KSL ลงขันตั้งบริษัทในกัมพูชา 2 แห่ง เพื่อปลูกอ้อยและสร้างโรงงานน้ำตาล


ผู้จัดการรายวัน(4 สิงหาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

KSL ลงขันตั้งบริษัทในกัมพูชา 2 แห่ง Koh Kong Plantation Company Limited และ Koh Kong Sugar Industry Company Limited ด้วยทุนจดทะเบียนแห่งละ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ KSL จะถือหุ้นบริษัทละ 50% เพื่อเพาะปลูกอ้อยและก่อสร้างโรงงานน้ำตาล โดยจะใช้เงินทุนหมุนเวียนและกู้ยืมเพื่อใช้ในการลงทุน เผยผลงานไตรมาส 3 ยังโตต่อเนื่อง

นายจำรูญ ชินธรรมมิตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) (KSL) แจ้งว่า ตามที่บริษัทได้เคยแจ้งว่ามีแผนที่จะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในประเทศกัมพูชา เพื่อประกอบกิจการในโครงการเพาะปลูกอ้อยและจัดตั้งโรงงานน้ำตาลในประเทศกัมพูชา ตามรายละเอียดของข่าวเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2549 นั้น

โดย บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) กับผู้ร่วมทุนชาวต่างชาติ ได้เข้าร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับรัฐบาลกัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2549 เพื่อเช่าพื้นที่สัมปทานในการเพาะปลูกอ้อย จำนวน 20,000 เฮกตาร์ อายุสัมปทาน 90 ปี และดำเนินการจัดตั้งโรงงานน้ำตาลที่ประเทศกัมพูชา โดยได้จัดตั้งบริษัทใหม่จำนวน 2 บริษัท ซึ่ง น้ำตาลขอนแก่นจะถือหุ้น 50% ของทุนจดทะเบียน และมีผู้ร่วมทุนชาวไต้หวัน ถือหุ้น 30% และผู้ร่วมทุนชาวกัมพูชา ถือหุ้น 20%

สำหรับบริษัทใหม่ 2 แห่งที่จัดตั้งคือ Koh Kong Plantation Company Limited (KPT) และ Koh Kong Sugar Industry Company Limited (KSI) ด้วยทุนจดทะเบียนดังนี้คือ KPT ทุนจดทะเบียน 5,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ จะดำเนินการเรียกทุนจำนวนดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2552 ขณะที่ KSI ทุนจดทะเบียน 5,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ จะดำเนินการเรียกทุนจำนวนดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ.2552

ทั้งนี้ โครงสร้างการถือหุ้นนั้น น้ำตาลขอนแก่นจะถือหุ้นในบริษัททั้งสองแห่งที่กล่าวมาแล้วด้วยสัดส่วนร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียน คิดเป็นมูลค่าการลงทุนในบริษัทที่กล่าวมาแล้วด้วยสัดส่วนแห่งละ 2,500,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นประมาณ 200 ล้านบาท โดย Koh Kong Plantation Company Limited ก่อตั้งขึ้นเพื่อเพาะปลูกอ้อยที่ประเทศกัมพูชา และ Koh Kong Sugar Industry Company Limited ตั้งขึ้นเพื่อเพาะปลูกอ้อยและก่อตั้งโรงงานน้ำตาลที่ประเทศกัมพูชา

โดยเงินที่น้ำตาลขอนแก่นจะใช้ร่วมลงทุนครั้งนี้ จะใช้จากเงินทุนหมุนเวียนภายในของบริษัทและเงินกู้ยืม และรายการลงทุนข้างต้นมีขนาดของรายการต่ำกว่า 15% ของเกณฑ์การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนตามประกาศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สำหรับการขยายการลงทุนสู่กัมพูชาครั้งนี้ เพราะบริษัทฯ มีแผนที่จะส่งน้ำตาลไปจำหน่ายในยุโรป โดยผ่านประเทศกัมพูชาเนื่องจากยุโรปจะให้โควต้ากับประเทศดังกล่าวค่อนข้างมาก ซึ่งในอดีตกัมพูชาเคยเป็นประเทศที่อยู่ในอาณานิคมของยุโรปดังนั้นก็มีการให้โควต้าส่งน้ำตาลไปขายได้ซึ่งเราก็จะใช้ช่องทางจากประเทศกัมพูชาในการขยายตลาดน้ำตาลเข้าสู่ยุโรป และปีนี้น้ำตาลขอนแก่นไม่มีแผนลงทุนใหม่ๆ เพิ่ม เพราะต้องการให้โครงการในลาวและกัมพูชาแล้วเสร็จและประสบผลสำเร็จจากการลงทุนก่อน จึงจะมีแผนการลงทุนเพิ่ม

อย่างไรก็ตาม น้ำตาลขอนแก่นยังคาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปีนี้ มีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทได้รับปัจจัยบวกจากการปรับเพิ่มราคาขายเอทานอล

ขณะที่ราคาหุ้น KSL หรือ น้ำตาลขอนแก่น วานนี้พบว่า เปิดตลาดที่ราคา 10.60 บาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 10 สตางค์ และปิดตลาดช่วงเช้าที่ราคาดังกล่าว ด้วยมูลค่าซื้อขาย 3.08 ล้านบาท ขณะที่ช่วงบ่ายราคาหุ้นสวิงพอสมควรและปิดตลาดที่ราคา 10.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.37 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.