|
'ดวงพร' เข้าวินเอ็มดีบตท.เดินหน้าล้างบางหนี้เน่า
ผู้จัดการรายวัน(31 กรกฎาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
แหล่งข่าวจากบรรษัทตลาดรองสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) เปิดเผยว่า ผลการสรรหากรรมการผู้จัดการบตท.แทนนายอุดม หอมจำปา รักษาการผู้จัดการ ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ โดยผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาคือนางดวงพร อาภาศิลป์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเงินทุน (บง.) สินเอเซีย จำกัด (มหาชน) โดยขณะที่ดำรงตำแหน่งที่บง.สินเอเชียนั้น นางดวงพรทำหน้าที่ดูแลด้านบริหารความเสี่ยงและออกจากบง.สินเอเชีย ก่อนที่จะยกระดับขึ้นเป็นธนาคารสินเอเชีย จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ ในการสรรหากรรมการผู้จัดการบตท.ในครั้งนี้มีผู้แสดงความสนใจยื่นใบสมัครเข้ามาจำนวน 6 ราย ได้แก่ นายพศิน พงษ์พิทักษ์โสภณ รองผู้อำนวยการ สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน นายฐิติภัทร ฝากตัว นายขจรศักดิ์ เจียรธนากุล ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัทบริหารสินทรัพย์รัตนสิน จำกัด นายธีรภัทร ตันศุขะ นายพิสุทธิ์ ชลากรกุล กรรมการและกรรมการบริหารธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และนางดวงพร อาภาศิลป์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บง.สินเอเซีย
"เอ็มดีบตท.คนใหม่ที่จะเข้ามานั้นจะต้องมาสะสางปัญหาต่างๆ ที่ผู้บริหารชุดเดิมทิ้งเอาไว้ โดยเฉพาะปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้นในองค์กร ซึ่งเมื่อพิจารณาดูแล้วการฟ้องร้องพนักงานที่เกิดขึ้นนั้นไม่ปรากฏว่าพนักงานมีความผิดตามที่มีการฟ้องร้องแต่อย่างใด แต่งานหนักที่เอ็มดีใหม่ต้องเจอก็คือการฟ้องร้องกลับจากพนักงานที่ไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางเพื่อเรียกร้องให้บตท.ชดเชยค่าเสียหายจากการถูกไล่ออกดังกล่าว ส่วนนโยบายการทำซีเคียวรีไทเซชั่นก็เป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลให้ไว้แก่บตท.อยู่แล้ว คาดว่าจะไม่มีปัญหากับเอ็มดีคนใหม่แต่อย่างใด" แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า ขณะนี้ทีมผู้บริหารคือนายรัฐนิติ์ พัฒนกุล กรรมการบตท. ซึ่งได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการไม่มีการเปิดเผยผลการสอบสวนความผิดของพนักงานชุดที่ 3 โดยคณะกรรมการกลางที่มี นางสาวสุภา ปิยะจิตติ ผู้ตรวจราชการ กระทรวงการคลัง เป็นประธานสอบสวน ซึ่งผลการสอบสวนพนักงานชุดที่ 3 ที่ออกมานั้นปรากกฎว่าไม่มีพนักงานผู้ใดมีความผิดตามที่ผู้บริหารกล่าวหาแต่อย่างใด
โดยสาเหตุที่ทีมผู้บริหารชุดนี้พยายามปกปิดผลการสอบสวนดังกล่าวเนื่องจากเห็นว่าหากเปิดเผยผลการสอบสวนออกไปอาจจะส่งผลต่อรูปคดีที่บตท. เคยฟ้องพนักงานชุดก่อนหน้านี้ได้ รวมทั้งหากมีการเปิดเผยผลการสอบสวนดังกล่าวออกไปอาจทำให้โดยฟ้องร้องจากพนักงานกลุ่มดังกล่าวได้ เนื่องจากทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ทำความผิดและทุจริตในองค์กร
"เชื่อว่าทีมผู้บริหารชุดเก่าพยายามเก็บเรื่องผลการสอบสวนดังกล่าวไว้ให้เงียบที่สุดจนกว่าเอ็มดีคนใหม่จะเข้ามาทำหน้าที่ ซึ่งหากเปิดเผยผลสอบสวนนี้ออกไปอาจโดนฟ้องกลับจากพนักงานกลุ่มนี้ได้เนื่องจากพวกเขาไม่ได้มีความผิดแต่อย่างใด ทั้งนี้กรณีการทุจริตโครงการสินเชื่อ 30 ปีทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาจากพอร์ตสินเชื่อของบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ (บค.) ไทยเคหะ จำกัด โดยการฟ้องร้องต่อพนักงานที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการฟ้องโทษฐานวิเคราะห์สินเชื่อบกพร่อง แต่ภาระหน้าที่ของพนักงานบตท.ไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์สินเชื่อแต่อย่างใด แต่หน้าที่วิเคราะห์สินเชื่อนั้นเป็นของบค.ไทยเคหะ" แหล่งข่าวกล่าว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|