|
ปิดดีลควบไออีซี-บลิสเทลหุ้นใหญ่สิงคโปร์ยอมขาย
ผู้จัดการรายวัน(31 กรกฎาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
แหล่งข่าวจากบริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC เปิดเผยถึงแผนการควบรวมระหว่างการ บมจ.อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง กับ บมจ.บลิสเทลว่า การดำเนินการในการควบรวมกิจการจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.หุ้นของบมจ.บลิสเทล ที่ถือโดยผู้ถือหุ้นใหญ่จากสิงคโปร์ ที่ถือหุ้นประมาณ 20% ของหุ้นทั้งหมดจะเป็นการขายให้บริษัทโดยตรง 2.ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่เป็นผู้ถือหุ้นไทยจะมีการแลกกับหุ้น IEC ในสัดส่วน 1:1 โดยบริษัทจะนำหุ้นในส่วนที่ยังสามารถขอมติคณะกรรมการบริษัทเพิ่มทุนได้มาใช้ซึ่งขณะนี้บริษัทยังมีหุ้นเพิ่มทุนที่ยังสามารถขอมติได้อีกจำนวน 471 ล้านหุ้น
ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าไปซื้อหุ้น BLISS จากผู้ถือหุ้นสิงคโปร์และการแลกหุ้นกับผู้ถือหุ้นใหญ่ไทยจะทำให้บริษัทกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน BLISS โดยทันที โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาถึงรายละเอียดในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากหากบริษัทดำเนินการทั้ง 2 เรื่องในครั้งเดียว จะทำให้การเข้าไปถือหุ้นเกินจากเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.กำหนดในเรื่องเจตนาในการครอบงำกิจการ ทำให้บริษัทจะต้องทำรายการเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) โดยบริษัทอาจจะแบ่งการทำรายการดังกล่าวออกเป็น 2 ครั้ง เพื่อไม่ต้องทำคำเสนอหุ้นทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามทั้ง 2 วิธีมีประโยชน์ที่แตกต่างกันทำให้บริษัทจะต้องศึกษาถึงประโยชน์สูงสุดอีกครั้ง
"จำนวนหุ้นที่บริษัทจะต้องขอมติคณะกรรมการของบริษัทในการเพิ่มทุนคงไม่มาก เพราะบริษัทยังเหลือหุ้นที่สามารถเพิ่มทุนได้ถึง 471 ล้านหุ้น ขณะที่ BLISS มีหุ้นที่จะใช้แลกในครั้งนี้ไม่มาก ส่วนการควบรวมในครั้งนี้จะจบสมบูรณ์เมื่อไหร่จะต้องรอผลจากที่ปรึกษาให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งเมื่อได้ผลสรุปคงใช้เวลาอีกไม่มาก" แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับวัตถุประสงค์ในการควบรวมกิจการของทั้ง 2 บริษัทในครั้งนี้ เพื่อเป็นการขยายธุรกิจเนื่องจากทั้ง 2 บริษัทมีความถนัดในการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกัน โดยในส่วนของ IEC ถนัดในเรื่องการค้าส่งรวมถึงการส่งออก ขณะที่ BLISS มีความถนัดในเรื่องค้าปลีกซึ่งหาก 2 บริษัทมีรวมกันในแง่ของต้นทุนการขายก็จะลดลงขณะที่รายได้ของบริษัทก็จะเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากเพราะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแข่งขันกัน
"หลังการจากรวมทั้ง 2 บริษัทอาจจะมีการเปลี่ยนชื่อบริษัทแต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดถึงในเรื่องดังกล่าวเนื่องจากจะต้องหารือกันในรายละเอียดให้เรียบร้อยก่อน" แหล่งข่าวกล่าว
โดยขั้นตอนจากนี้ ยังรอการศึกษารวมถึงการประเมินราคาที่เหมาะสมของราคาหุ้นบริษัทจากที่ปรึกษาทางการเงินผู้บริหารของทั้ง 2 บริษัท รวมถึงการหารือร่วมกันในเรื่องโครงสร้างชองบริษัท เพื่อให้พร้อมกับเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น และให้การดำเนินการไม่สะดุดโดยในเรื่องการคำนวณราคาหุ้น ณ ขณะนี้ถือว่าเป็นเรื่องสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คณะกรรมการบริษัทให้ความสำคัญเกี่ยวกับผลการควบรวมกิจการคือทั้ง 2 บริษัทจะต้องได้รับประโยชน์ซึ่งกันและกันแม้ว่าขณะนี้ราคาในกระดานที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของทั้ง 2 บริษัทจะต่างกันก็ตาม
อนึ่ง ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ BLISS ณ วันที่ 24 เม.ย. ประกอบด้วย 1.AUDIOVOX CORPORATION จำนวน 30,000,000 หุ้น หรือ 13.04% 2.NETWORK MANAGEMENTSOLUTIONS PTE. LTD. จำนวน 21,000,000 หุ้น หรือ 9.13% 3.UOB KAY HIAN PRIVATE LIMITED จำนวน 20,700,000 หุ้น สัดส่วน 9.00% 4.นางสาวจงกลณี เขมะจันตรี จำนวน 12,733,197 หุ้นหรือ 5.54% 5. น.ส.ประกายดาว เขมะจันตรี จำนวน 11,331,000 หุ้น หรือ 4.93% 6. นายอรรถวิชญ์ เอกธนิตพงษ์ จำนวน 10,306,300 หุ้น หรือ 4.49%
สำหรับราคาหุ้นในช่วงปรากฎข่าวการควบรวมกิจการตั้งแต่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมาพบว่าราคาหุ้น BLISS เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ปิดที่ 4.54 บาท ก่อนที่ทางบริษัทจะมีการปฎิเสธข่าวในประเด็นดังกล่าวส่งผลทำให้ราคาปิดต่ำสุดอยู่ที่ 3.50 บาท ลดลง 1.04 บาท หรือ 22.90% เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านก่อนจะปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นทำให้ราคาหุ้นปรับตัวไปสูงสุดที่ 5.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.96 บาท หรือ 21.45% โดยหากเทียบราคาตั้งแต่ (27 มิ.ย.-28 ก.ค.) ราคาปรับตัว เดือนที่ผ่านมาของทั้ง 2 บริษัท ราคาปรับตัวลดลง 0.14 บาท หรือ 3.08%
ด้านราคาหุ้น IEC ณ วันที่ 27 มิ.ย. ราคาปิดที่ 2.76 บาท ก่อนจะปรับตัวลดลงไปต่ำสุดที่ 2.04 บาท ลดลง 0.72 บาท หรือ 26.08% เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ก่อนที่ราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยราคาปิดสูงสุดอยู่ที่ 4.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.24 บาท หรือ 44.92% โดยหากเทียบราคาตั้งแต่ (27 มิ.ย.-28 ก.ค.) ราคาปรับตัว เดือนที่ผ่านมาของทั้ง 2 บริษัท ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.74 บาท หรือ 26.81%
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|