พิษการเมือง- ศก.ฉุดตลาดรถกระบะครึ่งปียอดขายในภาคตะวันออกวูบ 20%


ผู้จัดการรายสัปดาห์(31 กรกฎาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

พิษการเมือง เศรษฐกิจและราคาน้ำมัน ฉุดตลาดรถยนต์ตะวันออก โดยเฉพาะรถกระบะให้ทรุดลงจากปีก่อน 20-30% ขณะที่ดีลเลอร์ฉายภาพการแข่งขัน ช่วงครึ่งปีหลังจะรุนแรงมากกว่าปีก่อนๆ โดยเฉพาะการทุ่มจัดรายการส่งเสริมการขาย ทั้งลดและแถม รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยและเงินดาวน์ที่ต่ำลง รวมทั้งการดึงตัวบุคลากรที่มีคุณภาพ และพบลูกค้าแบบเคาะประตูบ้าน ขณะที่ดีลเลอร์บางราย เลือกตอกย้ำแบรนด์สินค้า ด้วยการออกบูธตามห้างฯ ส่วนดีลเลอร์นิสสัน อีซุซุ คาดรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงปลายปี จะสามารถสร้างสีสันให้กับตลาดรถยนต์ในพื้นที่ได้ไม่มากก็น้อย

แหล่งข่าว จากบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อีซูซุ ในพื้นที่ภาคตะวันออก เผยถึงการแข่งขันด้านการจำหน่ายรถกระบะและรถยนต์ในครึ่งปีหลังของภาคตะวันออกว่า จะรุนแรงมากขึ้นจากผลกระทบทางการเมือง ราคาน้ำมันและภาวะเศรษฐกิจ ที่มีผลโดยตรงต่อการตัดสินใจชะลอการใช้จ่ายของประชาชน โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี ที่แม้ประชาชนในพื้นที่จะมีกำลังซื้อสูง แต่ก็จะเลือกใช้จ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็นตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ประชาชนในประเทศหันมาปฏิบัติตามแนวทางของพระองค์ท่านมากขึ้น และแม้ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า อีซูซุ จะเปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่ออกทำตลาด ก็คาดว่าจะสร้างความฮือฮาในแง่ของความรู้สึกให้กับกลุ่มลูกค้าเท่านั้น

ในส่วนของยอดจำหน่าย คาดว่าจะไม่เติบโตดั่งเช่นปีก่อนๆ ผลที่ตามมา คือ บรรดาดีลเลอร์รถยนต์ในพื้นที่จะต้องงัดแคมเปญทางการตลาด เข้ามาดึงดูดความสนใจของลูกค้า ให้ตัดสินใจนำเงินออกมาใช้จ่าย โดยในส่วนของอีซูซุ ที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายอยู่ก็จะเน้นการจัดแคมเปญส่วนลด และคูปองเติมน้ำมันให้กับลูกค้าตามที่บริษัทแม่จัดให้

ขณะเดียวกันก็จะอัดงบโปรโมชัน ด้วยการหั่นยอดกำไรจากการขายรถยนต์ต่อคันลงกึ่งหนึ่ง เพื่อนำยอดกำไรในส่วนนี้มาจัดหาอุปกรณ์รถยนต์ต่างๆ เพื่อเป็นของแถมให้กับลูกค้าที่เข้ามาซื้อรถกระบะของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งนี้แม้ยอดจำหน่ายรถยนต์ของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกจะลดลงจากปีก่อนประมาณ 20% แต่บริษัทก็ยังคงต้องสร้างยอดขายรถกระบะให้ได้ 300 คันต่อเดือน ตามที่ตกลงไว้กับบริษัทแม่


ดังนั้นแผนการตลาดในครึ่งปีหลัง จึงต้องกำหนดให้เข้มแข็งทั้งการเพิ่มค่าคอมมิชชันให้แก่พนักงานขายของบริษัทเพื่อสร้างเป้าการขายต่อเดือนไม่ให้ต่ำกว่า 300 คัน ขณะเดียวกันก็ต้องเพิ่มแคมเปญส่งเสริมการขายแข่งกับผู้จำหน่ายรายอื่นด้วย

"ปีนี้ตลาดรถยนต์ในจังหวัดชลบุรีค่อนข้างเงียบเหงา เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ทั้งนี้เป็นเพราะภาวะทางการเมือง เศรษฐกิจและราคาน้ำมัน แต่ในช่วงครึ่งปีแรกเราก็ยังมีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ แต่เป็นกลุ่มที่ต้องการใช้รถยนต์จริงๆ เท่านั้น ซึ่งในครึ่งปีหลังเราก็ได้แจ้งลูกค้าไปแล้วว่าในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า อีซูซุ จะมีรถรุ่นใหม่ออกทำตลาด ซึ่งก็สร้างความฟู่ฟ่า ให้แก่กลุ่มคนที่นิยมสะสมรถยนต์รุ่นใหม่ในจังหวัดได้บ้าง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังคงเลือกที่จะเก็บเงินไว้ ซึ่งก็มีการคาดการณ์กันว่า ตลาดรถยนต์ของจังหวัดในปีนี้ทั้งปีจะทรงตัวมากกว่าเติบโต" แหล่งข่าว กล่าว

ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน ในจังหวัดชลบุรี เผยว่ายอดจำหน่ายรถยนต์นิสสันทั้งกระบะ และเก๋งในช่วงครึ่งปีแรกลดลง 20-30% เมื่อเทียบกับปีก่อน และคาดว่าในช่วงไตรมาส 3 ของปียอดจำหน่ายจะชะลอตัวจากเดิม ทั้งนี้เป็นเพราะยอดเงินหมุนเวียนที่เคยได้รับจากรัฐบาลในการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ของจังหวัดลดลง ขณะที่รายได้จากภาคการเกษตรของเกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออกยังไม่ออก เนื่องจากเป็นช่วงการลงทุนเพื่อผลผลิต บริษัทสยามนิสสัน ซึ่งเป็นบริษัทแม่จึงเลือกที่จะเปิดตัวโมเดลใหม่ ในส่วนของรถกระบะในช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งคาดว่ากำลังซื้อของประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้รถกระบะจะกลับคืนมา

ทั้งนี้ผลกระทบจากภาวะทางการเมือง เศรษฐกิจและราคาน้ำมัน คือ ตัวแปรสำคัญที่ฉุดภาพการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ของพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี ซึ่งแม้จะเป็นจังหวัดที่ประชาชนมีกำลังซื้อสูงแต่ก็ทำให้ประชาชนไม่กล้าที่จะนำเงินออกมาใช้จ่าย จะมีเพียงกลุ่มแฟนพันธุ์แท้ของนิสสันเท่านั้น ที่พร้อมจะควักกระเป๋าซื้อรถยนต์ใหม่ ซึ่งในขณะนี้บริษัทฯ ได้นำรถยนต์เก๋งรุ่นใหม่ออกจำหน่าย ซึ่งก็สร้างความสนใจให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ไม่น้อย

"ภาพการแข่งขันของตลาดรถยนต์ในจังหวัดชลบุรีในช่วงครึ่งปีหลัง ก็คือภาพของการอัดแคมเปญส่งเสริมการขาย ขณะที่ในส่วนของบริษัทเองก็จะมุ่งเน้นการออกบูธประชาสัมพันธ์แบรนด์สินค้า เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคลืมเรา ขณะที่ในส่วนของพนักงานขายก็จะต้องลงพื้นที่เพื่อพบปะลูกค้ามากขึ้น" แหล่งข่าวจากตัวแทนจำหน่ายรถยนต์นิสสันในจังหวัดชลบุรี กล่าว

เช่นเดียวกับดีลเลอร์จำหน่ายรถยนต์อีซูซุ ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีที่กล่าวว่า แม้ขณะนี้ผลผลิตผลไม้ของเกษตรกรในจังหวัดจันทบุรีจะเริ่มออกสู่ตลาดและทำให้เกษตรกรในพื้นที่มีรายได้จากการจำหน่ายผลไม้ แต่ยอดการจำหน่ายรถกระบะของบริษัทกลับไม่กระเตื้องขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และยังพบว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ของบริษัทในเดือนที่ผ่านมา ลดจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 20-30% โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดจำหน่ายไม่เติบโต เป็นเพราะส่วนหนึ่งลูกค้าในพื้นที่ ยังรอชมโฉมใหม่ของอีซูซุ ที่กำลังจะออกสู่ตลาดในเร็วๆ นี้

ประกอบกับภาวะความไม่แน่นอนทางการเมือง และราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นทำให้ลูกค้ายังไม่ตัดสินใจซื้อรถยนต์ในขณะนี้ ทำให้บริษัทต้องปรับแผนการตลาดด้วยการวางเป้าหมายให้พนักงานขายของบริษัทออกพบลูกค้าถึงบ้าน เพื่อนำเสนอโปรโมชันต่างๆ ที่ออกมากระตุ้นยอดขายในช่วงนี้ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดวงเงินดาวน์ที่ต่ำลง อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำและของแถมต่างๆ

ทั้งนี้ การแข่งขันในตลาดรถยนต์ของจังหวัดจันทบุรีขณะนี้ ไม่เพียงแต่การกำหนดโปรโมชั่นจูงใจลูกค้าที่เป็นมาตรการทางการตลาดที่สำคัญเท่านั้น ในส่วนดีลเลอร์จำหน่ายรถยนต์บางรายยังทุ่มเงินซื้อตัวบุคลาการทางการตลาดที่มีคุณภาพจากกรุงเทพฯ เพื่อเข้ามาสร้างยอดขายของบริษัทนั้นๆ อีกด้วย โดยภาพการแข่งขันในช่วงครึ่งปีหลังของจังหวัดจันทบุรี คาดว่าจะเห็นการแข่งขันทางการตลาดของพนักงานขายค่ายรถยนต์ต่างๆ มากขึ้น เช่นเดียวกับการเปิดบูธตามงานสำคัญต่างๆ ของจังหวัด


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.