เอสวีโอเอเดินหมากใหม่ ขายพีซีพ่วงบรอดแบนด์ คาดดันยอดปีนี้โต 60%


ผู้จัดการรายวัน(26 กรกฎาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

เอสวีโอเอเปิดเกมเดินหมากใหม่ หันมารุกตลาดเอสเอ็มอีด้วยแคมเปญขายเดสก์ทอปและโน้ตบุ๊กพ่วงไปกับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง คว้าอินเทลและทีทีแอนด์ทีมาเป็นพันธมิตร ดึงดูดเอสเอ็มอีด้วยประเด็นราคายั่วใจ "เปิดร้านบนอินเทอร์เน็ตในราคาต่ำสุด 76 บาทต่อวัน" คาดว่ากลยุทธ์นี้จะสามารถดันยอดขายของเอสวีโอเอในปีนี้ให้โตขึ้นได้ 60 เปอร์เซ็นต์

นายวีระ อิงค์ธเนศ ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัทเอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการเพิ่มอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงลงในแพคเกจคอมพิวเตอร์พีซีของเอสวีโอเอ จะเป็นแนวทางดำเนินธุรกิจจำหน่ายคอมพิวเตอร์พีซีของเอสวีโอเอมากกว่า 2 ใน 3 ของภาพรวมในอนาคต

"การเพิ่ม High-Speed internet เป็นการเพิ่ม productivity ให้ลูกค้าสามารถนำสินค้าไอทีที่มีอยู่ในมือสามารถประยุกต์ใช้ในธุรกิจของตนได้ง่ายขึ้น คาดว่าคอมพิวเตอร์รุ่นต่อไปก็จะมีโซลูชันนี้ (พ่วงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง) เช่นเดียวกัน เป้าหมายต่อไปในอนาคตของเอสวีโอเอคือคอมพิวเตอร์กว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ที่เอสวีโอเอจำหน่ายไปจะเป็นเครื่องที่เราพ่วงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเข้าไปด้วย"

รุกเอสเอ็มอี

ดร.กฤษติกา คงสมพงษ์ อาจารย์ประจำสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ กล่าวว่าปัจจุบันไอทีมีบทบาทกับธุรกิจเอสเอ็มอีมาก โดยเฉพาะต่อการทำการตลาดทั้ง 4P อินเทอร์เน็ตจะทำให้ P ทั้ง 4 ของเอสเอ็มอีมีประสิทธิภาพมากขึ้น

"เอสเอ็มอีไทยก็เหมือนเอสเอ็มอีทั่วโลก ที่จำเป็นต้องทำการตลาด 4P ทั้งหลาย หนึ่งคือ Product อินเทอร์เน็ตจะทำให้ลูกค้าเห็นสินค้าเรา สองคือ price อินเทอร์เน็ตจะช่วยให้ลูกค้ากำหนดราคาได้ถูกใจลูกค้ามากขึ้น ขณะเดียวกันลูกค้าก็จะได้เปรียบตรงที่สามารถเทียบราคาได้อย่างสะดวก สามคือ Place ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตจากที่บ้านหรือที่ทำงานได้ สุดท้ายคือ Promotion อินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวผู้บริโภค การสื่อสารบนอินเทอร์เน็ตจึงทั้งราคาถูกและประสิทธิภาพสูง"

บทบาทของไอทีที่มีอิทธิพลต่อเอสเอ็มอีเหนียวแน่นเช่นนี้ทำให้เอสวีโอเอดึงสองพันธมิตรอย่างอินเทลและทีทีแอนด์ทีเข้าร่วม ตั้งแคมเปญชื่อ "Svoa Hi-Speed internet Solution" มีคอมพิวเตอร์ให้เลือกสามรุ่น ทั้งหมดใช้โปรเซสเซอร์ตระกูลดูอัลคอร์ของอินเทล และจะได้รับชั่วโมงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจากทีทีแอนด์ที

นายสนธิญา หนูจีนเส้ง ผู้จัดการฝ่ายขายประจำประเทศไทย บริษัท อินเทลไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าปีที่แล้วอินเทลเคยทำโซลูชันเพื่อเอสเอ็มอีร่วมกับเอสวีโอเอมาก่อน แคมเปญที่เกิดขึ้นจึงเป็นการต่อยอดสิ่งที่อินเทลเคยทำมาก่อนหน้านี้

"อินเทลไม่ได้หยุดอยู่ที่การพัฒนาโปรเซสเซอร์อย่างเดียว แต่พยายามร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมความต้องการของตลาด"

ดร.สุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าสัดส่วนลูกค้าบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของทีทีแอนด์ทีที่เป็นเอสเอ็มอี คาดว่าจะมีจำนวนราว 20 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด

"เดิมลูกค้าในกลุ่มอินเทอร์เน็ตความเร็วต่ำ หรือไดอัลอัปของทีทีแอนด์ทีที่เป็นเอสเอ็มอีมีประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ จากทั้งหมด 1.2 ล้านเลขหมาย ส่วนใหญ่เป็นการใช้วงจรเช่าเพื่อเชื่อมต่อกับสาขาใหญ่ในกรุงเทพฯ แม้ขณะนี้ยังไม่มีตัวเลขรายละเอียดผู้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่แน่นอน แต่คาดว่าไม่น้อยกว่า 20 เปอร์เซ็นต์จะเป็นเอสเอ็มอี เนื่องจากอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมีความคุ้มค่ามากกว่า โดยราคาค่าบริการไม่ขึ้นอยู่กับระยะทางการเชื่อมต่ออย่างที่เป็นในวงจรเช่า"

ดร.สุพจน์เผยว่า ทีทีแอนด์ทีจะได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่กรุงเทพฯ จากกทช.ภายในสิ้นเดือนนี้

"อินเทอร์เน็ตความเร็ว 256 กิโลบิตไม่เพียงพอ เราพิสูจน์มาแล้ว" นายวีระกล่าว โดยระบุว่า คาดหวังให้เอสวีโอเอสามารถทำสถิติส่วนแบ่งการตลาดพีซีอันดับ 3 ได้ในปีนี้ โดยคาดการณ์ยอดจำหน่ายในปีนี้ไว้ที่ 1.34 ล้านเครื่อง เติบโตจากยอดขายในปีที่แล้วถึง 60 เปอร์เซ็นต์ เป็นตัวเลขที่ปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดการณ์ในต้นปีที่ผ่านมา (อัตราการเติบโต 15-18 เปอร์เซ็นต์)


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.