|
ตลท.เพิ่มความถี่ตรวจหุ้นปั่นบิ๊กIECติงอย่าดับเบิ้ลสแตนดาร์ด
ผู้จัดการรายวัน(2 สิงหาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
บิ๊กไออีซี ติงตลท.แสดงบทบาทตรวจสอบหุ้นที่ผิดปกติในช่วงที่ราคาปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงด้วยอย่ามี 2 มาตรฐาน เหตุรายย่อยได้รับกระทบโดยตรง พร้อมตอกโบรกฯอย่าวิเคราะห์หุ้นแต่เชิงลบควรหาข้อมูลในรอบด้าน ขณะที่ตลท.ส่งหนังสือเวียนถึงโบรกฯปรับระบบไอทีเพื่อตรวจสอบการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่ผิดปกติถี่ขึ้น จากเดิมทุกครึ่งเป็นตรวจสอบทุกชั่วโมง
นายสุมิท แช่มประสิทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC กล่าวว่า โดยส่วนตัวรู้สึกไม่สบายใจต่อการทำหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเรื่องการตรวจสอบและดูแลการเคลื่อนไหวในหุ้นที่มีการขึ้นลงของราคาที่ผิดปกติ
ทั้งนี้ที่ผ่านมาการตรวจสอบของตลาดหลักทรัพย์จะเน้นหนักในช่วงที่ราคาหุ้นใดหุ้นหนึ่งมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง แต่พอราคาหุ้นใดมีการปรับตัวลดลงรุนแรงกลับไม่ค่อยได้รับข่าวสารว่าตลาดหลักทรัพย์มีการดำเนินการตรวจสอบอย่างเต็มที่ ทั้งๆ ที่การปรับตัวลดลงของราคาหุ้นที่รุนแรงทำให้นักลงทุนรายย่อยที่เข้ามาลงทุนต้องรับผลกระทบจากแรงขายทิ้งของกลุ่มผู้ถือหุ้นหรือผู้ถือหุ้นรายหนึ่งรายใดค่อนข้างมาก
สำหรับเหตุผลที่ส่งผลทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงค่อนข้างรุนแรงเรื่องที่ค่อนข้างมีน้ำหนักในช่วงที่ผ่านมา คือ การนำข้อมูลเพียงด้านเดียวของนักวิเคราะห์มาวิเคราะห์พื้นฐานของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง รวมถึงมีการเข้ามาสร้างข่าวลือทั้งในเชิงลบและเชิงบวกซึ่งทำให้การปรับเปลี่ยนของราคาหุ้นค่อนข้างรุนแรง
"อยากให้ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์มีการตักเตือนผู้บริหารระดับสูง รวมถึงนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ ที่คอยแต่จะชี้นำนักลงทุนในเชิงลบต่อหุ้นใดหุ้นหนึ่งเท่านั้น รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ควรจะแสดงบทบาทของตัวเองให้ชัดเจนในการเข้าไปตรวจสอบความผิดปกติของราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงด้วยเนื่องจากทำให้นักลงทุนรายย่อยที่เข้ามาลงทุนต้องมาแบกรับภาระขาดทุน" นายสุมิทกล่าว
อนึ่ง ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ได้เข้าไปตรวจสอบการซื้อขายในหุ้น IEC ก่อนจะมีการสั่งห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) จำนวน 4 ครั้ง
ทั้งนี้ในช่วงครั้งล่าสุดบมจ.อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริงได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองกลางเพื่อให้มีคำสั่งคุ้มครองและเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวโดยเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมาศาลปกครองมีคำสั่งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิกถอนคำสั่งห้ามซื้อขายในลักษณะ Net Settlement และ Margin Trading ในหลักทรัพย์ IEC และให้หลักทรัพย์ IEC ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ได้โดยวิธีการตามปกตินับจากวันที่ศาลมีคำสั่ง (วันที่ 16 พฤษภาคม 2549) จนกว่าศาลปกครองจะมีคำพิพากษา
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ได้ส่งหนังสือเวียนไปยังบริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่ง เพื่อขอความร่วมมือเกี่ยวกับการปรับระบบไอทีข้อมูลการซื้อขาย เพื่อให้มีการตรวจสอบการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่ผิดปกติมีความถี่มากยิ่งขึ้น จากเดิมที่จะตรวจสอบทุกครึ่งวัน ก็จะเป็นการตรวจสอบในทุกๆ ชั่วโมง สาเหตุเนื่องจากพบว่าในระยะหลังการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ มีการเข้ามาซื้อขายในหุ้นเก็งกำไรกันมากขึ้น
นอกจากนี้ได้มีกระแสข่าวอีกว่าตลาดหลักทรัพย์ได้ให้โบรกเกอร์นำส่งข้อมูลการบันทึกเสียงคำสั่งซื้อขายหุ้น 5 บริษัทได้แก่บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) (IEC) บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) (BLISS) บริษัท ดราก้อน วัน จำกัด (มหาชน) (D1) บล.แอ๊ดคินซัน (ASL) และ บริษัท สิงห์ พาราเทค จำกัด (มหาชน) (SINGHA) เพื่อตรวจสอบการซื้อขายนั้น
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|