต่ละชั้นจะเท่ากัน โดยบริษัทได้ซื้อที่ดินมาตั้งแต่ปลายปี 2548 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในเดือนส.ค.นี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนม.ค. 2551
“การแข่งขันในบริเวณดังกล่าวถือว่ามีบ้างแต่ไม่มากนัก เพราะส่วนใหญ่จะเป็นโครงการขนาดสูง ส่วนของโอเชี่ยนฯเป็นคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไร้ท์ ทั้งนี้ มีโครงการที่ก่อสร้างในรูปแบบใกล้เคียงกันบ้าง เช่นโครงการของโนเบิล และของแสนสิริในซอยร่วมฤดี แต่โอทู ฮิป เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัว เพราะมีเพียง 48 ยูนิตเท่านั้น รวมทั้งเน้นพื้นที่ใช้สอยของพื้นที่มากที่สุด”
สำหรับผลประกอบการในปีนี้ ยังมีรายได้ที่เติบโตขึ้น ซึ่งมีรายได้จากการขายและค่าเช่าประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกสามารถสร้างรายได้จากการขายห้องชุดของโครงการโอเชี่ยน พอร์โตฟีโน่ คอนโดฯ ซึ่งเป็นเป็นส่วนของโอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ทคลับ ริมหาดจอมเทียนประมาณ 600 ล้านบาท และคาดว่าครึ่งปีหลังจะมียอดขายอีก 300 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากค่าเช่า 2 อาคาร คือ โอเชี่ยน ทาวเวอร์ 1 และ 2 จะมีรายได้ราว 30 ล้านบาท รวมถึงรายได้จากค่าบริการเรือยอช์ทประมาณ 36 ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|