พลัสฯลุยต่อตลาดเช่า-ซื้อ-ขายเหตุความต้องการทะลัก


ผู้จัดการรายสัปดาห์(24 กรกฎาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

พลัสฯ ลุยตลาดเช่า-ซื้อ-ขาย หวังแชร์ส่วนแบ่งตลาด หลังประสบความสำเร็จในการเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เชื่อตลาดครึ่งปีหลังไปได้สวย เพราะความต้องการที่อยู่อาศัยทะลัก เตรียมเปิด พลัส ฯโบรกเกอร์ อีก 2 สาขาในไตรมาส 3

ถึงแม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเข้าสู่ภาวะซบเซาในช่วงนี้ แต่ยังความต้องการเช่า-ซื้อ-ขาย อสังหาริมทรัพย์ยังมีอีกมาก จึงเป็นช่องทางให้โบรกเกอร์รายใหม่เข้ามาทำตลาดกันอย่างคึกคัก ซึ่งส่วนใหญ่จะอาศัยความแข็งแกร่งและความพร้อมในด้านต่างๆ เป็นธงนำในการบุกตลาด

โดยบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ประกาศขอเข้ามามีส่วนแบ่งตลาดที่อยู่อาศัย ทั้งในรูปแบบของการเช่า-ซื้อ-ขาย เพราะมั่นใจว่าลูกค้ามีความเชื่อใจในแบรนด์ของพลัสฯมาก อีกทั้งบริษัทยังมีโครงสร้างที่แข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทแม่คือบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) คอยสนับสนุนด้านฐานข้อมูลที่แม่นยำ มีการบริหารจัดการที่ดี และมีความพร้อมด้านการเงิน ซึ่งน่าจะเข้ามาชิงแชร์ตลาดนี้ได้ นอกจากนี้ ด้วยประสบการณ์ด้านการบริหารการขายที่ยาวนาน น่าจะเป็นข้อได้เปรียบของบริษัทในส่วนนี้

ทั้งนี้ ในส่วนของธุรกิจโบรกเกอร์นั้น บริษัทรับเป็นตัวแทนในการซื้อ-ขาย-เช่า ทั้งที่อยู่อาศัย เซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ ออฟฟิต และอสังหาริมทรัพย์ทั่วๆไป ซึ่งบริษัทมีความพร้อมอยู่แล้วในทุกๆด้าน ส่วนในเรื่องของบุคลากรบริษัทก็ไม่น้อยหน้า เพราะถึงแม้จะมีบุคลากรไม่เพียงพอแต่มั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการในส่วนนี้ได้ เพราะได้จ้างชาวต่างชาติเข้ามาทำงาน เพื่อเสริมจุดอ่อน โดยเฉพาะในส่วนของข้อมูลที่ต้องสื่อสารได้หลายภาษา ทั้งอังกฤษ ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ เพราะบริษัทมีฐานลูกค้าหลายชาติ

เมธา จันทร์แจ่มจรัส ประธานอำนวยการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมของธุรกิจตัวแทนซื้อ-ขายและเช่าอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ว่า แนวโน้มน่าจะมีความคึกคักมากขึ้น และจะมีอัตราเติบโตขึ้นเล็กน้อย เพราะมีปริมาณสต็อกที่อยู่อาศัยเข้ามาในตลาดเพิ่มมากขึ้น รวมถึงธนาคารพาณิชย์ต่างมีการนำสินทรัพย์ประเภทมือสองที่มีอยู่มาเปิดขายในมหกรรมต่างๆ นอกจากนี้ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการที่อยู่อาศัยยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง

ส่วนการตอบรับในการใช้บริการของ พลัสโบรกเกอร์นั้นได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะสาขาที่ดอนเมือง ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่ต้องการบ้านเช่าและหาซื้อบ้าน,คอนโดมิเนียม ส่วนสาขาที่สุขุมวิท24 เป็นกลุ่มลูกค้าที่ค่อนข้างตรงมากส่วนใหญ่จะเป็นญี่ปุ่นและยุโรปที่ต้องการเช่าบ้านและคอนโดมิเนียม ส่วนใหญ่ต้องการบ้านราคาเฉลี่ยประมาณ 3 ล้านบาท

โดยในไตรมาส 3 นี้ บริษัทมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 2 แห่ง คือ สาขาอาคารสิริภิญโญและช็อปอีก 1 สาขา ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมสุขุมวิท พลัส หลังจากที่ประสบความสำเร็จมาแล้วจาก 5 สาขาที่เปิดให้บริการ อาทิ สนามบินดอนเมือง, สยามพารากอน, อาซ่า การ์เด้น , สุขุมวิท 24, เซ็ลทรัล ชิดลม และหัวหิน

เมธา กล่าวว่าถึงแม้ว่าบริษัทจะเพิ่งเข้ามาทำตลาดตัวแทนการขายได้เพียง 6 เดือน แต่บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ราว 91ล้านบาท หรือคิดเป็น 51% ของเป้าที่ตั้งไว้ และมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดรายได้รวมตามเป้าที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน

คงต้องจับตามองว่า ธุรกิจโบรกเกอร์ ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จะมีผู้ประกอบการอีกหลายค่ายที่กระโดดเข้ามาร่วมทำธุรกิจกันมากขึ้น เพราะต่างมองว่าเป็นตลาดที่ใหญ่และสามารถเข้ามาแบ่งส่วนแบ่งทางการตลาดได้อีกมาก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่ว่า ใครมีฝีมือ มีประสบการณ์ มีโครงสร้างที่แข็งแกร่งก็จะสามารถเข้ามามีส่วนแบ่งทางตลาดได้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.