|
"ดีคอน" พลิกเกมสู้ศก.ทรุดรักษายอดขายดันสินค้าใหม่-ดึงบัวทอง-พลัสฯขายบ้าน
ผู้จัดการรายวัน(1 สิงหาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
DCON ปรับกลยุทธ์ธุรกิจหลังสภาพเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย เล็งโหมโรงส่งสินค้าคอนกรีตมวลเบารูปแบบใหม่ภายใต้ชื่อ CELLULAR หรือ CLC หลังตลาดที่เชียงใหม่ตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมปรับรูปการพัฒนาโครงการจัดสรร ดึงบริษัทมืออาชีพขายบ้านในโครงการอรดาแลนด์ หากยอดขายต่ำกว่า 50% หวังลดความเสี่ยงทางด้านเงินทุน พร้อมขยับขยายลงทุนโครงการตามแหล่งท่องเที่ยว ชี้ชะอำและหัวหิน มีโอกาสเปิดโครงการใหม่
นายวิทวัส พรกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดีคอนโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นพื้นสำเร็จรูปและเสาเข็มอัดแรงภายใต้ยี่ห้อ "DCON" เปิดเผยถึงการปรับแผนธุรกิจของบริษัท ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัวว่า ทางบริษัทได้กำหนดแนวทางที่จะพยายามรักษาอัตราการสร้างรายได้ของบริษัทให้ได้ตามเป้าที่วางไว้ โดยคาดว่าในปีนี้บริษัทจะต้องมีอัตราเติบโตของรายได้ประมาณ 70% เมื่อเทียบกับรายได้ที่ 620 ล้านบาท ในปี 2548
โดยความพยายามที่จะทำให้ได้ตามเป้าหมายนั้น จะถูกผลักดันโดยการออกผลิตภัณฑ์คอนกรีตมวลเบารูปแบบใหม่ภายใต้ชื่อ CELLULAR LIGHT WEIGHT CONCRETE หรือ CLC ใช้กรรมวิธีในการปล่อยให้คอนกรีตแข็งตัวตามธรรมชาติโดยไม่ต้องอบไอน้ำ และสามารถใช้ปูนฉาบทั่วไปได้ น้ำซึมผ่านได้ยากกว่า เนื่องจากโพรงอากาศแต่ละเซลล์ไม่ชิดติดกันทำให้มีโอกาสการเกิดเชื้อราน้อย ซึ่งคอนกรีตมวลเบา CLC ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการฉาบปูนในการก่อสร้างได้ประมาณ 3.60 สตางค์ ขณะที่ราคาขายจะแพงกว่าระบบ AAC ประมาณ 2 บาท
"ทางบริษัทได้นำคอนกรีตมวลเบา CLC ทำตลาดที่เชียงใหม่ได้ระยะหนึ่ง ซึ่งตลาดให้การตอบรับค่อนข้างดี แม้ว่ายอดขายประมาณ 1,000- 2,000 ก้อนต่อวัน แต่มั่นใจว่าด้วยระบบเทคโนโลยีและสินค้าที่มีส่วนช่วยดูแลสุขภาพจะทำให้เป็นที่นิยมของผู้บริโภคและของผู้ประกอบการ โดยภายในเดือนตุลาคมนี้ ทางบริษัทจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งใหญ่" นายวิทวัสกล่าวและว่า
ในส่วนของธุรกิจโครงการอสังหาฯ ประธานกรรมการบริหารกล่าวว่า ในภาวะที่ตลาดอสังหาฯ ชะลอตัว ทำให้บริษัทต้องปรับแนวทางการลงทุนในโรงงานสำเร็จรูปขนาดย่อม (Mini Factory) โดยตามแผนเดิมจะพัฒนาจำนวน 90 หลัง แต่ขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว 50 หลัง แยกเป็นส่วนที่ขายไปแล้ว 40 หลังอีก 10 หลังเป็นการปล่อยเช่า ส่วนที่เหลืออีก 30 หลัง จะต้องมียอดสั่งจองจากลูกค้าเข้ามาก่อนจึงจะดำเนินการก่อสร้าง หรือเป็นรูปแบบสั่งสร้าง
นอกจากนี้การพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวอรดาแลนด์ จะยึดเน้นทางที่จะลงทุนโดยไม่สร้างความเสี่ยงให้แก่บริษัท แม้ว่าขณะนี้ทางบริษัทได้ลงทุนสร้างบ้านเดี่ยว (บ้านพร้อมอยู่) จำนวน 118 หลัง ราคาขายประมาณ 1.74-2.74 ล้านบาท ซึ่งตั้งแต่ช่วงเปิดการขายล่วงหน้าประมาณเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดขายได้แล้วกว่า 10% โดยตามแผนที่วางไว้ หากในช่วงเดือนที่เหลือยอดขายในโครงการบ้านเดี่ยวทำได้ไม่ถึง 50% ทางบริษัทจะดึงบริษัทบริหารการขายเข้ามาทำการตลาดและการขายให้
"บริษัทบริหารการขายที่ทาง DCON มองอยู่ จะเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญทางด้านการขาย ไม่ว่าบริษัท บัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ในเครือแสนสิริ บริษัทฮาริสัน ซึ่งมีบริษัทเสนอตัวเข้ามาแต่ไม่สามารถบอกได้ เนื่องจากต้องรอผลของการขาย แต่สิ่งสำคัญแล้ว ทางบริษัทต้องการบริหารความเสี่ยงจากเงินที่ได้ลงทุน ไม่ให้จมไป และตั้งเป้าภายในไตรมาสแรกของปี 2550 ต้องดำเนินการโอนได้หมด" นายวิทวัสกล่าว
สำหรับโครงการบ้านเดี่ยวอรดาแลนด์ มีเนื้อที่พัฒนา 33 ไร่ แต่นำมาพัฒนาในส่วนแรกประมาณ 22 ไร่ ส่วนที่เหลืออีก 9 ไร่จะตรงกันข้ามกับที่ดินผืนดังกล่าว โดยมีถนนขั้นผ่านที่ดินทั้งสองแปลง อย่างไรก็ตาม หากจะมีการลงทุนในโครงการใหม่ทางบริษัทจะเน้นการตลาดแบบสั่งสร้าง เป็นต้น
นายวิทวัสกล่าวว่า ทางบริษัทยังมีแผนที่จะขยายการลงทุนโครงการตามแหล่งท่องเที่ยวที่ติดชายทะเล เช่น ชายหาดหัวหินและชะอำ เนื่องจากมีโอกาสที่จะสร้างรายได้สูงกว่า โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตัดสินใจซื้อที่ดิน ซึ่งรูปแบบการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการบ้านหลังที่ 2 ที่ความต้องการในตลาดดังกล่าวยังเติบโต เช่น นักลงทุนจากต่างประเทศที่มีกำลังซื้อและชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย ส่วนรูปแบบการพัฒนาจะมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับเนื้อที่
"ในใจแล้วคิดว่าจะหาที่ดินประมาณ 30 ไร่ที่อยู่ใกล้ชายทะเล ซึ่งอาจจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม จำนวนห้องประมาณ 500 ห้องราคาขายประมาณ 1.8 ถึงกว่า 3 ล้านบาท แต่หากเป็นบ้านเดี่ยวติดชายทะเลจะขายประมาณ 20-30 ล้านบาท และหากไม่ติดทะเลอาจจะขายประมาณ 5-6 ล้านบาท โดยที่ดินแปลงดังกล่าวจะมีการเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อตัดสินใจซื้อ โดยยึดหลักความโปร่งใสและเป็นประโยชน์ต่อบริษัท "
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|