|
อินเด็กซ์ฯ เปิดศึกราคาขายต่ำคู่แข่ง 70% ปล่อยหมัดเด็ด "Joy Price" กระตุ้นกำลังซื้อ
ผู้จัดการรายวัน(27 กรกฎาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
"อินเด็กซ์" หั่นกำไรลง 3-5% ประกาศปรับกลยุทธ์ใหม่ ส่งแคมเปญ "Joy Price" ลดราคาขายสินค้าแบรนด์อินเด็กซ์ทุกชิ้น 20-30% ส่งผลราคาขายต่ำกว่าคู่แข่งในตลาด 50-70% ยันตรึงราคาเดียวไม่มีปรับขึ้นหรือลดต่ำกว่านี้ คาดหลังออกแคมเปญยอดขายช่วงครึ่งปีหลังเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% แจงลดราคาไม่ลดคุณภาพ-สเป็ก-วัสดุ ยันสามารถคุมต้นทุนการบริหารได้ต่ำกว่าคู่แข่ง หลังนำเข้าเครื่องจักรระบบซอฟแวร์ช่วยบริหารกระบวนการผลิต-ขนส่งและสต็อกสินค้า
นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด บริษัทในเครืออินเด็กซ์อินเตอร์เฟิร์น ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ "อินเด็กซ์" เปิดเผยว่า ปัจจุบันอินเด็กซ์มีสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ในประเทศ 50% และส่งออก 50% โดยยอดขายภายในประเทศแบ่งออกเป็นเฟอร์นิเจอร์แบรนด์วินเนอร์ ประมาณ 20-25%, เฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศ ประมาณ 20-25% และเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ อินเด็กซ์ 50% โดยในช่วงครึ่งปีแรก สินค้าภายใต้แบรนด์ วินเนอร์มียอดขายเติบโตประมาณ 15% และเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศ มีอัตราการเติบโต 15% ส่วนเฟอร์นิเจอร์ในแบรนด์ อินด็กซ์ ยอดขายเติบโตประมาณ 8% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย
โดยในปี 2549 บริษัทตั้งเป้ายอดขายประมาณ 6,000 ล้านบาท หรือธุรกิจมีอัตราเติบโตประมาณ 10% แต่เนื่องจากปัจจัยลบที่เข้ามากระทบ ทั้งด้านการเมือง อัตราเงินเฟ้อในระดับสูง และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อที่อยู่อาศัย ส่งผลต่อการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะตลาดที่บ้านหลังใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องมีการซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน ทำให้ยอดขายเฟอร์นิเจอร์ในตลาดชะลอตัวตามสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาอัตราการขยายตัวของบริษัทให้ได้ตามเป้าที่วางไว้ทั้งปี บริษัทได้ทำการปรับแผนกลยุทธ์ทางด้านการตลาดในสินค้ากลุ่มค้าปลีกใหม่ โดยใช้การตลาดที่เรียกว่า "Enjoy Customer Strategy " แยกออกเป็น 4 Joy คือ Joy Price (ราคา) , Joy Quality (คุณภาพ), Joy Design (การออกแบบ) และ Joy Service (บริการระดับคุณภาพ)
โดยเฉพาะแคมเปญ Joy Price จะเน้นในกลุ่มสินค้าแบรนด์อินเด็กซ์ ในทุกสาขา ทั้งในส่วนของสาขาในห้างสรรพสินค้า อินเด็กซ์ ลีฟวิ่งมอลล์ และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายใหม่ทั้งหมด โดยปรับลดราคาสินค้าในแบรนด์อินเด็กซ์ทั้งหมด ต่ำกว่าราคาปกติ 20-30% โดยบริษัทจะใช้ราคาขายสินค้าเพียงราคาเดียวเช่นนี้ตลอดไป ไม่มีการจัดโปรโมชันลดราคาที่ต่ำกว่าราคาที่ปรับลงมา หรือช่วงลดล้างสต็อกตลอดทั้งปี โดยแคมเปญดังกล่าวจะเริ่มในวันที่ 18 ส.ค. 48 เป็นต้นไป
"ราคาใหม่นี้จะถูกกว่าราคาสินค้าที่ขายอยู่ปกติเฉลี่ยประมาณ 20-30% และจะถูกกว่าสินค้าที่จำหน่ายอยู่ในตลาดทั่วไปประมาณ 50-70% ซึ่งจะยืนราคาตลอดไป" นายกิจจากล่าวให้เห็นถึงแรงของแคมเปญดังกล่าว
นายกิจจากล่าวยอมรับว่า แคมเปญดังกล่าวอาจจะทำให้กำไรที่ได้จากการขายลดลงไปประมาณ 3-5% แต่จะช่วยให้บริษัทมีปริมาณของยอดขายที่เพิ่มเข้ามามากขึ้น ช่วยขยายฐานลูกค้าที่กว้างมากขึ้น โดยคาดว่าในช่วงครึ่งหลังนี้ ยอดขายจากสินค้าในแบรนด์ อินเด็กซ์ จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 30% ซึ่งจะทำให้อัตราการเติบโตของยอดขายรวมในปีนี้ขยายตัวไปตามเป้าที่วางไว้ 10%
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่ง รวมถึงต้นทุนในการผลิตสินค้าที่สูงขึ้น ซึ่งหมายความว่า ต้นทุนในการผลิตโดยรวมของบริษัทจะต้องเพิ่มขึ้น แต่บริษัทอินเด็กซ์ฯ ยังคงมาตรฐานในการผลิตและคุณภาพสินค้าไว้เท่าเดิม ไม่ได้มีการลดขนาดของสินค้า หรือคุณภาพของวัสดุลง แม้ว่าจะมีการลดราคาขายลงก็ตาม ซึ่งสวนทางกับต้นทุนการผลิต ทั้งนี้ เหตุผลที่บริษัทสามารถปรับลดราคาขายลงได้โดยไม่มีการลดสเป็กสินค้า เนื่องจากบริษัทได้นำระบบการปรับลดต้นทุนการผลิตมาใช้
โดยในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา ผลของการนำเครื่องจักรในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณภาพเข้ามาช่วยในการลดต้นทุน และมีการปรับระบบขนส่งสินค้า-แพ็กสินค้า ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนในการขนส่งสินค้าได้มากขึ้น ล่าสุดได้ทุ่มงบลงทุน 50 ล้านบาท ในการติดตั้งระบบซอฟแวร์ เพื่อช่วยในการตรวจสอบสต็อกสินค้า เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารสินค้าและสร้างความสะดวกให้แก่ลูกค้า
นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทสามารถปรับต้นทุนลงได้มากคือ ความได้เปรียบในด้านการสั่งซื้อวัตถุดิบในปริมาณมาก ทำให้มีความสามารถในการต่อรองราคากับผู้ผลิตสินค้า (ซับพลายเออร์) ได้มาก รวมถึงการจัดส่งสินค้า ที่สามารถส่งในจำนวนปริมาณที่ใหญ่ได้ ดังนั้น การลดราคาขายลงมาของบริษัท จึงไม่ได้ส่งผลกระทบกับกำไรและต้นทุนการผลิตของบริษัท แต่ยังช่วยให้บริษัทรักษาอัตราการเติบโตของกำไรไว้ได้ในระดับเดิม
"ทางด้านการจัดกิจกรรมทางการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัทได้เตรียมงบ 30 ล้านบาท ในการประชาสัมพันธ์ครั้งนี้ เพื่อเป็นการเผยแพร่ให้ลูกค้าได้รับทราบถึงการเปลี่ยนแปลงของบริษัท" นายกิจจากล่าว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|