กองทุนนอกรุมจีบร่วมธุรกิจรพ.พญาไท


ผู้จัดการรายวัน(26 กรกฎาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

บิ๊กพญาไท คาดหุ้น PYT กลับมาเทรดหมวดปกติได้ไตรมาส 3 นี้ ฟุ้ง10 กองทุนนอกรุมจีบหวังร่วมทำธุรกิจ ระบุยังไม่สามารถระบุรูปแบบได้ เชื่อปีนี้ได้ข้อสรุปชัดเจน ขณะที่ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 15% แตะ 4 พันล้าน พร้อมแผนปีหน้ารุกตะวันออกกลาง-ยุโรป

นายอิทธิ ทองแตง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัทประสิทธิ์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ PYT กล่าวถึงการกลับเข้ามาเทรดในหมวดปกติของหลักทรัพย์ PYT ว่า คาดว่าในช่วงไตรมาส 3/49 หุ้นของบริษัทน่าจะสามารถเข้ามาซื้อขายในหมวดปกติได้เนื่องจากผลการดำเนินงานของบริษัทมีผลกำไรสุทธิติดต่อกันตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ในหมวดบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด (Non-Performing Group)

ในส่วนของเรื่องการหากลุ่มทุนที่จะเข้ามาร่วมทำธุรกิจขณะนี้บริษัทได้รับการติดต่อจากกลุ่มทุนต่างประเทศจำนวน 10 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกองทุนที่มองเห็นแนวโน้มการเติบโตของบริษัทในอนาคต โดยความสนใจของกองทุนต่างๆ จะเข้ามาร่วมทุนในลักษณะการซื้อหุ้นเพิ่มทุน โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในเรื่องดังกล่าวภายในปีนี้

อย่างไรก็ตาม รูปแบบในการเพิ่มทุนของบริษัท ขณะนี้ยังไม่ได้มีการตัดสินใจว่าจะออกมาในรูปแบบใด ซึ่งในรูปแบบอาจจะเป็นการออกหุ้นกู้ หรือรูปแบบอื่นๆ ก็ได้ โดยหากมีการตัดสินใจในเรื่องพันธมิตรที่จะเข้ามาร่วมดำเนินธุรกิจจะมีการหารืออีกครั้งว่าจะมีลักษณะการร่วมลงทุนอย่างไร

"ขณะนี้เรายังไม่ได้สรุปในเรื่องรูปแบบการเพิ่มทุน ซึ่งคงรอความชัดเจนในเรื่องพันธมิตรก่อน แต่คาดว่าจะสรุปได้ภายในปีนี้ สำหรับความสนใจของพันธมิตรส่วนใหญ่เห็นว่าธุรกิจโรงพยาบาลเป็น Health Club และปัจจุบันโรงพยาบาลในไทยมีศักยภาพการเติบโตที่ดีเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านค่อนข้างมาก" นายอิทธิ กล่าว

นายอิทธิ กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ คาดว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 15% โดยรายได้จะอยู่ที่ประมาณ 4 พันล้านบาท จากปีที่ผ่านมารายได้อยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท ขณะที่รายได้ของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกมีการเติบโตประมาณ 13% เนื่องจากอัตราการเข้ามาใช้บริการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทงวดไตรมาส 1/49 มีกำไรสุทธิ 52.16 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิรวมในปี 48 อยู่ที่ 587 ล้านบาท

สำหรับแผนงานในการขยายไปยังตลาดต่างประเทศ คาดว่าในปีหน้าบริษัทจะเน้นการขยายธุรกิจไปที่กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และแถบยุโรป เนื่องจากกลุ่มประเทศดังกล่าวยังมีอัตราการเติบโตด้านการแพทย์มาก ประกอบกับประชาชนมีความต้องการดูแลด้านสุขภาพสูง ขณะที่ในปีนี้ยังคงให้ความสำคัญกับในประเทศเป็นหลัก โดยมีการใช้งบลงทุน 2.2 พันล้านบาท เพื่อปรับปรุงโรงพยาบาลพญาไททั้ง 3 แห่งให้มีความทันสมัย ทั้งในส่วนของเครื่องมือทางการแพทย์ และตัวอาคาร รวมถึงการออกแบบสถานที่ และเพิ่มช่องทางในการแนะนำโรงพยาบาลพญาไทให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลพญาไท เพิ่มกลุ่มลูกค้าเป้าหมายโดยเน้นไปที่กลุ่มลูกค้านักศึกษา และกลุ่มวัยเริ่มทำงานที่มีอายุระหว่าง 20-30 ปี เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวให้ความสนใจด้านผิวพรรณค่อนข้างมา โดยปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าของกลุ่มโรงพยาบาลพญาไท 90% เป็นคนไทย และ 10% เป็นคนต่างชาติ ซึ่งเพิ่มจากปีที่ผ่านมาที่สัดส่วนต่างชาติเพียง 5%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.