"ทนง" โต้ยื้อแผนควบรวมแบงก์กรุงศรี-จีอี


ผู้จัดการรายวัน(27 กรกฎาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

รมว.คลังปฏิเสธดึงแผนควบรวมธนาคารกรุงศรีฯ และจีอี ระบุขณะนี้อยู่ในขั้นตอนศึกษารายละเอียดทางกฎหมาย ด้านผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงศรีฯ เชื่อหลังมีการรวมธุรกิจกับจีอีจะส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจแบงก์ในปีหน้า

นายทนง พิทยะ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวถึงกรณีการควบรวมกิจการของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) BAY และธนาคารจีอี มันนี่ เพื่อรายย่อย จำกัด ที่มีกลุ่มจีอี แคปปิตอล เอเชียแปซิฟิค เป็นผู้ถือหุ้นว่า ในขณะนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กำลังดูรายละเอียดในแง่กฎหมายอยู่ว่าจะทำได้มากน้อยเพียงใด และการอนุมัติตามแผนที่เสนอมานั้นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือกระทรวงการคลังเป็นผู้มีอำนาจในการอนุมัติเพื่อยกเว้นให้สามารถถือหุ้นในสัดส่วนที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดได้

“ผมยืนยันว่าเรื่องจีอีและแบงก์กรุงศรีฯ จะไม่มีการดึงเรื่องไว้แน่นอน การที่ให้ต่างชาติถือหุ้นในสัดส่วน 255 เพียงรายเดียวเป็นเรื่องทางเทคนิคของข้อกฎหมาย จากเดิมที่ให้ถือได้รายละ 5% เท่านั้น เนื่องจากช่วงเกิดวิกฤติได้มีการผ่อนผันให้ต่างชาติสามารถถือหุ้นได้ 25% มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งการทำเช่นนั้นก็เพื่อการแก้ปัญหาให้สถาบันการเงินสามารถแข่งขันต่อไปได้และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจน้อยที่สุด” นายทนงกล่าว

ด้านนางชาลอต โทณวณิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY) กล่าวถึงแผนการร่วมธุรกิจกับ GE ขณะนี้ยังรอการพิจารณาของกระทรวงการคลัง โดยธนาคารยังคงดำเนินธุรกิจไปตามแผนงานเดิมที่ตั้งไว้ เพราะการร่วมธุรกิจกับ GE คาดว่าจะส่งผลต่อธนาคารในปี 50 เนื่องจากยังมีเงื่อนเวลาและเงื่อนไขบางอย่างที่ต้องรอการพิจารณาจากทางการก่อน

"อาจไม่ใช่การควบรวมกันก็ได้ เป็นเรื่องการปฎิบัติมากกว่า" นางชาลอต กล่าว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.