"เธอะ ทวิน ปราจินแอนด์ ขวัญชัย" เป็นชื่อที่ยังไม่คุ้นหูกันนัก
แต่ชื่อ "ปราจิน" และ "ขวัญชัย" ดูจะเป็นที่มักคุ้นของผู้คนที่อยู่ในวงการยานยนต์ของเมืองไทย
หรือแม้แต่ผู้คนที่ชอบเข้าชมงานแสดงรถยนต์ที่จัดในเมืองไทยตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา
"เธอะ ทวิน ปราจิน แอนด์ ขวัญชัย" คือการร่วมมือทางธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นทางการครั้งแรกของแฝดต่างฝาคู่นี้
เป็นการร่วมมือที่มีความหมายแฝงอยู่ในตัว !
บริษัท เธอะ ทวิน ปราจิน แอนด์ ขวัญชัย จำกัด หรือ "THE TWIN PRACHIN
& KWANCHAI" มีทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาทถือหุ้นโดยปราจิน เอี่ยมลำเนา
32%, ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ 32% และญี่ปุ่น 15% ที่เหลือเป็นผู้ถือหุ้นชาวไทย
ซึ่งเป็นพรรคพวกเพื่อนฝูงของทั้งปราจินและขวัญชัย
กิจกรรมทางธุรกิจที่จะประเดิมบริษัทแห่งนี้คือ การนำเข้าสินค้า ซึ่งเป็นอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ปิกอัพ
ที่เน้นในด้านของปิกอัพ ที่เน้นในด้านของปิกอัพขับเคลื่อนสี่ล้อโดยเฉพาะ
ขวัญชัยมองเห็นว่า ธุรกิจด้านนี้ในเมืองไทยยังมีไม่มากนัก ประกอบกับตลาดรถยนต์ออฟโรด
และปิกอัพขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังจะกลายเป็นตลาดใหม่ที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น
จึงน่าที่จะเข้ามาดำเนินธุรกิจในส่วนนี้
"ที่ผ่านมาตลาดรถขับเคลื่อนสี่ล้อในบ้านเรายังไม่เป็นที่นิยมกันมากนัก
แต่นับจากนี้ไป คาดว่าตลาดส่วนนี้จะได้รับความนิยมมากขึ้น การเข้ามาจับตลาดประดับยนต์หรือชิ้นส่วนสำหรับรถยนต์ปิกอัพขับเคลื่อนสี่ล้อ
จึงคิดว่าน่าจะไปได้"
การจับมือกับทางญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ผลิตและนำเข้าสินค้ามาป้อนให้นั้น ขวัญชัยมองว่า
กิจการจะไม่หยุดแค่การนำเข้ามาจำหน่ายเพียงเท่านั้น แต่ยังมองไปถึงอนาคตถ้าหากวันใดธุรกิจบูมขึ้นมา
ก็พร้อมที่จะขยายงานจนถึงภาคการผลิตขึ้นในประเทศ
และถ้ามองถึงทิศทางข้อจำกัดเรื่องต้นทุนของภาคการผลิตในประเทศญี่ปุ่นประกอบด้วยแล้ว
ความเป็นไปได้ที่การลงทุนผลิตสินค้าลักษณะนี้จะเกิดในไทยก็มีอยู่สูง
ขวัญชัยไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้นั้น
"จริง ๆ แล้วเราก็มองไปถึงขั้นนั้นเหมือนกัน เพียงแต่ว่ายังเป็นเรื่องในอนาคตอีกมาก"
การที่ขวัญชัยและปราจินเข้ามาสู่ธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าเช่นนี้ นับว่าเป็นครั้งแรกของทั้งคู่
ทั้ง ๆ ที่อยู่ในแวดวงด้านยานยนต์มานาน จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่าจริง ๆ
แล้วทั้งคู่กำลังคิดอะไร
อาจกล่าวได้ว่าปราจินและขวัญชัยเป็นเพื่อนสนิทที่มีวิถีความเป็นเพื่อนที่แปลกมาก
ปราจิน มีธุรกิจเท่าที่ทราบกันดีก็คือ การจัดงานแสดงรถยนต์ในนามมอเตอร์โชว์
ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องทุกปี ช่วงเดือนเมษายน ณ สวนอัมพร, มีธุรกิจสิ่งพิมพ์ประเภทนิตยสารอยู่ในเครือหลายเล่ม
และธุรกิจสนามแข่งรถยนต์ที่รู้จักกันในนามสนามพีระเซอร์กิต
ขวัญชัย มีธุรกิจคล้ายคลึงกับปราจินมาก ไม่ว่าจะเป็นงานแสดงรถยนต์ในนามมหกรรมรถยนต์ช่วงปลายปี
ณ เซ็นทรัลพลาซา มีธุรกิจสิ่งพิมพ์ประเภทนิตยสารในเครือหลายเล่ม ที่โด่งดังก็คือนิตยสารเกี่ยวกับยานยนต์
ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกับปราจิน
ธุรกิจของทั้งสองดูเหมือนจะเป็นคู่แข่งกันอย่างมาก และเป็นคู่แข่งที่เป็นเจ้าตลาดทั้งคู่
แต่ทั้งสองก็เป็นเพื่อนกัน
และจึงไม่น่าแปลกเลยเมื่อเกิดคำถามมากมาย ทันทีที่มีข่าวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาว่าทั้งคู่จะร่วมกันจัดงานแสดงรถยนต์ให้เป็นงานเดียวของปี
ปราจินเล่าให้ฟังว่า เขากับขวัญชัย รู้จักกันมานับสิบปี แต่ช่วงก่อนหน้านั้นก็เป็นเพียงการรู้จักในลักษณะของผู้ที่ร่วมอยู่ในวังวนธุรกิจลักษณะเดียวกันเท่านั้น
การที่ต้องแข่งขันในเชิงธุรกิจ น่าที่จะทำให้ทั้งคู่กลายเป็นศัตรูกันมากกว่า
แต่จากบุคลิกนิสัยของ ปราจินและอาจจะรวมถึงของขวัญชัยด้วย ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นมิตรกัน
"ความเป็นเพื่อนเริ่มมาสนิทกันเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมาหลังจากที่เราไปทำข่าวต่างประเทศกันบ่อย
ๆ ได้คุยกันที่สุดก็สนิทกัน" ปราจินกล่าว
เมื่อปราจินกับขวัญชัยคบค้าเป็นเพื่อนสนิทกันเช่นนี้ จึงทำให้ธุรกิจที่ดำเนินการอยู่กลายเป็นการเสริมสร้างอิทธิพลให้แก่กันและกันไปโดยปริยาย
ไม่มีใครปฏิเสธว่าปราจินและขวัญชัยมีอิทธิพลเพียงใดในแวดวงยานยนต์เมืองไทย
แต่แม้จะคบค้ากันมาหลายปี การจับมือทางธุรกิจก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่าย
โดยเฉพาะงานใหญ่ อย่างการรวมงานแสดงรถยนต์เป็นงานเดียวไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ
แนวคิดการบริหารและดำเนินงาน
ที่สำคัญการร่วมและแบ่งสรรผลประโยชน์
"ร่วมธุรกิจครั้งนี้ก็เพื่อดูว่าไปกันได้หรือไม่ ก่อนที่จะไปถึงงานใหญ่"
ปราจิน กล่าวอย่างตรงไปตรงมา
การจับมือระหว่างขวัญชัยและปราจินครั้งแรกนี้ มีความหมายเพียงอย่างเดียว
เพื่อเป็นบทพิสูจน์ อีกครั้ง ของปราจิน ในการทำธุรกิจกับเพื่อน
ที่สำคัญเป็นความรอบคอบ ก่อนที่จะถึงงานใหญ่ในวันข้างหน้า