|
AMCโชว์กำไรQ2พุ่ง254.77%เปิดทางเจรจาพันธมิตรควบรวม
ผู้จัดการรายวัน(2 สิงหาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
เอเซียเมทัลโชว์กำไรไตรมาส 2 ในระดับ 81.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 254.77% เหตุจากการบริหารต้นทุนและควบคุมสินค้าที่เหมาะสม พร้อมเปิดทางควบรวมกับธุรกิจเหล็กในอนาคต ตั้งเป้าเงินลงทุนในปีนี้จำนวน 600 ล้านบาท
นายชูศักดิ์ ยงวงศ์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอเซียเมทัล จำกัด (มหาชน) หรือ AMC เปิดเผยว่าผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทมีกำไรสุทธิ 81.03 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจำนวน 58.19 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 254.77% ขณะที่ในงวด 6 เดือนของปี 2549 มีกำไรสุทธิ 114.71 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 47.81 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 71.46%
ทั้งนี้สาเหตุที่บริษัทมีผลประกอบการที่ดีขึ้น เนื่องจากบริษัทมีการจัดการบริหารต้นทุนและควบคุมสินค้าคงคลังให้พอเหมาะ ทำให้สามารถลดต้นทุนขายได้จำนวน 247.99 ล้านบาท และในช่วงที่ผ่านมาราคาสินค้าก็ได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย รวมทั้งมีนโยบายในการจำหน่ายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงขึ้น โดยไม่มุ่งเน้นปริมาณการขายให้เพิ่มขึ้นจึงทำให้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น
นายชูศักดิ์กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ และเชื่อว่าสิ้นปีนี้บริษัทจะมีอัตราการเติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยคาดว่าในด้านปริมาณการจำหน่ายจะขยายตัวประมาณ 20% และในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าความต้องการสินค้ายังคงมีอัตราที่ใกล้เคียงกับปีก่อนหรือใกล้เคียงกัปริมาณการใช้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ภายในปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเข้าไปซื้อที่ดิน อาคารสิ่งปลูกสร้างจากธนาคารทหารไทย เพื่อนำมาใช้สร้างเป็นโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ใช้เงินลงทุนประมาณ 105 ล้านบาท และได้ซื้อเครื่องจักร สำหรับผลิตท่อขนาด 6 นิ้วถึง 20 นิ้ว เพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจ เพราะปัจจุบันนี้บริษัทผลิตท่อเหล็กที่มีขนาดเพียง 4 นิ้วเท่านั้น โดยแรงงานแห่งใหม่นี้คาดว่าจะสามารถดำเนินการผลิตได้ภายในไตรมาส 4 ปีหน้า และจะช่วยทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น และเครื่องจักรดังกล่าวมีกำลังการผลิตเต็มที่ประมาณ 1.2 แสนตันต่อปี และเครื่องจักรดังกล่าวมีอายุการใช้งานได้อีกกว่า 20 ปี
นอกจากนี้ที่ดินที่ซื้อใหม่นี้ถือว่าอยู่ในทำเลที่เหมาะสม เพราะพื้นที่ใกล้เคียงกับซัพพลายเออร์หลายแห่งทั้งบริษัทสหวิริยาสตีล, บริษัทจี สตีล, และบริษัทนครไทยสตริปมิล และยังเป็นทำเลที่สามารถกระจายสินค้าได้ง่าย เพราะมีเส้นทางการขนส่งที่สะดวก ดังนั้นจึงถือเป็นทำเลที่เหมาะสมในการสร้างเป็นศูนย์กระจายสินค้าอีกด้วย
ส่วนกรณีการควบรวมธุรกิจท่อเหล็กนั้น นายชูศักดิ์กล่าววว่า บริษัทไม่ได้ปิดกั้นและเปิดกว้างเสมอเพราะมองว่าในอนาคตบริษัทที่ผลิตท่อเหล็กก็มีโอกาสรวมกันได้ แต่จะเป็นในลักษณะใดยังไม่สามารถบอกได้ อย่างไรก็ตามในขณะนี้คงจะยังไม่เกิด เพราะบริษัทส่วนใหญ่ยังมีลักษณะของธุรกิจครอบครัวอยู่
"ในช่วงที่ผ่านมาในสมาคมผู้ผลิตท่อโลหะและแปรรูปเหล็กแผ่น ซึ่งมีบริษัทสมาชิกกว่า 30 บริษัท ซึ่งมีทั้งบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ด้วยเช่นบริษัทแปซิฟิก ไพพ์ และบริษัทค้าเหล็กไทยเป็นต้น และยังมีบริษัทที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ก็ได้มีการหารือในเรื่องของร่วมมือในธุรกิจร่วมกันในรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นการลดต้นทุน ซึ่งการควบรวมในธุรกิจเหล็กก็เชื่อว่ามีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้เช่นกันในอนาคต หลังจากที่ผู้ประกอบธุรกิจเหล็กขนาดใหญ่ได้มีการควบรวมกันไปแล้ว" นายชูศักดิ์กล่าว
นายวรชาติ ทวยเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัดในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินเปิดเผยว่า บริษัทเอเซียเมทัลจะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน ซึ่งจะเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม 50 ล้านหุ้น โดยกำหนดสัดส่วนว่า 8 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ และจะให้ใบสำคัญแสดงสิทธิหรือวอร์แรนต์โดยให้ฟรี อีกส่วนจะเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปจำนวน 50 ล้านหุ้น ผู้ลงทุนที่เข้ามาซื้อยังได้รับวอร์แรนต์ฟรีเช่นกันสำหรับรายละเอียดของวอร์แรนต์จะมีอายุ 7 ปีและใช้สิทธิได้ 2 ครั้ง โดยราคาแปลงสภาพนั้นยังไม่ได้กำหนด
ทั้งนี้บล.ซีมิโก้ จะยื่นแบบไฟลิ่งที่จะขอเพิ่มทุนให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.พิจารณา คาดว่าภายในเดือนนี้คงจะเริ่มพิจารณาและหลังจากนั้นไม่เกิน 3 เดือน คาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนได้ โดยเงินที่ได้รับจะนำไปขยายธุรกิจเป็นหลักปัจจุบันนี้บริษัทเอเซียเมทัล มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ระดับ 1.36 เท่า ซึ่งภายหลังการเพิ่มทุนแล้วคาดว่าสัดส่วนดังกล่าวก็ยังใกล้เคียงกับตัวเลขในปัจจุบันนี้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|