กู้เงินต้องมีตัวช่วย


นิตยสารผู้จัดการ( สิงหาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

บริษัทลีฟสมาร์ทกำลังนำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาต่อยอดให้เกิดเป็นธุรกิจใหม่ที่พวกเขาถนัด โดยใช้ช่วงเวลาที่สถาบันการเงินกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในการหาลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาขอใช้สินเชื่อ โดยเฉพาะโครงการที่อยู่อาศัย เพราะการให้กู้ซื้อบ้านถือเป็นตลาดใหญ่ของสถาบันการเงินในขณะนี้

"บริการโฮมสมาร์ท คือที่ปรึกษาของผู้ซื้อบ้านที่กำลังหาเงินกู้จากธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่นๆ ซึ่งในรูปแบบเดิมลูกค้าต้องใช้เวลานานในการเสาะหาข้อมูลสินเชื่อ และต้องกลับมาเปรียบเทียบว่าธนาคารไหนเงื่อนไขดีที่สุด ขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลานานเกือบ 1 เดือน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าได้ข้อมูลครบหรือไม่ เราจึงเข้ามาดูแลและจัดการ ตรงส่วนนี้ให้ลูกค้า" กรรมการบริษัท ลีฟสมาร์ท นฤนาท รัตนะกนก อธิบายบริการของบริษัท ในงานเปิดตัวบริษัท

การทำงานงานของบริษัทลีฟสมาร์ทจะเหมือนกับโบรกเกอร์ หรือนายหน้า ที่จะมีข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสินเชื่อของธนาคารและสถาบันการเงินทุกแห่ง โดยลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านและมองหาสินเชื่อ ต้องติดต่อมาที่บริษัท พร้อมกับให้รายละเอียดตั้งแต่รายได้ ภาระหนี้สิน วงเงินและระยะเวลาที่ต้องการใช้สินเชื่อ จากนั้นบริษัทก็จะรวบรวมข้อมูลและหาสินเชื่อให้ตรงกับความต้องการมากที่สุด โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานว่าลูกค้าจะได้ผลประโยชน์สูงสุด เมื่อลูกค้าเลือกได้แล้ว ก็จะช่วยจัดเตรียมเอกสารประกอบการขอสินเชื่อ และเสนอเรื่องให้สถาบันการเงินพิจารณา

เขาย้ำด้วยว่า ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที และสัดส่วนที่ธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อของลูกค้าที่ใช้บริการของลีฟสมาร์ท สูงถึง 90%

สิ่งที่ทำให้บริษัทมั่นใจถึงระดับนี้ ก็คือผู้บริหารระดับบนของบริษัทเกือบทั้งหมดคือคนในธุรกิจการเงิน เริ่มจากตัวนฤนาทเอง ทำงานกับ Citicorp Finance and Securities มานานและตำแหน่ง ล่าสุดก็คือกรรมการผู้จัดการบริษัท GF Finance and Securities

ส่วนประธานกรรมการบริษัทก็คือ อนุตร จาติกวณิช ที่ขณะนี้เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท Glow พลังงาน และบริษัท Glow Hemraj เขาคนนี้เป็นน้องชายของกรณ์ จาติกวณิช ผู้บริหารบริษัท เจเอฟ ธนาคม ก่อนที่จะผันตัวเองเข้าสู่วงการเมือง

กรรมการบริษัทที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือ ธงชัย ศรีสมบูรณานนท์ ขณะนี้ทำงานที่เดียวกับอนุตร คือ บริษัท Glow Hemraj สำหรับธงชัยเป็นน้องชายของเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่กำลังลงทุนในโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่กับกลุ่มแคปปิตอล แลนด์ ของสิงคโปร์

ส่วนทีมบริหารระดับรองลงมา และทีมงานที่ทำงานเต็มเวลา ก็ผ่านงานทั้งธนาคารพาณิชย์และกระทรวงการคลังมาแล้ว

คนที่คลุกคลีในธุรกิจการเงินมานานแบบนี้ ย่อมต้องรู้ว่าธรรมชาติของแต่ละธนาคารเป็นอย่างไร ทำอย่างไรถึงจะกู้ได้ แต่นฤนาทก็ย้ำว่า การขอสินเชื่อทุกขั้นตอนตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรมากกว่านี้

สำหรับการให้บริการลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาไม่ต้องเสียค่าบริการ แม้แต่บาทเดียว โดยบริษัทจะมีรายได้จากสถาบันการเงินที่ให้กู้ที่จะให้เปอร์เซ็นต์กับบริษัทหากลูกค้าผ่านการอนุมัติ โดยสัดส่วนค่าตอบแทนบริษัทตั้งไว้ที่ 5%

ในช่วงต้นบริษัทให้บริการ 3 รูปแบบคือ กู้เงินซื้อบ้านใหม่ ย้ายสถาบันการเงิน และการขอสินเชื่ออเนกประสงค์ หลังจากนั้นก็จะขยายไปสู่ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต รถยนต์ และสุดท้ายบัตรเครดิต ซึ่งจะทำในลักษณะเดียวกับการให้บริการสินเชื่อบ้าน

เมื่อดูแล้วผู้ที่ได้ประโยชน์มากที่สุดน่าจะเป็นผู้ซื้อบ้าน แต่ความจริงแล้ว ผู้ประกอบการที่อยู่อาศัยคือผู้ที่ได้มากที่สุด เพราะมั่นใจได้ว่าลูกค้ามีโอกาสได้สินเชื่อมากขึ้น และสิ่งที่ตามมาก็คือสามารถโอนบ้านได้เร็วขึ้น

ยิ่งภาวะที่สถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อแบบนี้ มีมืออาชีพที่รู้เท่าทันธนาคารมาจัดเตรียมความพร้อมให้ลูกค้า ยอดขายก็จะวิ่งฉิวต่อไป


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.