|
หุ้นเดินเรือไม่หวั่นสงครามระอุโบรกฯ แนะซื้อคาดรายได้Q2โต
ผู้จัดการรายวัน(21 กรกฎาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
หุ้นกลุ่มเดินเรือทรุดหลังสงครามในตะวันออกกลางระอุ โบรกฯ ยังเชื่อแนวโน้มธุรกิจยังต่อเนื่องหลังค่าระวางเรือเพิ่มขึ้น ชี้สงครามกระทบแค่เล็กน้อยเหตุไม่ต้องรับภาระจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ด้านบล.กรุงศรีฯ แนะซื้อเมื่อราคาลดลง ประเมินราคาเหมาะสม TTA ที่ 27 บาท และ PSL ที่ 34 บาท
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มขนส่งเดินเรือในช่วงที่สงครามระหว่างอิสราเอลและเลบานอนระอุขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 กรกฏาคมที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะบานปลายประกอบกับราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนในการขนส่งสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอาจจะกระทบต่อภาพรวมของธุรกิจ
ทั้งนี้บริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจเดินเรือในปัจจุบันประกอบด้วยบริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASIMAR, บริษัท จุฑานาวี จำกัด (มหาชน) หรือ JUTHA, บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือPSL, บริษัทอาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) หรือ RCL และบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA
สำหรับราคาหุ้นวานนี้ (20 ก.ค.) หุ้น ASIMAR ปิดที่ 0.96 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท หรือ 1.05% มูลค่าการซื้อขาย 0.12 ล้านบาท, หุ้น JUTHA ปิดที่ 5.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท หรือ 2.63% มูลค่าการซื้อขาย 1.75 ล้านบาท, หุ้น PSL ปิดที่ 31.25บาทเพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 4.17% มูลค่าการซื้อขาย 98.06 ล้านบาท, หุ้น RCL ปิดที่ 17.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 3.55% มูลค่าการซื้อขาย 51.15 ล้านบาท และหุ้น TTA ปิดที่ 20 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท หรือ 6.38% มูลค่าการซื้อขาย 374.83 ล้านบาท
ขณะที่ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฏาคม-19 กรกฏาคม 2549 ซึ่งเป็นช่วงสงครามในตะวันออกกลางเริ่มประทุขึ้นราคาหุ้น ASIMAR ปิดที่ 0.95 บาท ลดลง 0.03 บาท หรือ 3.06%, หุ้น JUTHA ปิดที่ 5.70 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ 1.72%, หุ้น PSL ปิดที่ 30 บาท ลดลง 1 บาท หรือ 3.23%, หุ้น RCL ปิดที่ 16.90 บาท ลดลง 1.90 บาท หรือ 10.11% และหุ้น TTA ปิดที่ 18.80 บาทเพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.53%
แหล่งข่าวนักวิเคราะห์กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์การต่อสู้ในตะวันออกกลางว่าจะรุนแรงมากขึ้น และอาจจะส่งผลต่อธุรกิจเดินเรือเนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น แต่หากพิจารณาถึงการดำเนินธุรกิจจะพบว่าธุรกิจเดินเรือจะมีรายได้มาจากการเช่าเหมาเพื่อขนส่งสินค้าซึ่งค่าใช้ค่าในเรื่องน้ำมันผู้เช่าจะเป็นผู้รับผิดชอบ แต่จากสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะส่งผลทำให้ผู้เช่าเปลี่ยนการขนส่งไปในรูปแบบอื่นบ้าง
ทั้งนี้หากพิจารณาถึงผลการดำเนินงานของธุรกิจเดินเรือยังมีแนวโน้มที่เติบโตอย่างต่อเนื่องหลังราคาค่าระวางเรือปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณความต้องการขนส่งสินค้าทางเรือก็มีสูงขึ้นซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจเดินเรือ
อย่างไรก็ตามแม้ว่าผลประกอบการของธุรกิจหลายประเภทอัตราการเติบโตจะลดลงหรือบางธุรกิจอาจจะต้องรับภาระขาดทุนเนื่องจากปัจจัยหลายเรื่องทั้งในเรื่องราคาน้ำมันอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้รายจ่ายในเรื่องดอกเบี้ยสูงขึ้น แต่กลุ่มเดินเรือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวจึงน่าจะทำให้ผลการดำเนินงานของกลุ่มในช่วงไตรมาส2/49 น่าจะยังเติบโตขึ้นทั้งเทียบกับไตรมาส1/49 และเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา
บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด ระบุว่าค่าระวางเรือตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งเป็นผลบวกจากก่อนหน้านี้ที่จีนออกมาปฏิเสธการขอปรับลดจำนวนผู้นำเข้าสินแร่เหล็กอีก 19% ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าอุปสงค์จากจีนจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงต่อไป อย่างไรก็ตามภายหลังที่รัฐบาลจีนออกมายืนยันว่า บริษัทเหล็กกล้าของจีนยอมรับการปรับลดจำนวนผู้นำเข้าแล้วนั้น คาดว่าจะยังไม่มีผลกระทบต่อปริมาณการนำเข้าโดยรวมและอาจจะยังไม่มีผลต่อค่าระวางเรืออย่างมีนัยสำคัญ
ดังนั้น คำแนะนำสำหรับการลงทุนในกลุ่มนี้ คือ ขายเมื่อราคาปรับขึ้นอย่างรุนแรงและซื้อกลับเมื่อราคาปรับตัวลดลง โดยประเมินมูลค่าพื้นฐาน หุ้น TTA ที่ 27 บาท และ PSL ที่ 34 บาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|